หลายคนอาจประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสาย Lightning ใน iDevice ซึ่งมันไม่เข้าพวกกับคนอื่นเอาเสียเลย ทำให้ต้องประสบปัญหาในการสลับสับเปลี่ยนสายใหม่อยู่บ่อย ๆ บางครั้งอุปกรณ์ของเรามี iPhone เครื่องนึง แต่มี Tablet ที่ไม่ใช่ iPad อีกเครื่องนึง (หรืออย่างแย่หน่อยแฟนก็ใช้อุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ iDevice) ทำให้เรื่องการพกสายปวดหัวไม่น้อยเลยทีเดียว
“Innergie MagiCable™ Duo” สามารถหาซื้อได้ตามผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ King Power, Koan, SVOA, Synnex และอื่น ๆ ในราคา 990 บาท
ติดตามข่าวสารจาก Innergie Thailand ได้ที่ http://www.facebook.com/Innergie.Thai
MagiCable Duo ตัวนี้มาพร้อมกับสาย Lightning ในตัวสามารถรองรับทั้ง iPod, iPhone, iPad ในทุกเวอร์ชั่น iOS เพราะได้รับการ MFi (Made for iPod/iPhone/iPad) จาก Apple อย่างถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านหลังระบุว่าเพียงแค่เส้นเดียวก็สามารถใช้กับอุปกรณ์ได้เป็นหมื่นเชียวนะ! สำหรับอุปกรณ์ Apple ที่ใช้สาย Lightning ก็จะเป็น iPhone 5, iPad 4, iPad mini, iPod Touch 5 (หรือรุ่นที่สูงกว่า) ซึ่งหากเราเป็นเจ้าของอุปกรณ์ก็คงทราบกันดีอยู่แล้วล่ะ
พร้อมการรับประกันสินค้าที่หายห่วงด้วยการรับประกับทั่วโลกนานถึง 1 ปี และแบรนด์ Innergie วางใจได้ (เห็นบางคนไม่ค่อยรู้จัก) เพราะเป็นแบรนด์สากลซึ่งเป็นผลผลิตของ Delta ที่มีโรงงานผลิตทั้งในประเทศไทย อินเดียและสโลวาเกีย และมีหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาหลายแห่งทั้งในประเทศเยอรมัน ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ อีกกว่า 10 ประเทศ
สำหรับความยาวสายอาจจะไม่มากอยู่ที่ 79 ซม. สั้นกว่าของ Apple หน่อยตรงที่ของเขาเป็น 100 ซม. แต่ในเรื่องความหนา และความแข็งแรงของสายนั้นมากกว่าแน่นอน
ข้อต่อด้านบนเป็นแบบตัวล็อคสามารถถอดออกมาเพื่อทำการชาร์จแบบ Micro USB ร่วมกับมือถือแบรนด์อื่น ๆ ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าชาร์จเป็นคู่นะครับ ชาร์จทีละอุปกรณ์เท่านั้น
พอล็อคสายเข้าไปจะเป็นแบบนี้ครับ ดูนิ่งสนิทสมกับเป็นวัตถุชิ้นเดียวกัน ความแข็งแรงก็มากโขอยู่เพราะต้องใช้สองมือแกะถึงจะแกะออกได้ แต่ก็ไม่ได้แน่นถึงขนาดต้องดึงกันหน้าเขียวหน้าแดงอะไรขนาดนั้น
สาย Lightning สีทองดูสวยงามไม่ต่างจากที่ขายใน Shop ดูคุณภาพและรอยตัดต่าง ๆ ปราณีตสมกับเป็นแบรนด์ Innergie ดีครับ ไม่เหมือนสายชาร์จห่วย ๆ ไม่มียี่ห้อที่ขายกันตามร้านตู้มือถือ (แถมเคยทดสอบซื้อมาเป็นสิบเส้นจ่ายไฟได้ไม่ถึง 2.1A ซักเส้นอีกต่างหาก แต่แย่กว่านั้นคือบางเส้นเครื่องฟ้องว่าสายปลอมและชาร์จไม่เข้า!)
ข้อต่อเป็นล็อค ๆ แบบนี้ดึงง่ายพอสมควร ที่สำคัญสามารถเก็บและพกพาได้สะดวกอีกด้วย ผมมีเส้นเดียวโยนใส่เป้ได้เลย หยิบสะดวกไม่พันกันและเผื่อแผ่คนอื่นได้ด้วย เพราะเวลาซื้อ Power Bank ส่วนใหญ่จะไม่แถมสาย Lightning ของ iDevice มาให้ (ได้ข่าวว่าค่าไลเซ่น MFi มันแพง)
ทดลองชาร์จกับ รีวิว – Innergie PocketCell™ Duo “แบตฯ สำรองจ่ายไฟ 2.1A ถึงสองหัว” ก็เข้ากันเป็นอย่างดีครับ ตัวสายขนาดใหญ่เหนียวและแข็งแรงมากและโอกาสพันกันก็น้อยลง ส่วนเรื่องการจ่ายไฟก็ได้ใจไปเต็ม ๆ ไม่มีช้า หลุด หรือว่าเอ๋อระหว่างทาง (อารมณ์ประมาณว่าสะกิดนิดหน่อยแล้วก็หลุดอะไรพวกนี้)
ถึงแม้ข้อต่อจะยาวแต่ก็สามารถใส่ได้อย่างดีโดยไม่ติดกับเคสครับ เพราะตรงช่วงปลายสายแล้วหัวจะเล็กลงจนได้ขนาดตามปกติของ Apple เว้นเสียแต่ว่าเคสคุณจะหนามากกกกกกก แต่เท่าที่เห็นผมใช้เคส Line ผมก็ว่าของผมหนาแล้วนะ ยังจะมีใครใช้หนากว่านี้อีกหรอ?
เปรียบเทียบขนาดหัวสาย Lightning (ด้านขวาเป็นของ Apple นะแต่ผมติดสติกเกอร์เล่น) จะเห็นว่าความหนาเอิ่มมมมเรียกไงดีล่ะ … มันเท่ากัน แต่ความยาวจะหว่างซ้ายไปขวาต่างกันนิดหน่อย และผมเชื่อว่ามันไม่มีผลต่อการใช้งานกับเคสทั่ว ๆ ไปครับ
ทีนี้ลองทดสอบใช้กับ Micro USB ของ Android (Lenovo Vibe Z) ดูบ้างก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ สามารถใช้งานได้ตามปกติไม่ว่าจะ Sync หรือโอนถ่ายข้อมูล (ได้ทั้ง Lightning และ Micro USB)
สรุป : ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับใครที่อยากใช้สายของบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ Apple และยังได้มาตรฐานอยู่ ตอนนี้เท่าที่ผมทราบและพอหาซื้อง่ายก็มี Moshi, Belkin ส่วนตัวนี้ของ Innergie ก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไปอีกแบบนึงครับ เหมือนซื้อหนึ่งได้ถึงสองและได้ดีไซน์และความสะดวกไปในตัวด้วยเลย
ขอขอบคุณ : http://www.myinnergie.com, http://www.facebook.com/Innergie.Thai สามารถหาซื้อได้ตามผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ King Power, Koan, SVOA, Synnex และอื่น ๆ ในราคา 990 บาท