การบันทึกเสียงบน Apple Watch เป็นวิธีที่สะดวก สามารถทำได้ทุกที ทุกเวลา ถึงแม้จะไม่ได้พก iPhone วันนี้ทีมงานจึงมาแนะนำแอป Recorder หรือแอปบันทึกเสียงที่สามารถใช้งานบน Apple Watch
สำหรับใครที่กำลังคิดจะอัดเสียงและอยากจะได้อุปกรณ์บันทึกเสียงดีๆ สักเครื่อง อย่าลืม Apple Watch ที่อยู่บนข้อมือของเราที่สามารถบันทึกเสียงได้ เมื่อใช้งานร่วมกับแอปบันทึกเสียง (Recorder) เช่น บันทึกเสียงขณะเรียน บันทึกเสียงเมื่อฟังสัมมนา หรือใช้ในการอัดเสียงสัมภาษณ์ การใช้งานก็ง่ายมากๆ ลองชมกันเลย
บันทึกเสียง (Recorder)
แอปบันทึกเสียง (Recorder) เป็นแอปบันทึกเสียงที่ใช้ได้กับ iPhone, iPad และ Apple Watch ซึ่งเป็นแอปที่เป็นที่นิยม เนื่องจากใช้งานง่ายและให้ประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้
สามารถดาวน์โหลดแอปบันทึกเสียง (Recorder) ได้ที่ Recorder จากนั้นให้ติดตั้งบน Apple Watch ให้เรียบร้อย
การใช้งานแอปบันทึกเสียง บน Apple Watch
เปิดแอปบันทึกเสียงบน Apple Watch จะมีตัวเลือกให้เราเลือกว่าจะบันทึกไฟล์อัดเสียงไปยัง iPhone หรือเก็บไว้บน Apple Watch
แตะเลือกไอคอน Apple Watch จะเห็นว่า ความจุที่แสดงจะบอกว่า พื้นที่ที่ใช้ได้บน Apple Watch สำหรับการบันทึกเสียงเหลืออยู่เท่าไหร่
ซึ่งเป็นข้อดี ที่ทำให้เราทราบก่อนบันทึกเสียงว่า Apple Watch มีพื้นที่คงเหลือเพียงพอต่อการับนทึกเสียงหรือไม่ (ถ้าต้องการบันทึกไฟล์ไปยัง iPhone ก็ให้แตะรูปไอคอน iPhone) เมื่อเลือกอุปกรณ์สำหรับบันทึกไฟล์แล้ว ให้แตะไอคอนวงกลม เพื่อเริ่มอัดเสียง
พูดหรือบันทึกเสียงที่ต้องการ ขณะบันทึกเสียงสามารถแตะไอคอนพักด้านซ้าย เพื่อหยุดชั่วคราวได้ และเมื่อบันทึกเสียงเสร็จสิ้นแล้ว ก็แตะไอคอนหยุดทางด้านขวา
เมื่ออัดเสียงเรียบร้อยแล้ว หากต้องการย้ายไฟล์เสียงไปเก็บบน iPhone ก็แตะ ส่งไปที่ iPhone ไฟล์เสียงจะถูกย้ายไปยัง iPhone ทันที
นอกจากนี้เรายังสามารถฟังเสียงที่บันทึกย้อนหลังได้ โดยกลับมาที่หน้าแรก แล้วเลือกอุปกรณ์ที่เก็บไฟล์เสียง
หากเราเลือก iPhone เมื่อแตะดูรายการไฟล์เสียงก็จะแสดงเฉพาะไฟล์ที่บันทึกบน iPhone เท่านั้น เมื่อแตะ เล่น ไฟล์เสียงก็จะเล่นบน iPhone ทันที
แต่ถ้าเลือกบน Apple Watch ไฟล์เสียงก็จะแสดงไฟล์ที่บันทึกอยู่บน Apple Watch และเล่นไฟล์เสียงได้เลย
ไฟล์เสียงที่บันทึกลงบน Apple Watch จะเป็นสกุลไฟล์ M4A (หากเลือกเก็บไฟล์ไว้บน Apple Watch)
และนี่ก็เป็นวิธีการบันทึกเสียงบน Apple Watch ง่ายๆ เวลาที่ไม่ได้นำ iPhone หรือเครื่องบันทึกเสียงติดตัวมา ก็สามารถใช้ Apple Watch บันทึกแทนได้เลย
แต่สำหรับใครที่อยากจะผสมผสานการบันทึกเสียงให้มีลูกเล่นเพิ่มขึ้น ก็สามารถใช้งานบน iPhone ที่มีคุณสมบัติที่ Advance มากกว่า ซึ่งคุณสมบัติบน iPhone ที่น่าสนใจมีดังนี้
- บันทึกเสียงพร้อมกับวิดีโอที่เลือกได้ เผื่อใครอยากจะพากย์เสียวิดีโอ
- บันทึกเสียงพร้อมกับไฟล์เสียงหรือเพลงได้ เหมาะกับคนที่ชอบร้องคาราโอเกะ
- ตั้งเวลาการบันทึกเสียงได้
- ตั้งให้บันทึกเสียงเฉพาะตอนพูด
- บันทึกเสียงผ่านหูฟังบลูทูธได้
- บันทึกเสียงเก็บไว้บน iCloud ได้
- เลือกไฟล์เสียงบน iPhone, iPad ได้ดังนี้ MP3, M4A, AAC, MP4, CAF, AIFC, AIFF, WAV และ AMR
ใครที่มี Apple Watch และต้องการบันทึกเสียงในยามจำเป็น ก็ลองดาวน์โหลดแอปและใช้งานกันดูนะคะ
เรื่องโดย ทีมงาน iPhoneMod.net