Xiaomi ชื่อนี้ก็ต้องบอกเลยว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีและถือว่าเป็นมือถือที่ให้สเปกมาใช้ได้คุ้มสุด ๆ เทียบกับราคาที่จัดว่าประหยัดและน่าซื้อและแต่นอกเหนือจาก Xiaomi แล้วก็ยังมีแบรนด์ในเครืออีก ที่ยังคงมีการนำเข้ามาทำตลาดรวมไปถึงตลาดออนไลน์ด้วยอย่าง Redmi ที่เน้นขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สำคัญไปอีกในเรื่องของราคาวางจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับ Xiaomi และ Redmi เป็นมือถือน่าใช้ และแบรนด์ก็เป็นชื่อที่ต้องบอกเลยว่าติดปากคนไทย และจะมีความต่างกันอย่างไรทั้งที่จริง ๆ แล้วก็เป็นรุ่นที่อยู่ในตระกูล Xiaomi ด้วยเช่นกัน
Disclosure : บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Shopee
Xiaomi คือแบรนด์มือถือที่มากับสเปกเหนือราคา
Xiaomi จะเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนระดับเรือธงและเป็นมือถือที่มีราคาตลาดที่ไม่สูงเหมือนแบรนด์ดัง ๆ อีกทั้งต้องบอกเลยว่า Xiaomi จะเน้นการตลาดแบบการบอกต่อ ๆ กัน และอีกทั้งยังเน้นเรื่องการขายผ่านช่องทางออนไลน์ กับโทรศัพท์มือถือของ Xiaomi จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่
- Premium Flagship ซึ่งประกอบไปด้วยมือถือเรือธงทั้งหมด 2 ตระกูล คือ Mi Series ที่เน้นขายเทคโนโลยีสูงสุดในท้องตลาด และ Mi Mix Series ที่เน้นนวัตกรรมความล้ำสมัยเป็นหลัก ซึ่งราคาปัจจุบันที่มีวางขายเริ่มต้นที่ 16,000 บาทขึ้นไป
- Flagship ซึ่งประกอบไปด้วย Mi Note Series ที่เน้นด้านการถ่ายภาพ และ Mi T Series ที่เน้นด้านหน้าจอแสดงผลที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงานเป็นหลัก โดยจะมีราคาขายในปัจจุบันนี้เริ่มต้นที่ 10,000 บาทขึ้นไป
ดังนั้นจะเห็นว่า Xiaomi ที่ออกแบบสมาร์ตโฟนในระดับระดับเรือธงที่จะถูกแยกออกอย่างชัดเจนทั้งด้วยสเปกที่มีให้มา การดีไซน์การออกแบบ และราคาที่จะเห็นว่ามีความแตกต่างกัน ซึ่งจะต่างจากมือถือระดับกลาง และระดับเริ่มต้นอย่างเห็นได้ชัด โดยทาง Xiaomi ก็ไม่ได้มีการเลือกที่จะบุกตลาดด้วยแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับรุ่นนี้ในชื่อว่า Redmi นั่นเองซึ่งก็จะจับต้องได้ง่ายกว่า เพราะมีราคาที่ถูกกว่าลงมา
Xiaomi Mi 11 Pro
สำหรับ Xiaomi Mi 11 Pro รุ่นนี้ยังคงมีรูปร่างหน้าตาที่ไม่ต่างไปจาก Mi 11 มากนัก ด้วยหน้าจอ OLED ขอบโค้ง ความละเอียด 2K ขนาด 6.81 นิ้ว รีเฟรชเรตอยู่ที่ 120Hz รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision ที่ให้ภาพสวยสด และสีสันที่แม่นยำสมจริงกับชิปประมวลผล Snapdragon 888 ที่นอกจากจะเร็วแรงแล้ว ยังมีการจัดการแบตเตอรี่มาให้ถึง 5000 mAh ชาร์จไว 67W
สำหรับกล้องหลังของ Xiaomi Mi 11 Pro จะมีด้วยกัน 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักมีความละเอียดอยู่ที่ 50MP มีระบบกันสั่น OIS กล้อง Ultra wide มีความละเอียด 13MP และกล้อง Telephoto แบบ Periscope มีความละเอียด 8MP ซูมดิจิตอลสูงสุด 50 เท่า
Xiaomi Mi 11
