สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ Apple Watch แล้วกำลังตัดสินใจจะซื้อใหม่หรือเป็นผู้ใช้มือใหม่ยังไม่ทราบคุณสมบัติ Apple Watch ครบถ้วน ทีมงานได้สรุปฟีเจอร์เด็ดๆ เด่นๆ ที่สามารถทำได้บน Apple Watch มาให้ชมกันค่ะ
รู้ก่อนซื้อ Apple Watch ทำอะไรได้บ้าง มีประโยชน์อย่างไร
นี่คือส่วนหนึ่งของความสามารถใน Apple Watch ที่สามารถทำได้ ซึ่งบางฟีเจอร์อาจจะมีในรุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เข็มทิศ นำทางจะมีใน Apple Watch Series 5, หน้าปัดบางหน้าปัด Infograph จะใช้ได้กับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไป หรือ การตรวจคลื่นหัวใจและตรวจจับการล้มใช้ได้กับ Apple Watch Series 4 และ 5 เท่านั้น เป็นต้น
ส่วนฟีเจอร์ที่แสดงเป็นรายการให้เห็นนี้เพื่อให้ผู้ใช้เห็นว่า
นาฬิกา Apple Watch นั้น ทำอะไรได้บ้าง?
ไปชมกัน
- ติดตามและวัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมแจ้งเตือนเวลาที่ตรวจพบว่าหัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดปกติ
- ติดตามการออกกำลังกาย รองรับการออกกำลังกายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ ว่ายน้ำ ฯลฯ รายงานข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ในแอปออกกำลังกาย (Workout) หรือจะใช้ร่วมกับแอปอื่น ๆ ก็ได้มีให้เลือกมากมายหลายแอป
- ตรวจจับการล้ม (Fall Detection) เมื่อพบว่าผู้ใช้ลื่นล้มรุนแรงและไม่มีการตอบสนองบน Apple Watch เครื่องก็จะโทรหาหน่วยฉุกเฉินทันที พร้อมส่งข้อความแจ้งเตือนให้บุคคลที่ติดต่อฉุกเฉินทราบ ใช้งานได้กับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไป
- ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG/EKG) เมื่อพบภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้วหรือความผิดปกติก็จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบ และรายงานออกมาเป็นเอกสารเพื่อส่งต่อให้กับแพทย์ได้อีกด้วย ใช้งานได้กับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไป และยังไม่เปิดใช้ในไทย
- ติดตามรอบเดือนสำหรับผู้หญิง บันทึกรอบเดือนและอาการต่างๆ แอปจะคำนวณวันตกไข่และรอบเดือนรอบถัดไปพร้อมแจ้งล่วงหน้า ใช้งานได้กับ Apple Watch Series 4 ขึ้นไป และอัปเดตเป็น watchOS 6 ขึ้นไป
- ติดตามเสียงรบกวนด้วยแอปเสียงรบกวน (Noise) เพื่อวัดความดังเสียงรอบข้างว่าเป็นอันตรายต่อการได้ยินหรือไม่ เมื่อเสียงรอบข้างดังเกินไป Apple Watch ก็จะแจ้งเตือนให้หลีกเลี่ยงพร้อมคำแนะนำด้านสุขภาพการได้ยิน
- ติดตามการนอนหลับ โดยใช้งานร่วมกับแอปติดตามการนอนอื่นๆ เช่น Sleep++, Napbot, Pillow เป็นต้น แอปจะทำงานร่วมกับ Apple Watch ที่ใส่บนข้อมือขณะนอนหลับ เพื่อติดตามว่าการนอนของเราเป็นอย่างไรบ้าง หลับลึกช่วงไหน มีเสียงกรนหรือไม่ เป็นต้น
- สร้างสมาธิ เพิ่มความผ่อนคลายได้ด้วยการใช้แอปหายใจ ฝึกหายใจเข้าและหายใจออกทุกๆ วัน
- ตามหา iPhone ได้ง่ายๆ แตะไอคอนกระดิ่งเรียกหา iPhone จาก Control Center หรือจะแตะค้างไว้เพื่อให้ iPhone ส่องแสงแฟลช
- แสดงการนำทางได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปแผนที่ (Maps)
- ฟังเพลงร่วมกับแอปเพลงได้ เช่น Apple Music (ตั้งค่าเพลย์ลิสต์สำหรับออกกำลังกายได้), Spotify เป็นต้น โดยต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธอื่นๆ เช่น หูฟัง ลำโพง เป็นต้น
- ฟังพ็อดคาสท์ได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บลูทูธอื่นๆ เช่น หูฟัง ลำโพง เป็นต้น
