ก่อนหน้านี้ได้แนะนำ Photofast Call Recorder อุปกรณ์บันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์บน iPhone ให้ทราบกันไปแล้ว วันนี้จะมารีวิวและบอกเล่าประสบการณ์ให้ทราบหลังการใช้งานกันนะครับ ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้นอกจากการบันทึกเสียงสนทนาได้แล้วนั้น มันยังสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง
รีวิว PhotoFast Call Recorder เครื่องอัดเสียงสนทนาพร้อมเพิ่มความจุให้ iPhone ได้ไม่จำกัด
PhotoFast Call Recorder คืออะไร? ขอสรุปสั้นๆ ให้ทราบก่อนลงรายละเอียดว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถบันทึกเสียงสนทนาระหว่างการคุยโทรศัพท์ได้ ไม่ว่าจะโทรผ่านมือถือปกติ, LINE Call, Facebook Call, Viber ฯลฯ ก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังมีหน่วยความจำในตัวและรองรับ microSD เพิ่มความจุภายนอกได้อีกด้วย
ทราบหน้าที่กันไปคร่าวๆแล้ว งั้นเราไปดูข้อมูลทางเทคนิคกันต่อเลยดีกว่า…
ข้อมูลทางเทคนิค
- เชื่อมต่อกับ iPhone, iPad และ iPod touch ผ่านพอร์ต Lightning
- ทำหน้าที่เป็น Card Reader รองรับ microSD / microSDHC / microSDXC (Low Power Mode) ความจุสูงสุด 256 GB
- มาพร้อมพอร์ต 3.5 mm สำหรับการคุยและฟังเพลง, ดูหนังได้ (การบันทึกเสียงต้องเสียบสายหูฟังที่มีไมค์เท่านั้นถึงใช้ฟังก์ชันนี้ได้)
- รองรับ iOS 8, 9, 10.x (ทดสอบกับ iOS 11 beta ก็สามารถใช้งานได้แต่ยังไม่สมบูรณ์ในบางฟีเจอร์ อนาคตรออัปเดตแอปฯก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร)
- ขนาด : 54 x 39 x 11 mm
- น้ำหนัก 11 กรัม (ไม่รวม microSD)
- รองรับการเปิดไฟล์เอกสารนามสกุลต่างๆ ได้แก่ Pages, Numbers, Keynote, doc, docx, xls, xlsx, ppt, pptx, rtf, txt(UTF-8), html, pdf
- รองรับเปิดไฟล์รูปภาพชนิด jpg, png, bmp, gif, tif, tiff, ico, xbm, cur, jpeg, CR2, ref, rw2, orf, nef, nrw, mrw, 3fr, raw, ldc, mos, met, dag, crew, paf, ppm
- รองรับไฟล์เสียง mp3, aac, aif, aiff, wav, m4a, caf
- รองรับไฟล์วิดีโอ mp4, mov, m4v (ต้องไม่ติด DRM), mkv, avi, flv, rm, rmvb, wmv, vob, 3gp, H.264
- ไม่มีหน่วยความจำในตัว
- ได้รับ MFi สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ iOS ได้อย่างไร้ปัญหา
ทราบสเปคกันไปแล้ว เดี๋ยวเราไปชมอุปกรณ์พร้อมการใช้งานจริงกันครับ
แกะกล่อง
ส่ิงที่มีมาในกล่องได้แก่ PhotoFast Call Recorder และคู่มือการใช้งานมีภาษาไทยให้เลือกอ่านด้วยครับ
หน้าตาของกล่อง PhotoFast Call Recorder เป็นกล่องกระดาษสีขาวเว้นช่องตรงกลางด้วยพลาสติกใสทำให้เห็นตัวอุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่อง พร้อมโลโก้ Made for iPhone iPad และ iPod Touch (MFi) มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ iOS ได้ และที่มุมกล่องด้านซ้ายจะมี QR Code สำหรับใช้สแกนเพื่อไปดาวน์โหลดแอป Call Recorder+ ใน App Store เพิ่มความสะดวกในการค้นหาแอปฯ
ด้านหลังกล่องจะบอกรูปแบบการใช้งานและฟีเจอร์ที่อุปกรณ์ชิ้นนี้ทำได้
ส่วนด้านข้างจะบอกข้อมูลเชิงเทคนิคเอาไว้ ทั้งขนาด, น้ำหนัก และบอกว่ารองรับอุปกรณ์ iOS ใดได้บ้าง พร้อมกับบอก microSD รุ่นที่รองรับไว้ด้วย
นี่คือรูปสินค้าจริงหลังแกะกล่องออกมาครับ
ด้านหน้าประกอบไปด้วย 3 ปุ่มไล่จากซ้ายสุดคือ ลดเสียง, เล่น/พัก, เพิ่มเสียง และปุ่มสุดท้ายคือปุ่มกดบันทึกเสียง(หรือจะกดบันทึกผ่านตัวแอปฯ Call Recorder+ ก็ได้เช่นกัน)


ด้านล่างจะมีช่องสำหรับใส่ microSD และขวามือจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แนะนำว่าให้ใช้งานร่วมกับหูฟังของ iPhone ที่แถมมาด้วย

อยากรู้ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ให้ลองเทียบกับเหรียญ 5 บาทดูครับ มันจะสูงว่าเหรียญหน่อยนึง
การใช้งาน
จะเริ่มต้นด้วยฟีเจอร์หลักคือการบันทึกเสียงสนทนานะครับ
สิ่งที่ต้องมีคือ
- สายหูฟังแบบ 3.5 มม.
