หากคิดว่าแบต iPhone 6s/6s Plus (ใช้ได้กับ iPhone 6/6 Plus ด้วยเช่นกัน) ยังเยอะไม่พอแล้วอยากได้สำรองเพิ่มอีก แนะนำเคสตัวนี้ครับ OZZIE Slim Power Case ซึ่งเป็นเคสที่มาพร้อมแบตเตอรีสำรอง(ถอดเปลี่ยนได้ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอด) คุ้มจริงๆ ซื้อเพียง 1 แต่ได้ถึง 2 อย่างเลยทีเดียว
สุดสัปดาห์สิ้นเดือนแบบนี้ทั้งเงินเดือนออกและแถมอากาศดีแบบนี้ หาไรทำดีนะ? ต้องไปเที่ยวสิคร้าบ 😀
ต้นกุมภาพันธ์เหนือและอีสานจะหนาวอีกรอบเก็บเป้และ iPhone สุดรักออกเที่ยวกันดีกว่า แต่เอ๊ะ…. เที่ยวเยอะทั้งวันถ่ายรูปอย่างสนุกสนานแล้วแบตเตอรีจะพอเหรอ? ถ้าจะพก Power Bank ก็เกะกะอีก…..
ไม่ต้องกังวลครับผมมีเคสใหม่มาแนะนำที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป มันช่วยเพิ่มไฟให้กับ iPhone 6s, 6s Plus ของเราอีก 1 รอบเต็มทำให้ใช้งานได้อย่างไม่สะดุดเลยทีเดียว
สเปคของแบตเตอรี iPhone แต่ละรุ่น
ข้อมูลเกี่ยวข้องกับความจุของแบตเตอรี iPhone ในแต่ละรุ่นซึ่งสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจซื้อแบตสำรองได้
- iPhone 6s Plus – 2,750 mAh
- iPhone 6s – 1,715 mAh
- iPhone 6 Plus – 2915 mAh
- iPhone 6 – 1810 mAh
- iPhone 5s – 1560 mAh
- iPhone 5c – 1515 mAh
- iPhone 5 – 1440 mAh
- iPhone 4S – 1430 mAh
- iPhone 4 – 1420 mAh
- iPhone 3GS – 1219 mAh
- iPhone 3G – 1150 mAh
- iPhone 2G – 1400 mAh
ต่อไปเข้าสู่ช่วงรีวิวกันเลยดีกว่าครับว่าจะน่าใช้งานขนาดไหน
แกะกล่อง
ตัวทดสอบที่ได้นำมาลองรอบนี้สำหรับ iPhone 6s Plus, 6 Plus ซึ่งความจุแบตเตอรีภายในนั้นมีอยู่ 3,000 mAh
ด้านหน้ากล่องจะบอกรุ่นที่รองรับและที่สำคัญมีเครื่องหมาย Mode for iPhone เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานกับ iPhone ได้อย่างไม่มีปัญหา
ด้านหลังกล่องจะบอกข้อมูลทางเทคนิคและปุ่มต่างๆ ไว้อย่างละเอียด
ข้อมูลทางเทคนิค
- วัสดุ :Polycarbonate + TPU
- เซลล์แบตเตอรีชนิด Lithium-Polymer
- แรงดัน Input : 5V/1A
- แรงดัน Output : 5V/1A
- พอร์ตชาร์จไฟเข้า : microUSB
- พอร์ตปล่อยไฟออก : Lightning
- ความจุแบตเตอรีและน้ำหนัก
- iPhone 6s, 6 (2,000 mAh) น้ำหนัก 80.5 กรัม
- iPhone 6s Plus, 6 Plus (3,000 mAh) น้ำหนัก 106.8 กรัม
มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทา(Grey) สีเงิน(Silver) สีทอง(Gold) และสีชมพู(Rose Gold)
ดูข้อมูลทางเทคนิคไปแล้วมาชมว่าในกล่องมีอะไรให้บ้าง สีที่นำมาทดสอบครั้งนี้เป็นสีเงิน (Silver) นะครับ
ในกล่องให้มา 5 อย่างคือ