- บันทึกเตือนความจำใน watchOS 6 สามารถบันทึกเตือนความจำหรือสิ่งที่ต้องทำได้บน Apple Watch แล้ว
- บันทึกเสียงได้บนแอปเสียงบันทึก อัดเสียงพร้อมเก็บข้อมูลไว้บน iCloud ใช้งานได้กับ Apple Watch ที่อัปเดตเป็น watchOS 6 ขึ้นไป
- โทรได้ ถ้าหากเป็นรุ่น GPS จะสามารถใช้ Apple Watch โทรได้เมื่ออยู่ใกล้กับ iPhone แต่ถ้าเป็นรุ่น GPS+Cellular สามารถโทรได้ตลอดถึงแม้ iPhone จะไม่ได้อยู่ใกล้
- เป็นรีโมทถ่ายรูปให้กับ iPhone เมื่อเปิดแอปกล้องบน Apple Watch ก็สามารถแตะถ่ายรูปได้บนข้อมือ เหมาะสำหรับเวลาตั้งกล้องถ่าย
- เช็คพยากรณ์อากาศได้ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ฝนตก แดดออกจากแอปสภาพอากาศหรือแอปอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- คิดเลขได้ บน watchOS 6 เพิ่มแอปเครื่องคิดเลขบน Apple Watch ทำให้การคิดเลขหรือคำนวณทิปทำได้ง่ายขึ้น
- พูดคุยกับเพื่อนผ่าน Walkie Talkie สนทนากันเหมือนกับวิทยุสื่อสาร รองรับ Apple Watch ที่อัปเดตเป็น watchOS 5 ขึ้นไป
- ตั้งนาฬิกาปลุก สามารถตั้งเวลาปลุกบน Apple Watch ได้
- ตั้งนาฬิกานับถอยหลัง สำหรับจับเวลาในการทำกิจกรรมที่ต้องการ
- เข็มทิศ (Compass) สามารถบอกทิศทางได้ด้วยแอปเข็มทิศ รองรับ Apple Watch Series 5 ขึ้นไป
- โทรฉุกเฉิน (SOS ฉุกเฉิน) เมื่อเกิดเหตุร้ายหรืออุบัติเหตุ และใน Apple Watch Series 5 รุ่น GPS+Cellular ก็สามารถใช้งานโทรฉุกเฉินทั่วโลกได้อีกด้วย
- สามารถยืนยันตัวตนการลงชื่อเข้าใช้ Apple ID บน Apple Watch ได้
- สร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายและการมีสุขภาพที่ดีด้วยแอปกิจกรรม (Activity) ที่กระตุ้นให้ผู้ใช้เคลื่อนไหว ออกกำลังกาย และยืนให้ได้ตามที่กำหนด ปิดวงแหวนให้ครบ 3 วงในทุกวัน นอกจากนี้ยังมีเหรียญรางวัลให้กับผู้ที่ทำสำเร็จด้วย และมีการแข่งขันกับเพื่อน สร้างกำลังใจในการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี
- เป็นศูนย์รวมการแจ้งเตือนของแอป 3rd Party เช่น LINE, Messenger, Email, YouTube และแอปอื่นๆ อีกมากมายที่มีการแจ้งเตือน ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็วบนข้อมือ
- มีหน้าปัดบอกเวลาและข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ ให้เลือกเปลี่ยนเยอะ สวยงาม ไม่น่าเบื่อ
- Siri สั่งการได้หลากหลาย ทั้งสั่งโทรออก, สั่งเปิดเพลง, สั่งเพิ่มเสียง ฯลฯ
- ตรวจสอบคุณภาพของอากาศ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ดูจากแอปแสดงอุณหภูมิหรือแอปพลิเคชันเสริม
- ใช้จ่ายเงินผ่าน Apple Pay ฟีเจอร์นี้ยังไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทย แต่ที่ต่างประเทศนั้นรองรับแล้ว สะดวกสบายในการใช้จ่ายเป็นอย่างมาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์หรือจุดเด่นที่ Apple Watch สามารถทำได้และเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันที่ทีมงานได้หยิบยกมาแนะนำให้ชมกันค่ะ นอกจากนี้เมื่อใช้งานกับแอป 3rd Party แล้ว Apple Watch ก็ยังมีความสามารถอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน
Apple Watch Series 5 เปิดขาย 25 ต.ค. 2019 นี้
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อ Apple Watch อยู่ก็สามารถอ่านข้อมูลนี้ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจได้นะคะ ส่วน Apple Watch Series 5 เตรียมเปิดขายวันที่ 25 ตุลาคม 62 นี้ เตรียมสั่งซื้อกันได้เลย
ชมพรีวิว Apple Watch Series 5