- แอปฯ Call Recorder+ โหลดฟรีที่ App Store ใช้สำหรับการบันทึกเสียงสนทนา
หูฟังแบบ 3.5 มม. ที่มีไมค์ในตัว ในที่นี้ผมใช้หูฟังของ iPhone ที่แถมมาพร้อม iPhone 6s และเก่ากว่าในการเชื่อมต่อครับ ส่วนนี้อาจจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้ iPhone 7, 7 Plus เนื่องจากหูฟังที่แถมมานั้นเป็นแบบ Lightning จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Call Recorder ตัวนี้ได้ ทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือ ซื้อสายหูฟังใหม่ T^T
ประกอบร่างแบบนี้เพื่อเริ่มใช้งาน ฟังก์ชันบันทึกเสียงสนทนาบนแอปฯ Call Recorder+ จะทำงานได้ต้องเสียบสายหูฟังเข้าไปก่อนนะครับ จากนั้นอุปกรณ์จะทำการตรวจสอบอีกครั้ง ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ใช้งานได้เลยครับ
การบันทึกเสียงสามารถใช้ได้ทั้งโทรออกและรับสาย จะโทรแบบปกติผ่านเครือข่ายมือถือหรือว่าโทรผ่านแอปฯต่างๆ อย่าง LINE, Facebook Messenger, WhatsApp ฯลฯ ก็ทำได้เช่นกันครับ
วิธีการคือหลังจากเริ่มโทรออกแล้วให้กดที่ปุ่มวงกลมสีแดงที่ Call Record เพื่อเริ่มบันทึกเสียงหรือจะกดที่ปุ่มบันทึกผ่านตัวแอปฯก็ได้เช่นกัน

ขณะบันทึกเสียงที่แอปฯนั้นตัวเลขจับเวลาจะเริ่มเดินไปเรื่อยๆ และที่อุปกรณ์ Call Record จะมีไฟ LED สีแดงที่ใต้ปุ่มบันทึกเสียงกะพริบเป็นจังหวะ เมื่อจบการสนทนาให้แตะปุ่มสี่เหลี่ยมสีแดงเพื่อหยุด
และต้องกด Done เพื่อที่จะบันทึกการสนทนาในครั้งนี้ด้วยครับ
ถ้าไม่บันทึกไฟล์เสียงเหล่านั้นก็จะไม่ถูกเก็บลงในระบบนะครับ
ตั้งชื่อตามต้องการแล้วกด Save
เดี๋ยวเรามาลองฟังเสียงบันทึกสนทนาที่ได้จากอุปกรณ์ชิ้นนี้กันครับ ไม่มีการปรับแต่งใดๆ เสียงผู้ชายคือฝั่งที่ใช้อุปกรณ์นะครับ ลองฟังแล้วพิจารณาดูครับ
ไฟล์เสียงที่บันทึกเสร็จสามารถส่งต่อแชร์ผ่าน AirDrop, Email, LINE, Facebook Chat, WeChat ฯลฯ ก็ทำได้สบายเลยครับ และยังสามารถตัด(crop) ไฟล์เสียงในช่วงที่ต้องการได้อีกด้วย นี่คือฝั่งของฟีเจอร์บันทึกสนทนา ไว้ผมจะสรุปให้ฟังช่วงท้ายรีวิวอีกครั้งนะครับ เดี๋ยวขอข้ามไปอีกฟีเจอร์และที่ Call Recorder ตัวนี้ทำได้
ไม่ใช่แค่บันทึกเสียงเท่านั้น PhotoFast Call Recorder ยังทำได้อีกเยอะ!