- แบตสำรองที่มาพร้อมสายชาร์จ Lightning สามารถถอดเปลี่ยนได้
- เคสบัมเปอร์ด้านนอกเป็น Polycarbonate ส่วนด้านในเป็น TPU ไม่ทำให้เคสเป็นรอย
- เคสฝาหลังแบบใสสำหรับประกอบเข้ากับบัมเปอร์กรณีที่ไม่ใส่แบตสำรอง
- คู่มือการใช้งานภาษาอังกฤษ
- สาย microUSB สำหรับการชาร์จไฟเข้ากับแบตสำรอง
แบตสำรอง OZZIE บางเบาและยังถอดเปลี่ยนได้นี่คือความแตกต่างจากเคสแบตเตอรีในตัวรุ่นอื่นๆ จุดเด่นคือเราสามารถถอดออกแล้วชาร์จทิ้งไว้โดยยังสามารถใช้เครื่องทำงานได้ซึ่งจะปล่อยด้านหลังให้เปลือยเปล่าหรือจะใส่ฝาหลังเคสใส่เข้าไปก็ได้เช่นกัน
ด้านหลังจะมีสาย Lightning ที่ติดอยู่ด้านหลังของเคสสามารถแกะออกได้
การติดตั้ง
ขั้นตอนการติตตั้งต้องใส่บัมเปอร์เข้ากับ iPhone ก่อนโดยเริ่มที่ส่วนบนชมตัวอย่างตามภาพด้านล่าง
วัสดุด้านในของบัมเปอร์นั้นเป็น TPU มีความยืดหยุ่นจึงไม่ทำให้ผิวของตัว iPhone นั้นเป็นรอย
หลังติดตั้งบัมเปอร์เสร็จแล้วจะได้ลักษณะดังนี้
ถ้ายังไม่ต้องการใช้แบตสำรองสามารถติดตั้งฝาหลังแบบใสเข้าไปก่อนได้ซึ่งดูแล้วก็เหมือนเคสกันกระแทกธรรมดาทั่วๆ ไป
แต่หากต้องการพลังงานเสริมสามารถถอดฝาหลังใสออกแล้วใส่แบตสำรองเข้าไปแทนที่ได้ดังนี้
เมื่อต้องการชาร์จสิ่งที่ต้องทำง่ายๆ เพียงดึงสาย Lightning ออกจากช่องเก็บ(ชมวีดีโอด้านล่าง)
แล้วเสียบเข้าไปยังพอร์ต Lightning ของ iPhone
แบตสำรองสามารถแสดงระดับของปริมาณแบตเตอรีที่เหลืออยู่ได้โดยการกดที่ปุ่มเปิด 1 ครั้งจะเห็นไฟ LED สีแดง ส้มและเขียว
- ไฟสีเขียว ส้ม แดง ติดพร้อมกัน 3 ดวง แบตเตอรีเหลือ 70-100%
- ไฟสีส้ม แดง ติดพร้อมกัน 2 ดวง แบตเตอรีเหลือ 40-70%
- ไฟสีแดงติดดวงเดียว แบตเตอรีเหลือ 10-40%
เริ่มชาร์จและหยุดชาร์จโดยการกดที่ปุ่ม เปิด/ปิด 2 ครั้งติดกัน ไฟก็จะเริ่มชาร์จให้กับ iPhone แล้ว
การใช้งานปุ่มต่างๆ สามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกดแล้วตอบสนองได้ดี ส่วนช่องที่เว้นสำหรับ Lightning พอร์ตนั้นค่อนข้างใหญ่ทำให้รองรับสายชาร์จได้ทั้งสายจาก Apple และสายของ 3rd Party ได้
การชาร์จไฟให้กับแบตสำรอง
สามารถแกะออกมาจากบัมเปอร์แล้วเสียบชาร์จแยกได้เลยถือว่าเป็นจุดเด่นที่เราไม่ต้องถอดทั้งเคสออกหรือวางชาร์จทิ้งไว้ ทั้งนี้ระหว่างชาร์จจะมีไฟ LED สีแดง (กะพริบ)แสดงสถานะให้ทราบระหว่างการชาร์จด้วย หากชาร์จเต็มแล้วไฟสีแดงนั้นจะค้าง
โดยปกติแล้วแบตสำรองตัวนี้สามารจชาร์จแบตเตอรีให้กับ iPhone ได้มากกว่า 90% ของความจุแบตเตอรีเกือบ 1 รอบเต็ม (สูญเสียค่า loss ไปนิดหน่อยจึงไม่ถึง 100%)