แบรนด์ Xiaomi กับการจัดเต็มสเปกรุ่นแรกเลยกับ Xiaomi Mi 11 มาพร้อมหน้าจอที่มีขนาด 6.8 นิ้ว ตัวเครื่องจะมีน้ำหนักเพียง 196 กรัมแถมยังมีหน่วยประมวลผล Octa Core ที่จะทำให้เครื่องมีการทำงานได้รวดเร็วขึ้น สามารถจะรองรับการใช้งานได้ทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีทั้งรายละเอียดภายในต่าง ๆ ที่ถูกติดตั้งมาให้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการถ่ายภาพ, การทำงาน, การรับชมคอนเทนต์ หรือแม้แต่การใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วไป ส่วนในเรื่องของการดีไซน์การออกแบบ ก็เรียกได้ว่ามีความทันสมัยและดูสวยงามลงตัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
Redmi คือแบรนด์มือถือที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย
Redmi จะเน้นการผลิตเฉพาะมือถือระดับเริ่มต้นและมือถือระดับกลางเป็นหลัก จุดเด่นที่มีในมือถือของ Redmi จะมีทางด้านสเปกที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่, หน้าจอกว้างและมีขนาดการใช้งานเต็มตา, กล้องความละเอียดสูงที่มีให้มา รวมไปถึงการดีไซน์ที่เอาใจลูกค้า Redmi เองและผู้ที่ชื่นชอบการดีไซน์ที่ทันสมัย ซึ่งราคาที่มีการขายทั่วไปก็จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่กำลังเรียนออนไลน์
Redmi note 10
Redmi Note 10 กับหน้าจอกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3 มาพร้อมรูปแบบโค้งมนมีหน้าจอ AMOLED ระดับ FHD+กว้าง 6.43 นิ้ว มากับชิปประมวลผล Snapdragon 678 ความเร็ว 2.2 MHz บวกกับ GPU Adreno 612 จึงทำให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด กล้องหน้าจะมีความละเอียด 13MP ที่มี AI Beautify และโหมดแนวตั้ง AI พร้อมโบเก้และการควบคุมระยะชัดลึกกล้องหลังก็จัดหนักมาให้ถึง 4 ตัวที่ความละเอียดเลนส์หลัก 48MP เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 2MP และเลนส์ระยะชัดลึกอีก 2MP พร้อมแฟลช LED จะถ่ายระยะใกล้ หรือจะถ่ายมุมกว้างก็ทำได้ทั้งหมด
Redmi 9T
เป็นสมาร์ตโฟนรุ่น Redmi ที่มีราคาประหยัด มากับขนาดหน้าจอ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และใช้หน้าจอแบบ IPS LCD และชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 มาพร้อมกับขนาดความจุของแบตเตอรี่ที่ให้มา 6,000mAh เป็นรุ่นที่เหมาะกับการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันมีความคุ้มค่าเป็นอย่างมากสำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนราคาถูกแค่ได้สเปกเทียบเท่ารุ่นใหญ่ อีกทั้งมีกล้องมามากกว่า 4 ตัว โดยกล้องหลักความละเอียดเท่ากันที่ 48MP กล้อง Ultrawide 8MP กล้องจับความลึก 2MP กล้องมาโคร 2MP
สรุป
จะเห็นได้ว่าโทรศัพท์มือถือ Redmi และ Xiaomi ก็เป็นมือถือที่อยู่ในเครือเดียวกันเพียงแค่จะมีการแบ่งประเภท และการวางการตลาด และการผลิตกับสเปกและรวมไปถึงราคาที่จะมีความแตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งราคาก็เอื้อมถึงได้ง่ายกว่าแบรนด์ดัง ๆ ทั้งสเปกที่จัดมาให้ก็เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน กับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ
เหมาะกับการซื้อไปใช้สำหรับให้เด็ก ๆ ได้เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่กลุ่มคนทำงานก็นำไปใช้ได้เรียกว่าทั้งสเปกและการดีไซน์ไม่น้อยหน้าแบรนด์ดังเลย
Shopee 3.15 Consumer Day คืนกำไร ให้นักช้อป ช้อปฟินไปกับโปรโมชั่นเอาใจนักช้อปมากมายจากแบรนด์ชั้นนำ เก็บโค้ดรับเงินคืน 15% Coins โค้ดส่งฟรี* ไม่มีขั้นต่ำ พร้อมสินค้าดีลเด็ดเพียง 1.- ช้อปฟินต่อเนื่องด้วยโค้ดส่วนลดอีกเพียบ เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม – 15 มีนาคม 2022 นี้เท่านั้น!