ยอมรับว่าครั้งแรกที่ได้ลองใช้นึกว่ามันทำได้แค่บันทึกเสียง แต่ที่ไหนได้มันมีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติมด้วยครับ เช่น
- เป็น Card Reader สำหรับผ่านข้อมูลจาก microSD จากกล้องถ่ายรูป จากมือถือเครื่องอื่นๆ (Android) หรือจากโดรนสามารถนำรูปเหล่านี้ คัดลอกลง iPhone ได้เลย
- สามารถเก็บข้อมูลสำรองต่างๆ ทั้งรูป วิดีโอ รายชื่อ ฯลฯ จากเครื่อง iPhone ลงไป microSD ที่เสียบเข้าไป คุณอยากได้ความจุแค่ไหนก็ซื้อมาใส่เลย ช่วยสำรองข้อมูลเหล่านั้นออกมา ในกรณีที่ความจุใน iPhone ไม่พอ คุณสามารถลบรูปออกจาก iPhone ได้ ทำให้มีเนื้อที่กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม และสะดวกสำหรับคนที่ไม่มีคอมพิวเตอร์หรือต้องการโอนถ่ายข้อมูลออกแบบเร่งด่วน
- เพิ่มความสะดวกได้อีก โดยช่วยให้คุณดูข้อมูลจาก Cloud ต่างๆ และดาวน์โหลดลงมาเก็บได้ เช่น จาก Google Drive, DropBox, OneDrive ฯลฯ
- ถ้าอยากดูหนัง เพียงแค่คุณมีไฟล์วิดีโอจากคอมพิวเตอร์ ก็สามารถคัดลอกลง microSD แล้วเอามาเสียบกับอุปกรณ์ตัวนี้ ก็เปิดได้แล้ว ไม่ใช่แค่ไฟล์หนังนะครับ ไฟล์เพลงก็เปิดได้เช่นกัน
- อยากดูข้อมูล exif ของรูปที่ถ่ายก็ทำได้นะครับ รายละเอียดรูปรู้หมดเลย ฉลาดจริงๆ
เอาหละ นั่นคือประโยชน์ทั้งหมดที่อุปกรณ์ Call Recoder ทำได้นะครับ
ความเห็นหลังใช้งานและสรุป
PhotoFast Call Recorder เป็นอุปกรณ์ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องบันทึกเสียงการสนทนา เช่น เซลล์ขายสินค้า, ฝ่ายบุคคลสำหรับสัมภาษณ์งาน, นักข่าวที่ต้องสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์, ตำรวจที่สืบสวนสอบสวนข้อมูล ฯลฯ ก็สามารถนำไปใช้งานได้ครับ ข้อดีคือฝั่งตรงข้ามไม่รู้ว่าเรากำลังบันทึกเสียงอยู่แต่ว่า “เราควรจะแจ้งฝ่ายที่เรากำลังคุยด้วยก่อนว่าจะขอบันทึก” ทั้งนี้เพื่อเป็นการเคารพสิทธิส่วนบุคคลนะครับ
เรื่องอัดเสียงใช้งานได้อย่างที่ระบุไว้ไหม? ตอบเลยว่าทำได้จริงครับ แต่ที่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่อง “หูฟัง” ต้องหามาใช้ให้ได้ ถ้าใครใช้ iPhone 7, 7 Plus ไม่มีสายหูฟังแบบนั้นก็ต้องซื้อเพิ่มนะ และอีกหนึ่งเรื่อง คือเท่าที่ลองใช้ทั้ง iOS 10.3.3, 11 beta พบว่าแอปฯ Call Recoder+ นั้นหยุดทำงานในหลายๆ ครั้ง และต้องเปิดปิดใหม่ถึงใช้งานได้ ในจุดนี้ผมได้ส่งเรื่องไปทาง PhotoFast ให้แก้ไขแล้ว รออัปเดตแอปฯเวอร์ชันใหม่ ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
น่าเสียดายนิดนึงคือ อุปกรณ์นี้น่าจะมีไมค์ในตัวจะได้ไม่ต้องพึ่งหูฟังเสริมให้ยุ่งยาก เพราะบางโอกาสเราอาจไม่ได้พกสายหูฟังไปด้วย จุดนี้ถ้ามีการปรับปรุงรุ่นใหม่ใส่ไมค์เข้าไปด้วย จะดีมากครับ
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ผมในการทดสอบอุปกรณ์ชิ้นนี้คือ ฟีเจอร์อันหลังๆ ที่กล่าวมาครับ ที่มันสามารถเก็บรูปหรือวิดีโอ ผ่านการ์ด microSD ได้เลย มันคือฟีเจอร์ที่ผมคิดว่าคงไม่มีมาด้วย จึงนึกว่าทำได้แค่บันทึกเสียงเท่านั้น อีกทั้งความเร็วในการโอนถ่ายไฟล์เช่นการสำรองรูปจาก Camera Roll ใน iPhone ลงไปที่ microSD นั้นทำได้ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียวครับ ประทับใจมากจริงๆ และฟีเจอร์อื่นๆ ก็เยอะดีต้องเอาไปลองเล่นถามว่าสิ่งที่ได้มาคุ้มกับราคาไหม “ผมว่าคุ้มนะ(สำหรับคนที่ต้องการมันจริงๆ)”
แจ้งไว้เป็นข้อมูลเผื่อใครกำลังมองหารายละเอียดของอุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ หวังว่ารีวิวนี้น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย
ราคาเท่าไหร่และซื้อได้ที่ไหน?
ชิ้นนี้ขายอยู่ที่ 3,990 บาท สั่งออนไลน์ได้ที่ Vgadz ได้เลยครับ
ขอบคุณทาง Vgadz ที่ส่งอุปกรณ์มาให้ทีมงานได้ทดสอบ
หากเพื่อนๆ มีคำถามส่วนไหนเพิ่มเติม สามารถทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะครับ