กลับมาอีกครั้งและดีกว่าเดิมกับฟิล์มกันรอยรอบตัวสำหรับ iPhone จาก PowerShield รอบนี้จัดเต็มเพื่อ iPhone X โดยเฉพาะซึ่งทาง PowerShield ได้พัฒนารุ่นใหม่ในชื่อ Pro HD ออกมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ความพิเศษของฟิล์มกันรอยรอบตัวรุ่นนี้จะเป็นยังไง ทีมงานได้นำไปติดตั้งแล้วจะขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ
รีวิวฟิล์มกันรอยรอบตัว iPhone X รุ่น Pro HD ซีรีส์ล่าสุด ใสและทนมากมาพร้อม Self-Healing ซ่อมแซมเนื้อฟิล์มได้อัติโนมัติ
ข้อมูลทางเทคนิคของฟิล์มกันรอยรอบตัว PowerShield รุ่น Pro HD สำหรับ iPhone X ชมตามเอกสารด้านล่างได้เลย
ฟิล์มนี้จะติดเฉพาะด้านหลังเท่านั้นนะครับโดยจะติดคลุมที่ส่วนขอบของเครื่องไปด้วยทำให้ขอบบริเวณสแตนเลสนั้นถูกปกป้องด้วยฟิล์มนี้ จึงหมดห่วงในเรื่องรอยขีดข่วนต่างๆ และขนแมวที่จะเกิดขึ้นกับ iPhone X ได้เลย ซึ่งมีตัวอย่างให้ชมในคลิปด้านล่างกับ iPhone X สี Silver ของผมที่ปกติจะยัดเข้ากางเกงยีนส์ตลอด มันก็จะมีรอยขนแมวตามอายุการใช้งาน ดังนั้นฟิล์มนี้ถือว่าเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้งานที่จะป้องกันปัญหานี้นะครับ
การติดตั้งฟิล์ม
จะใช้น้ำยาพ่นลงที่ฟิล์มก่อนติด(ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะเสียเพราะ iPhone X กันน้ำได้และน้ำยาเองก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น) จากนั้นจึงทำการไล่น้ำยาออกและเก็บขอบให้สนิทกับมุมและตัวเครื่องอีกครั้ง รับชมตามคลิปได้เลยครับทั้งช่วงการติดตั้งและผลงานที่ได้ จากนั้นช่วงท้ายจะเล่าประสบการณ์ว่าติดมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ความเห็นหลังการติดตั้ง PowerShield iPhone X รุ่น Pro HD
ผมมีโอกาสได้ลอง PowerShield มาตั้งแต่สมัย iPhone 5 ที่ติดตั้งโลโก้ Apple จะยุบลงไปต่ำกว่าตัวเคสทำให้ติดฟิล์มปกติแล้วจะเกิดฟองอากาศซึ่งเป็นแบบนั้นมาจนถึง iPhone 7 ตัวฟิล์ม PowerShield ก็แก้ปัญหาเหล่านั้นได้ และตั้งแต่รุ่น iPhone 6 ขึ้นมาก็สามารถติดหุ้มรอบขอบเครื่องส่วนโค้งได้ กันรอยขีดข่วนได้ดีด้วยความที่เนื้อฟิล์มนั้นเหนียวทนทานพอสมควร
มาในรุ่น iPhone 8 และ iPhone X เมื่อพื้นของกระจกด้านหลังนั้นนำโลโก้ Apple ไว้ใต้กระจก ทำให้ติดได้ทั้งฟิล์มธรรมดาที่แถมมากับกระจักกันรอย หรือว่าฟิล์มทั่วไป โดยติดตั้งได้ไม่เกิดฟองอากาศ ถือว่าช่วยระดับนึงแต่ยังไม่สุดด้วยความที่ฟิล์มแบบนั้นจะปิดไม่เต็มกระจกด้านหลังนั่นเองครับ
PowerSheild แก้ปัญหาเหล่านั้นฟิล์มหุ้มรอบตัวรุ่นนี้ติดเข้ารูปได้สนิทดียิ่งโดยเฉพาะรุ่น Pro HD ที่ได้ติดตั้งกับ iPhone X สี Silver ที่ใช้งานมาสักระยะ(ขนแมวที่ขอบเครื่องก็เกิดแล้ว) พบว่าหลังติดตั้งนั้นน่าประทับใจเลยทีเดียวครับ
