เคสกันกระแทก Mous ได้ใช้งานครั้งแรกช่วงปลายปี 2017 ถึงต้นปี 2018 ในช่วงที่ iPhone X เปิดตัวออกมาใหม่ ๆ โดยความโดดเด่นของเคสนี้อยู่ที่การกันกระแทกจากที่สูง (มาก) ได้ โดยที่หน้าจอ iPhone ไม่แตกและทำให้เครื่องนั้นรอดพ้นจากการตกมานับครั้งไม่ถ้วน
รีวิวเคส Mous รุ่น Clarity เคสใสกันกระแทก iPhone XS XR รุ่นแรกจาก Mous
ก่อนที่จะรีวิวเคสรุ่นล่าสุดทีมงานขอนำผลงานเก่าในซีรีส์ของ Mous มาให้ชมกันก่อนซึ่งทีมงานเคยรีวิวสุดโหดเคส Mous ให้ได้ชมกันแล้วใครยังไม่เคยดูสามารถย้อนชมได้ที่ รีวิว Mous เคสกันกระแทก iPhone X, 8, 7, 6 สุดโหด ตกตึกเครื่องไม่แตก มีคลิป!!
ต่อมาในปี 2019 นี้เป็นช่วงของ iPhone XS, XS Max และ XR เปิดขายตั้งแต่ปี 2018 เคส Mous ได้มีการปรับปรุงรุ่นใหม่ในรุ่น Mous Limitless 2.0 ให้รองรับ iPhone XS Max, XR รายละเอียดรุ่นใหม่อ่านได้ที่ รีวิว Mous Limitless 2.0 สำหรับ iPhone XS Max เคสกันกระแทกที่สวย ทนทาน ใส่แล้วอุ่นใจ
และล่าสุดก็ปล่อยเวอร์ชันใหม่เป็นเคสใสถือว่าเป็นตัวแรกจากแบรนด์ Mous ซึ่งเป็นรุ่นที่ทีมงานจะรีวิวให้ได้ชมกันในวันนี้ครับ
1. แกะกล่องพร้อมเช็คสเปก Mous Clarity
อุปกรณ์ที่มีในกล่องรอบนี้มีเพียงเคส Mous โดยสิ่งที่หายไปเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าคือฟิล์มชนิด TPU ที่จะแถมมาด้วย
มาดูสเปกกันบ้าง
- คุณสมบัติเฉพาะของ Mous ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า AiroShock ซึ่งเป็นวัสดุที่มี Air Pocket อยู่ภายในจำนวนมาก ทำให้สามารถช่วยลดแรงที่เกิดจากการตกกระแทก ไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโทรศัพท์เมื่อตกจากที่สูงได้อย่างดีเยี่ยม
- วัสดุ ด้านหลังใช้พลาสติกเเข็ง (Polycarbonate) + ด้านข้างรอบเคสใช้ยาง TPU Bumper (Thermoplastic Polyurethane)
- ฝาหลังได้รับการเคลือบ Scratch Resistant Coating ช่วยให้ตัวเคสเกิดรอยขีดข่วนขึ้นได้ยากกว่าปกติ
- ด้านในตัวเคสเป็นจุดเล็ก ๆ แบบ INNER DOT PATTERN ช่วยป้องกันการดูดของตัวเคสได้ดี
- ขนาด กว้าง 8.3 ซม. ยาว 16.2 ซม. หนา 1.2 ซม. วัสดุเคสหนา 2.6 มม.
