สำหรับสมาชิกดั้งเดิมของ iPhoneMod.net คงจะติดว่า “รีวิวนี้มันคุ้น ๆ เหมือนเคยอ่านแล้ว” ซึ่งจะกล่าวว่าถูกก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะว่าเมื่อตอนต้นทางเราได้รีวิว รีวิว – Innergie mCube Mini “สะดวกชาร์จไม่ว่าจะรถหรือเครื่องบิน” คำถามก็คือ “แล้วมันต่างกันอย่างไรล่ะ?” ในวันนี้ทาง Innergie ได้พัฒนาไปอีกขั้นครับ ว่าแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
แพคเกจเป็นแบบกล่องเรียบ ๆ ใส ๆ ก่อนซื้อต้องเช็คดูนิดนึงนะครับ ว่าเป็น Innergie mCube Mini 90 รึปล่าว เพราะว่าสินค้าของ Innergie จะมีพวก Battery Extranal, Charging Kit อะไรพวกนี้ขายด้วยครับ หากไม่สังเกตเดี๋ยวจะเป็นอันว่าหยิบผิดกล่องกัน ถ้าหากไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เอาง่าย ๆ ก็คือถามคนขายเอาครับ
ติดตามข่าวสารจาก Innergie Thailand ได้ที่ http://www.facebook.com/Innergie.Thai
หน้ากล่องจะคล้าย ๆ กับตัวเดิมครับ แต่แตกต่างตรงที่เลข “90” ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานนั่นเอง ที่สามารถทำได้ถึง 90W ต่างจากตัวเดิมที่ทำได้เพียง 65W เท่านั้น
รายละเอียดกล่องด้านหลังจะมีการบอกถึงรายละเอียด รวมถึงสเปคสินค้าและวิธีการใช้งานอย่างคร่าว ๆ ซึ่งข้างหลังกล่องนี่ผมแนะนำให้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้เลย เพราะจะมีตารางบอกว่าหากคุณใช้ Notebook แบรนด์ไหน ต้องใช้กับหัวต่อตัวไหน (จะได้ไม่ต้องเสียเวลามั่ว)
10 หัวต่อมาตรฐาน รองรับ Notebook ทุกรุ่นในโลก
สำหรับหัวต่อเข้ากับ Notebook เท่าที่ทราบหลายคนคงจะปวดหัวไม่ใช่น้อย ในการหาซื้อให้มันใช้ได้กับ Notebook ของตัวเอง ซึ่งจากเท่าที่ดูในตารางแล้วก็ดูเหมือนจะรองรับทุกรุ่นเท่าที่จะนึกได้เลย (ยกเว้นของ Apple ซึ่งเขาไม่ยอมขายสิทธิบัตรให้ใครทำ) เท่านั้นยังไม่พอ หากคุณพยายามแล้วพบว่า Notebook ของคุณใช้ไม่ได้กับหัวต่อที่แถมมาซักอัน สามารถแจ้งกับทาง Innergie ให้เขาจัดหาหรือผลิตมาให้ได้ครับ (ฟรี)
ประกันใจถึงเพื่อความมั่นใจ
Adapter ชาร์จในรถที่คุณเคยซื้อประกันเท่าไหร่กัน 7 วัน, 1 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี? ซึ่งในครั้งนี้ทาง Innergie ก็ใจปล้ำเหมือนเคย (หรืออาจจะเพราะว่ามั่นใจในสินค้าของตัวเอง?) ปีเดียว Innergie ไม่ให้ เอาไปเลย 3 ปี (อันนี้โดนใจผมมากมาย) เพียงแค่ไปลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่ www.myinnergie.com
รางวัลจากสำนักต่าง ๆ ที่เคยได้รับมา
เกริ่นมามากแล้ว เรามาเริ่มต้นรีวิวกันเลยดีกว่า
