Thitirath Kinaret
Apple Intelligence หรือ AI ของ Apple ชูโรงเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก โดยหนึ่งในหัวใจสำคัญก็คือ Private Cloud Compute คืออะไร ชมข้อมูลได้เลย
Private Cloud Compute
Apple เปิดตัว Apple Intelligence ในงาน WWDC24 ที่ผ่านมา, Apple ระบุว่า Apple Intelligence ใช้การประมวลผลบนอุปกรณ์เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ผู้ใช้เฉพาะตัวบุคคลโดยไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้ ดังนั้น Apple Intelligence จึงมีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ
เมื่อ Apple Intelligence ประมวลผลคำขอจากผู้ใช้ ระบบก็จะวิเคราะห์ว่าสามารถประมวลผลบนอุปกรณ์ได้หรือไม่ โดยถ้าต้องการความสามารถมากกว่านั้น ระบบก็จะส่งเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำขอจากผู้ใช้เท่านั้น ไปประมวลผลที่ Private Cloud Compute บน “เซิร์ฟเวอร์ ของ Apple” ที่ปลอดภัยขั้นสุด!
Private Cloud Compute ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon, ใช้ประโยชน์จาก LLM บนเซิร์ฟเวอร์ เพื่อจัดการคำขอที่ซับซ้อน พร้อมปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไปด้วย
เซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon
เซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon เป็นเซิร์ฟเวอร์ของ Apple ที่รับการประมวลผลจาก Apple Intelligence, โดยตัวเซิร์ฟเวอร์เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว ก็จะทำการประมวลผลตามคำขอ โดยไม่มีการเก็บข้อมูลหรือเปิดให้ Apple เข้าถึงได้ข้อมูลเหล่านั้นแต่อย่างใด ใช้สำหรับการประมวลผลตามคำขอของผู้ใช้เท่านั้น
เซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon สำหรับ Private Cloud Compute มีความปลอดภัยในระบบ Cloud สูงมาก ได้แก่
- Secure Enclave ช่วยปกป้องคีย์เข้ารหัสที่สำคัญบนเซิร์ฟเวอร์ เหมือนกับที่ทำบน iPhone ของผู้ใช้
- Secure Boot จะตรวจสอบว่า OS ที่ทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ ผ่านการเซ็นและยืนยันความถูกต้องแล้วเหมือนกับใน iOS
- Trusted Execution Monitor ช่วยตรวจสอบว่า มีเฉพาะโค้ดที่ผ่านการเซ็นและยืนยันความถูกต้องแล้วเท่านั้น ที่ทำงานได้
- Attestation ทำให้อุปกรณ์ของผู้ใช้สามารถยืนยันตัวตนและ Configuration คลัสเตอร์ Private Cloud Compute ได้อย่างปลอดภัยก่อนส่งคำขอ
- ผู้เชี่ยวชาญ สามารถตรวจสอบโค้ดที่ทำงานอยู่บนซิร์ฟเวอร์ Private Cloud Compute ได้ เพื่อยืนยันว่าปลอดภัยจริง ๆ
Craig Federighi ผู้บริหารฝ่ายวิศกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple เผยว่า Private Cloud Compute เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ Apple Intelligence ประมวลผลคำขอของผู้ใช้ที่ซับซ้อนด้วยความเป็นส่วนตัวได้ และเป็นระบบความปลอดภัยล้ำหน้าที่สุด ที่เคยใช้สำหรับ AI บน Cloud ขนาดใหญ่
“Private Cloud Compute ทำให้ Apple Intelligence สามารถประมวลผลคำขอที่ซับซ้อนของผู้ใช้ด้วยความเป็นส่วนตัวในระดับปฏิวัติวงการ
เราได้ขยายขอบเขตความปลอดภัยชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมบน iPhone ไปยังระบบคลาวด์ด้วยสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมความปลอดภัยที่ล้ำหน้าที่สุดที่เคยใช้มาสำหรับ AI บนระบบคลาวด์ในสเกลใหญ่
Private Cloud Compute จะใช้ข้อมูลของคุณเพื่อตอบสนองคำขอของคุณเท่านั้น และจะไม่มีการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ รวมถึง Apple และเรายังออกแบบระบบเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอิสระสามารถตรวจสอบการป้องกันได้ด้วย”
ดังนั้นในมุมมองของผู้ใช้ก็สบายใจได้ระดับหนึ่งว่า การใช้ฟีเจอร์ Apple Intelligence ในการประมวลผลอัจฉริยะนั้น ข้อมูลจะมีความปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว ไม่รั่วไหล เพราะการทำงานด้านการประมวลผลข้อมูลของ AI นั้น ต้องอาศัยข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมาก และบางส่วนก็เป็นข้อมูลส่วนตัวด้วย
การที่ Apple อธิบายเรื่อง Private Cloud Compute ก็ทำให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพรูปแบบการทำงาน การปกป้องข้อมูล และความแน่นหนาของการรักษาความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์อีกด้วย
ที่มา : Apple