- น้ำหนัก 44 กรัม (iPhone XS Max) สำหรับ iPhone XS, XR นั้นจะน้อยกว่านี้ประมาณ 1-2 กรัม
- ดีไซน์ตัวเคสเป็นเเบบ Sleek Design ซึ่งเมื่อสวมใส่เเล้วจะเพิ่มความหนาให้กับตัวเพียงเล็กน้อยทำให้ตัวเครื่องดูไม่ใหญ่ขึ้น
- ช่องเลนส์บนตัวเคสมีความกว้างพอดีกับตัวเลนส์จึงไม่สะท้อนกับแสงแฟลชเมื่อใช้งาน และสามารถป้องกันเลนส์ได้
- ตัวเคสให้ผิวสัมผัสที่หนึบจับเเล้วรู้สึกกระชับมือ เเละยังให้ความรู้สึก Smooth เมื่อถือใช้งาน
- เมื่อใส่เคสรุ่นนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Wireless Charger ได้ปกติ
- พอร์ตชาร์จเว้นช่องเอาไว้ปกติ
- ลำโพงเว้นช่องปกติเท่ากับช่วงของช่วงลำโพง
- ไมโครโฟน ส่วนนี้จะเว้นช่องไว้เยอะเกิน
- มีชิ้นยางสำหรับปุ่ม Sleep/Wake, ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และเว้นช่องสำหรับปุ่มเปิด/ปิดเสียง
- ด้านหลังเคสมีการทำลายโลโก้เเบรนด์ Mous ที่มาช่วยเพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้นครับ
- ตัวเคสออกเเบบให้สวมใส่ เเละถอดออกง่ายไม่ทำให้ตัวเครื่องเป็นรอย
- ตัวเคสเองไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วน ที่เกิดจากของมีคม ที่เป็นรอยลึกๆ ได้ครับ
- เนื่องจากเป็นเคสใส อาจเกิดรอยนิ้วมือด้านหลังของเคส หรือด้านในของเคสขณะสวมใส่ เเต่ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดออกง่ายเช่นกัน เเละรอยขนแมวบางๆ บ้างเมื่อใช้งานถือว่าปกติครับ
- ปุ่มกดเพิ่มลดเสียงใช้งานได้ง่ายดี
- ปุ่ม Side Button กดใช้งานได้ง่าย
เทียบกับรุ่นปกติของเคส Mous สิ่งที่แตกต่างแน่นอนนั่นคือฝาหลังเน้นความใสให้สามารถมองเห็นตัวเครื่องได้ ซึ่งส่วนนี้จะสูญเสียความสามารถในการดูดซับแรงกระแทกไป เพราะว่ารุ่นปกตินั้นส่วนของเคสหลังจะเป็น TPU ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่านั่นเองครับ
ส่วนบริเวณด้านข้าง AiroShock ยังทำหน้าที่ได้ดีและถือว่ารองรับแรงกระแทกได้ดีเช่นเดิมครับ
ชมเคสจริง
รุ่นที่ได้มาทดสอบรอบนี้มี 2 รุ่นได้แก่ Mous Clarity สำหรับ iPhone XS Max และ iPhone XR
ขอบเคสผลิตจาก TPU ให้ความยืดหยุ่นและมีความแข็งโดยจะผสมผสานเทคโนโลยี AiroShock (ส่วนสีเขียว) ด้านในเอาไว้ด้วย จุดนี้ถือเป็นจุดที่ดูดซับแรงกระแทกหลักของเคสเลยก็ว่าได้ครับ
โดย PC ใสนั้นจะมี INNER DOT PATTERN ช่วยป้องกันการดูดของตัวเคสจึงไม่ทำให้เกิดลายน้ำ
สำหรับความใสลองเทียบดูจากภาพด้านล่างนะครับ
ติดตั้งเข้ากับตัวเครื่องกันบ้างถือว่ามีความสวยงามมากเลยทีเดียว ขอบสีดำยิ่งทำให้ตัวเครื่องดูโดดเด่นขึ้นมาอีก ยิ่งถ้าใส่กับ iPhone XR สีแจ่ม ๆ จะยิ่งโดดขึ้นไปอีก
บริเวณกล้องหลังเคสจะสูงกว่าเลนส์กล้องดังนั้นไม่ต้องห่วงว่ากล้องจะเป็นรอยนะครับ