สำหรับการใช้งานนั้นก็ง่าย ๆ ครับ ดูตามภาพประกอบด้านบนเอาน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก สรุปสั้น ๆ ก็คือมีที่เสียบในรถยนต์ (หรือเครื่องบิน) ให้ตัวนึงสามารถต่อออกมาได้ 2 แบบ คือแบบ USB และผ่าน Adapter เพื่อจ่ายไฟให้ Netbook, Notebook แล้วก็จะแบ่งหัวต่อตามรุ่นอีกทีนึง
อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องครับ นอกจากจะเป็นอุปกรณ์หลัก ๆ แล้วก็ยังมีซองให้เก็บเพื่อความเรียบร้อยอีกด้วย
หัวต่อแบบต่าง ๆ ครอบจักรวาลทั้ง Netbook, Notebook บนโลกใบนี้ (ยกเว้น Apple) ซึ่งถ้าหากสมมุติว่ามันไม่มีจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องในอนาคต หรือของคุณปู่ทวดยังไงก็ตามแต่ ก็สามารถเมล์ไปขอหัวต่อกับทาง Innergie ได้ครับ เรียกได้ว่าเป็นบริการหลังการขายที่ไม่ทอดทิ้งลูกค้าให้ระทม
ที่ชาร์จในรถยนต์เป็นแบบพลาสติกหัวเงามันวาว งานประกอบต่าง ๆ อยู่ในขั้นดีครับ
สำหรับสเปคการจ่ายไฟของตัวนี้สามารถจ่ายไฟ 10W สำหรับการชาร์จ iPad ได้ด้วย
มีหัวให้ต่อ 2 ทางคือแบบ USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ทั่ว ๆ ไป ซึ่งอันนี้เราก็คงคุ้นเคยกันดี ส่วนอีกหัวนึงเป็นที่ต่อไฟไปยัง Adapter อีกทีนึง สำหรับใช้ชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องการไฟมาก ๆ เช่นพวก Netbook, Notebook หรืออื่น ๆ ซึ่งนี่คือความพิเศษและจุดขายของ mCube Mini 90
สายจาก Adapter เพื่อต่อไปยังหัวต่อของ Netbook, Notebook อีกทีหนึ่ง มีความยาวกำลังพอดีคือไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป สำหรับคนนั่งข้างคนขับกำลังโอเคครับ แต่สำหรับคนนั่งเบาะหลังอาจจะใช้งานลำบากหน่อย เพราะสายมันไม่ได้ยาวมาก
Specifications
DC Input : 12-15V DC / 8.9A
DC Output : 19.5V DC / 4.62A หรือ 16V DC / 5.63A
USB Output : 5V DC / 2.1A (มาตรฐานเดียวกับที่ชาร์จ iPad ของ Apple)
Output Power : 90W อย่างต่อเนื่อง และ 100W กำลังสูงสุด
ขนาด : 66.8 × 29 × 18 มม.
น้ำหนัก : 100 กรัม
ประสิทธิภาพการแปลง : 94% (อีก 6% เป็นพลังงานที่สูญเสียไป ระหว่างแปลง)
ระบบป้องกันไฟฟ้า : OCP, OVP, OTP, OPP, SCP
ขนาดเล็กน่าพกพามากครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็น Adapter แปลงไฟในรถที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกด้วย
ตรงส่วนด้านข้างจะเป็นเพียงแค่ส่วนเดียวที่สามารถปรับได้ครับ คือสามารถปรับกำลังไฟได้ว่าจะเลือกจ่ายแบบ 15V-17V หรือว่า 18V-21V หากไม่ทราบไปดูที่ Adapter ของ Netbook, Notebook ได้ครับ ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปแล้วสำหรับ Notebook ขนาดมาตรฐาน 14” จะต้องการประมาณ 19V (สำหรับคนที่ไม่รู้จักปรับอะไรอย่าได้กังวลไปครับ ในคู่มือมีบอกอย่างละเอียด)
ทดสอบใช้งานจริง