- อย่างแรกคือฟิล์มใสมากๆ ติดเข้าไปแล้วดูเหมือนว่าไม่ได้ติดฟิล์ม ใสกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ติดกับ iPhone 7 Jet Black เมื่อปีที่แล้ว
- กันรอยขีดข่วนจากเหรียญ กุญแจและของแข็งทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ ไม่ทำให้ตัวเครื่องเป็นรอยและเนื้อฟิล์มไม่ทะลุเมื่อโดนขูด(ทดสอบด้วยกุญแจ)
- กันรอยขนแมวได้ดีมาก ถูด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แรงๆ ก็ยังไม่เกิดรอย เทียบกับรุ่นเก่านั้นคนละเรื่องเลย
- ฟิล์มมีความหนืดมากกว่าขอบสแตนเลสของ iPhone X ทำให้จับกระชับมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อใช้งานไปแล้วมือมีเหงื่อ บอกเลยว่าถ้าใครไม่ใส่เคสและถือ iPhone X ระวังมันลื่นหลุดมือนะ ไม่อยากให้เจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย
- เนื้อฟิล์มดูหนาขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
- ใช้งานร่วมกับเคส Apple ได้ทั้งแบบหนังและซิลิโคน
- ใช้งานร่วมกับเคสใส (Clear) จะเจอลายน้ำ แนะนำว่าให้เลี่ยงหรือไม่งั้นก็ควรติดฟิล์มรอบตัวรุ่น Matte (แบบด้าน) ไปใช้งานแทนแบบใส Pro HD
- ใส่กับเคส UAG ได้สบาย (ทดสอบกับรุ่น Plasma)
ข้อควรระวัง
หลังติดตั้งฟิล์มรอบตัวเสร็จใหม่ๆ ควรทิ้งไว้ 3-6 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อฟิล์มเซตตัวก่อนติดตั้งเคส และไม่ควรเปลี่ยนเคสบ่อยในช่วงแรกๆ รอให้ผ่านสัก 3 วันให้เนื้อฟิล์มติดกับตัวเครื่องแล้วการถอดใส่เคสก็จะไม่น่ามีปัญหา แต่ต้องระวังสำหรับใครที่ใช้เคสกันกระแทกที่แน่นมากๆ สังเกตจากการติดตั้งและถอดเคสจะยาก ส่วนนั้นอาจจะทำให้ขอบของฟิล์มถูกสะกิดและเปิดขึ้นมาได้เล็กน้อยครับ
นั่นคือจุดหลักๆ ที่พบเจอและคิดว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มองหารายละเอียดเกี่ยวกับฟิล์มตัวนี้อยู่นะว่าน่าติดไหม จะติดดีหรือเปล่า ติดแล้วจะออกมาเป็นยังไง
ราคาและการจัดจำหน่าย
PowerShield สำหรับ iPhone X มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น
- แบบใส รุ่น Pro HD ราคา 890 บาท (ตัวเดียวกับที่เห็นในรีวิว)
- แบบใส HD ราคา 590 บาท
- แบบด้าน Matte ราคา 590 บาท
นอกจากนี้ยังมีสินค้าใหม่เป็นฟิล์มสำหรับกล้องหลัง iPhone X ให้เลือกติดกันอีกด้วยนะครับ ในราคา 150 บาท (สำหรับลูกค้า iPhoneMod ที่ติดฟิล์มกล้องหลังพร้อมฟิล์มรอบตัวด้วย ทาง JG SPACE มีส่วนลดให้ 50 บาทครับ)
สามารถติดตั้งได้ที่ร้าน JG SPACE ชั้น 2 ห้าง Centerpoint of Siam Square (ชื่อเดิม Digital Gateway) ทางเชื่อม BTS สยาม จากนั้นลงบันไดเลื่อนไป 1 ชั้น ร้านอยู่ตรงข้ามร้านอาหารญี่ปุ่น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook JG SPACE