ที่อยากติหน่อยก็เป็นส่วนของช่องไมโครโฟนที่ไม่ปรับให้เท่ากับที่ iPhone ออกแบบมา ส่วนเรื่องการใช้งานร่วมกับสายชาร์จก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ
ด้านข้างปุ่มกดเพิ่มลดเสียงจะมีปุ่มยางคลุมและเว้นช่องของ Mute Switch
ขอบเคสด้านหน้าจะยกสูงมากกว่าหน้าจอ หมดห่วงเรื่องคว่ำจอลงบนโต๊ะแล้วจะขูดกับพื้น ทั้งนี้เคสสามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มกระจกแบบเต็มจอได้ ที่ติดตั้งอยู่ก็เป็นฟิล์มกระจกจาก Focus ใช้งานได้อย่างปกติ
การจับใช้งานรู้สึกว่าขอบ TPU ใหม่ที่มีในรุ่นนี้เป็นผิวเรียบจึงมีความลื่นกว่ารุ่นก่อนหน้า เพราะรุ่นธรรมดาก่อนหน้านั้นขอบจะเป็นผิวด้านจึงจับกระชับและไม่ลื่นเท่ารุ่น Clarity ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วชอบขอบแบบแรกมากกว่าครับ
การทดสอบความแข็งแรง Mous Clarity
จะอึดถึกขนาดไหนก็รับชมได้ตามคลิปนี้เลยครับ ทีมงาน 425Degree ได้ทดสอบให้ดูเป็นที่เรียบร้อย
สรุป
สำหรับเคส Mous Clarity นั้นถือเป็นรุ่นแรกของ Mous ที่ผลิตเคสใสออกมาซึ่งจุดที่อุ่นใจและไว้ใจได้นั่นคือการกันกระแทกด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ AiroShock ของทาง Mous เอง ช่วยให้อุ่นใจได้ว่าหาก iPhone หล่นลงพื้นระดับการใช้งานทั่วไปก็จะไม่ทำอันตรายให้กับตัวเครื่อง
เรื่องความแข็งแรงทนทานขั้นเทพนั้นคงสู้รุ่นพี่ไม่ได้เพราะด้วยวัสดุฝาหลังที่ผลิตจาก PC ใสซึ่งแน่นอนว่าการรับแรงกระแทกและการกระจายแรงนั้นทำได้ไม่ดีเท่า TPU แบบในรุ่นก่อน ซึ่งต้องยอมรับส่วนนี้ครับ และขอบเคสส่วนที่เป็น TPU รุ่นแรกจะมีความแข็งมากกว่า Clarity ตัวนี้
เคสนี้ใส่แล้วจะได้ความสวยงามในอีกแบบฉบับและแน่นอนว่าการกันกระแทกนั้นทำได้ดีกว่าเคสใส่ชิ้นละ 100 บาทอย่างแน่แท้ ถ้าหากให้คะแนนเรื่องปลอดภัยเทียบกับรุ่นแรกผมให้ รุ่นแรกผมให้เต็ม 5/5 ส่วนรุ่นนี้จะอยู่ที่ระดับ 3.8/5 เพราะจากที่ดูการเทสของทีมงาน 425Degree และการทดสอบของ iMoD เอง แล้วเห็นได้อย่างชัดเจนกว่ารุ่นพี่ (Mous Limitless) นั้น ไม่กว่าจะกระแทกแรงเพียงใดเครื่องยังรอดจากหน้าจอแตกมาได้ ส่วน Clarity นั้นตก 5 เมตร ครั้งเดียวจอดเลย
เอาเป็นว่าใครอยากได้เคสใสสำหรับ iPhone ผมว่า Mous Clarity นี่แหละที่เหมาะสมทั้งเรื่องความสวยงามและกันกระแทกได้เป็นอย่างดีอุ่นใจเมื่อใช้งานแล้ว
สั่งซื้อเคส Mous Clarity สำหรับ iPhone X, XS, XS Max และ XR
เคส Mous Clarity สำหรับ iPhone X Series มีขายแล้วที่ 425Degree ราคาจัดจำหน่ายของทุกรุ่นอยู่ที่ 1,290 บาท
สนับสนุนการรีวิวโดย
เลือกชมสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ 425Degree และติดตามอัปเดตโปรโมชันเคสใหม่ผ่าน Facebook ที่ 425Degree และ LINE @425Degree (ต้องมี @ ด้วยครับ)
ขอบคุณข้อมูลสเปกบางส่วนจาก 425Degree