ดูภาพรวมกันไปแล้วผมขอนำคลิปรีวิวมาให้ชมกันนิดหน่อยครับโดยจะเน้นให้เห็นรูปลักษณ์ของตัวเคสและวิธีการใช้งาน เพราะครั้งแรกอาจจะงงๆ ว่าใช้งานกันอย่างไร
อ่านรีวิวดูรูปและคลิปกันไปแล้วผมขอสรุปประเด็นที่สำคัญของเคสตัวนี้ให้ฟังกันนะครับ
สรุป
จุดเด่นที่ที่ชื่นชอบสำหรับ OZZIE Slim Power Case ชิ้นนี้
- สามารถเป็นได้ทั้งบัมเปอร์, เคสกันกระแทกด้านหลังและทั้งเป็นแบตสำรองก็ยังได้
- ขนาดของแบตสำรองนั้นค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับเคสแบตสำรองทั่วไป
- สาย Lightning ได้มาตรฐาน MFi (Made for iPhone) ทำให้ชาร์จกับ iDevices อย่างไร้ปัญหา
- น้ำหนักเบา
- ดีไซต์สวยงามใส่แล้วดูหรูหรามีระดับ
- แบตสำรองไม่จำเป็นต้องติดตั้งกับตัวเครื่องตลอดเวลา สามารถติดตั้งเข้าภายหลังหากต้องการชาร์จได้
- สามารถนำไปชาร์จกับ iPhone เครื่องอื่นได้แม้ไม่ได้ใส่เคส OZZIE เพราะแบตสำรองมันถอดได้อยู่แล้วถือว่าสามารถช่วยเหลือเพื่อนรอบข้างที่ไม่ได้ใช้รุ่นเดียวกับเราได้ในยามจำเป็น
- มีฝาหลังเคสใสมาให้ด้วย เพิ่มการปกป้องด้านหลังของเครื่องและแถมยังโชว์สีสวยๆ ของ iPhone และโลโก้ของ Apple ได้
- ราคาเป็นมิตรมากๆ เพียง 1,290 บาทเท่านั้น (เคสบางตัวยังแพงกว่านี้เลย)
จุดด้อยที่พบ
- ไม่สามารถซิงค์ข้อมูลระหว่างชาร์จได้
- ขอบบัมเปอร์บริเวณพอร์ต Lightning เกิดอาการย้วยนิดหน่อยทำให้ไม่แนบสนิทกับตัวเครื่อง 100%
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่น่าใช้งานคุ้มค่าสำหรับการซื้อไปใช้เพราะเป็นได้ทั้งเคสและแบตสำรองในตัว ไปเที่ยวหรือพกไปทำงาน 1 วันไม่ต้องห่วงเลยว่าแบตจะหมดช่วงเย็นเพราะยังไงซะ OZZIE ชาร์จเต็มหนึ่งรอบสามารถเพิ่มพลังให้ iPhone เราอยู่ได้อีก 8-10 ชม. เลยทีเดียว อีกอย่างก็สามารถแชร์ให้คนรอบข้างใช้ได้ด้วยนี่แหละเจ๋งดี
สนใจซื้อหาได้ที่เว็บไซด์ 425Degree.com ได้เลยนะครับโดยราคาสินค้าดังนี้
- OZZIE Slim Power Case สำหรับ iPhone 6, 6s ขนาด 2,000 mAh ราคา 1,290 บาท
- OZZIE Slim Power Case สำหรับ iPhone 6 Plus, 6s Plus ขนาด 3,000 mAh ราคา 1,290 บาท
สมาชิก iPhonemod รับส่วนลดเพิ่ม 10% ด้วยการใส่โค้ด iphonemod102016 ก่อนการสั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์นะครับ (หมดเขต 31 มค. 2559 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง)
สนับสนุนการรีวิวโดย
เลือกชมเคส iPhone 6s/ 6s Plus เพิ่มเติม ได้ที่ http://goo.gl/QKXR0P ติดตามอัปเดตโปรโมชันเคสใหม่ผ่าน Facebook ที่ 425Degree และ LINE @425Degree (ต้องมี@ด้วยครับ)
แล้วพบกับรีวิวจาก iPhonemod ได้ใหม่เร็วๆ นี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