วิธีการประหยัดแบตเตอรี่มีมากมายหลายวิธีและ การสไลด์ปิดแอปที่ Multitasking ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่พูดถึงกันว่าจะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ่น เรามาชมบทวิเคราะห์กันว่าเป็นจริงหรือไม่
ปิดแอปที่ Multitasking กับการกดปุ่ม Home ออกจากแอป
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการปิดแอปผ่านการ สไลด์ปิดแอปที่ Multitasking คือ การปิดแอปไม่ให้ประมวลผลต่ออย่างสิ้นเชิง โดย iOS จะไม่จดจำสถานะหรือข้อมูลล่าสุดก่อนที่เราจะปิดแอป ส่วน การกดปุ่ม Home เพื่อออกจากแอป iOS จะบันทึกและจดจำสถานะและข้อมูลล่าสุดของแอปนั้นไว้
สถานะของแอปใน iOS
สำหรับสถานะของแอปใน iOS มีมากมายหลายสถานะซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและการใช้งานของผู้ใช้ โดยมีคร่าวๆดังนี้
- Not running: แอปไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน ไม่ใช้ CPU ประมวลผลและไม่เก็บข้อมูลอยู่ในหน่วยความจำ ทำให้แอปสถานะนี้ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ในการประมวลผล
- Inactive: แอปถูกเปิดไว้ก่อนหน้าแต่ยังไม่ถูกเรียกใช้งาน ณ ตอนนั้น อย่างเช่น แอปที่ประมวลผลอยู่ระหว่างเราล็อคหน้าจอ ข้อมูลจะเก็บไว้ในหน่วยความจำแต่ไม่ใช้ CPU ในการประมวลผล ทำให้ใช้แบตเตอรี่ไม่มากนัก
- Active: แอปกำลังถูกใช้งานอยู่ มีการใช้ CPU ในการประมวลผล บันทึกและเรียกข้อมูลในหน่วยความจำตลอดเวลาในการใช้งาน ดังนั้นจึงต้องใช้แบตเตอรี่ในการประมวลผล
- Background: แอปที่ถูกเปิดให้ทำงานเบื้องหลัง (หรือแอปที่เปิด Background App Refresh) เช่น การโหลดข้อมูลใน Facebook, LINE ซึ่งมีการใช้ CPU ในการประมวลผล บันทึกและเรียกข้อมูลในหน่วยความจำ จึงต้องใช้แบตเตอรี่ในการประมวลผล
- Suspended: แอปไม่ได้ถูกเรียกใช้งาน ไม่แสดงผลบนจอ และไม่ทำงานเบื้องหลัง ซึ่งไม่ได้ใช้ CPU ในการประมวลผล แต่มีการเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำ แอปสถานะนี้จึงไม่ใช้แบตเตอรี่
ในกรณีที่เราใช้งานแอปอยู่ (Active) แล้วทำการกดปุ่ม Home เพื่อกลับมาสู่หน้าหลัก แอปที่เราสลับออกมานั้นจะอยู่ในสถานะทำงานเบื้องหลัง (Background) ระยะหนึ่ง โดยจะมีการบันทึกข้อมูลชั่วคราวไว้ในหน่วยความจำก่อนจะถูกทำให้เป็นสถานะแช่แข็ง (Suspended) เพื่อเวลากลับมาเปิดแอปจะได้ไม่ต้องโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด
แต่เมื่อเราเปิดแอปที่ต้องการ CPU และหน่วยความจำมากขึ้น iOS ก็จะเข้าไปปิดแอปที่มีสถานะแช่แข็ง (Suspended) ให้เป็นสถานะแอปไม่ได้ถูกเปิดใช้งาน (Not running) เพื่อให้ได้พื้นที่กลับมาโดยอัตโนมัติ ทำให้บางแอปที่เราคิดว่าเปิดไว้อยู่แต่กลับถูกปิดไปส่วนหนึ่งก็มาจากสาเหตุนี้นั่นเอง
ปิดแอปที่ Multitasking คือ การปิดแอปโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นการ สไลด์ปิดแอปที่ Multitasking เป็นการปิดแอปหรือทำให้แอปที่มีสถานะที่กำลังใช้งานอยู่ (Active, Background, Suspended) ให้กลายเป็นไม่ถูกใช้งาน (Not running) ข้อดีคือเราสามารถ ปิดแอปที่ไม่ใช้งานทำให้ลดการใช้งานแบตเตอรี่ในส่วนนั้นได้ แต่เมื่อกลับมาเปิดแอปตัวเดิมใหม่อีกครั้ง iOS ก็จะไปโหลดข้อมูลในแอปนั้นใหม่ทั้งหมด ทำให้ใช้แบตเตอรี่ในการประมวลผลค่อนข้างมาก
ทางที่ดีที่สุด คือ ผู้ใช้ควรตรวจสอบก่อนว่าแอปไหนใช้แบตเตอรี่ในการประมวลผลเยอะบ้าง (ไปที่ Setting > Battery) หากเป็นแอปที่ใช้งานบ่อยครั้งก็ไม่ควร สไลด์ปิดแอปที่ Multitasking แต่ถ้าเป็นแอปที่ไม่ค่อยได้ใช้งานแต่ใช้แบตเตอรี่จำนวนมากแนะนำให้ สไลด์ปิดแอปที่ Multitasking หรือลบแอปนั้นออกไปได้เลย
- ชม 4 ประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ iPhone ที่ถูกต้อง
- 6 วิธีแก้ไม่ให้ Facebook บน iPhone กินแบตมากเกินไป
- 10 วิธีในการแก้ปัญหา iOS 10 10.1 10.2 แบตเตอรีหมดเร็ว
ขอบคุณ – idownloadblog