เมื่อใช้งานในรถจะมีไฟสีฟ้าขึ้นทำให้สามารถเสียบและถอดออกได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องคอยใช้นิ้วคลำเอามั่ว ๆ เอา
ใช้ชาร์จ iPhone, iPad ได้เต็มเร็ว และไม่มีผลข้างเคียง
ทดสอบใช้ชาร์จกับ iPad สามารถใช้งานได้ดีจ่ายไฟได้ความเร็วเท่ากับเสียบปลั๊กไฟบ้าน ส่วนสำหรับ iPhone จะเร็วยิ่งกว่าเนื่องจากเป็น 2.1A (ปกติที่ชาร์จไฟบ้าน iPhone จะเป็น 1A) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมอย่างแน่นอน สำหรับคนที่กังวลเรื่องนี้ทางผมเคยได้อ่านกระทู้ชี้แจงของวิศวกรของ Apple แล้วครับ ดังนั้นวางใจได้
ทดสอบใช้ชาร์จกับ Notebook ขนาด 14” มาตรฐานของ Acer ก็ไม่มีปัญหาครับ ส่วนเรื่องการจ่ายไฟนั้นแทบไม่รู้สึกแตกต่างกับตอนชาร์จอยู่ที่บ้านเลย แต่เมื่อเทียบกับ Innergie mCube Mini รุ่นเก่าแล้วทำได้ดีกว่ามากครับ
ใช้ชาร์จอุปกรณ์ 2 ชิ้นได้พร้อมกันโดยไม่มีปัญหา
ทดสอบชาร์จทั้ง 2 อุปกรณ์พร้อมกันก็ยังไม่พบปัญหาเรื่องการจ่ายไฟแต่อย่างใดครับ สามารถใช้งานได้ปกติสุขดี อ้อ … เกือบลืมบอกไปสำหรับอุปกรณ์ที่เห็นในภาพไม่ว่าจะเป็น iPhone, Notebook และสายชาร์จ iPhone (รวมถึงรถยนต์) ไม่ได้แถมมากับกล่องนะครับ
ดังนั้นถ้าอยากได้สายชาร์จมือถือติดรถไว้สำหรับใช้กับ Innergie mCube Mini 90 ก็ต้องซื้อแยกเองนะครับ (อย่างที่บอกว่ามันไม่มีแถม) ซึ่งจะซื้อสาย Micro USB, Apple Sync หรืออะไรก็ว่าไป หรือว่าจะซื้อสายเดียวอย่าง Magic Cable 3-in-1 Retractable (Apple + Micro USB + Mini USB) ของทาง Innergie ก็มีจำหน่ายแยกนะครับ
“Innergie mCube Mini 90” สามารถหาซื้อได้ตามสถานที่ต่อไปนี้ ราคา 1,690 บาท
สรุป : Innergie mCube Mini 90 เป็นที่ชาร์จตัวนึงที่คนชอบเดินทางควรจะมีติดรถไว้ จุดเด่นของมันก็คือมันเล็กมาก ๆ และพกพาสะดวก ชาร์จอุปกรณ์ได้แทบจะทุกอย่างที่เราจะนึกออกเลย และไม่ต้องกังวลด้วยว่าหากเราซื้อเครื่องรุ่นใหม่ ๆ มาจะหาหัวต่อไม่ได้ เพราะ Innergie มีบริการที่เรียกว่า “ฟรีหัวต่อสำหรับ Notebook ตลอดอายุการใช้งาน” รวมถึงระยะเวลาประกันสินค้าที่ให้มาถึง 3 ปี ต่างจากทุกแบรนด์ที่ให้มาแค่ปีเดียวเท่านั้น
ขอขอบคุณ : http://www.MyInnergie.com ที่เอิ้อเฟื้อสินค้าคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ ติดตามข่าวสาร รวมถึงโปรโมชั่นและกิจกรรมดี ๆ ได้ผ่าน http://www.facebook.com/Innergie.Thai
ข่าวประชาสัมพันธ์ : “พบกับกิจกรรมดีๆ และผลิตภัณฑ์ราคาสุดพิเศษจาก Innergie ได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2012 โซน C บูธ CM 13/1 และ Booth จำหน่ายสินค้าของ Power Buy ในไพนารีฮอล์ ระหว่างวันที่ 4 – 7 ตุลาคม 2555 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”