หลายคนคงจะเหน็ดเหนื่อยกับการพก Adapter ตัวใหญ่ไปมา นอกจากมันจะเกะกะและน้ำหนักมากแล้วยังไม่อเนกประสงค์อีกต่างหาก วันนี้ผมได้รู้จักกับ Adapter รุ่นครอบจักรวาล (ที่ไม่ได้มาจากจีนแดง) ตัวนึง ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตของผมตอนนี้ได้มากเลย โดยปัญหาของผมวันนี้คือผมมี Notebook Acer อยู่ตัวนึงวางทิ้งไว้ไม่ได้ใช้นานแล้ว เนื่องจากทำ Adapter หายเมื่อตอนน้ำท่วมโน้นแน่ะ ~ จะสั่งซื้อตัวใหม่จากศูนย์ก็แพงเลือดสาด ไอ้ครั้นจะไปซื้อเอาข้างนอกก็ไม่รู้ของแท้หรือของปลอม เกิดไฟไหม้บ้านหรือลัดวงจรขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่
แพคเกจมาเป็นแบบเรียบ ๆ เช่นเคย ด้านหน้ามีคำอธิบายชัดเจนว่าจ่ายได้ 95 วัตต์ สูงสุด 110 วัตต์ เท่าที่ลองเช็คกับเพื่อนที่เป็นเซียน ๆ หน่อยก็บอกว่า “กำลังไฟเท่านี้ก็ใช้กับ Notebook ได้ทุกรุ่นแหล่ะ ยกเว้นพวกตัวใหญ่เวอร์บางตัว” ซึ่งจากเท่าที่ได้คุยแล้วเอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่ Notebook เกมเมอร์ตัว 17-18 นิ้วที่กินไฟเวอร์ ๆ ก็ไม่เป็นปัญหา
ติดตามข่าวสารจาก Innergie Thailand ได้ที่ http://www.facebook.com/Innergie.Thai
บอกตามตรงในฐานะเป็นผู้ชายที่ไม่สนใจเรื่องไฟฟ้าเลย ผมไม่รู้จักหรอกว่าวัตต์ โวลต์ แอมป์คืออะไร แล้วอะไรใช้ไฟกี่วัตต์เท่าไหร่ช็อตคนตายอะไรพวกนี้ผมไม่รู้เลย แต่ที่รู้ก็คือเราสามารถเช็คสเปคได้จาก Adapter ตัวเก่าหรือไม่ก็เว็บไซต์ของเครื่อง Notebook ของเราครับ ถ้ามันใช้สเปคต่ำกว่า Innergie mCube Slim 95 เป็นอันใช้ได้ (แต่เท่าที่เช็คมา Notebook 10-14 นิ้วทุกรุ่นใช้ได้นะ)
ตัวนี้ได้รางวัล Reddot design และอื่น ๆ มาด้วยครับ ซึ่งปกตินาน ๆ ผมจะเจอที่ชาร์จอเนกประสงค์ (Universal) ที่มียี่ห้อกับเขาซักที คิดว่ามีพกติดโต๊ะทำงานไว้ซักตัวก็ดีเหมือนกัน ตัวเดียวใช้ได้เกือบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ
รางวัลทั้งหมดที่ทาง Innergie เคยได้มา มีอันขวาบนสุดเหมือนโลโก้อิชิตันเลย (ฮา)
ดูจากหลังกล่องรุ่นที่ใช้ได้ก็จะมี Acer, Asus, Compaq, Dell, Fujitsu, Gateway, HP, IBM, Lenovo, LG, MSI, Panasonic, Sony, Toshiba (น่าจะหมดโลกแล้วมั้ง?) บอกตามตรงว่าผมก็พึ่งทราบเหมือนกันว่า หัวต่อบางรุ่นมันใช้ร่วมกันได้ และบางรุ่นมันมีหัวต่อมากกว่า 1 แบบ โดยเฉพาะ HP กับ Compaq (บริษัทเดียวกัน)
Specifications
AC Input : 100-240 Vac / 1.5A 50-60Hz
DC Output : 19V DC / 4.47A
USB Output : 5V DC / 2.1A (มาตรฐานเดียวกับที่ชาร์จ iPad ของ Apple)
Output Power : 95W อย่างต่อเนื่อง และ 110W กำลังสูงสุด
ขนาด : 109.2 × 62 × 18 มม.
น้ำหนัก : 179 กรัม
ประสิทธิภาพการแปลง : 90% (อีก 10% เป็นพลังงานที่สูญเสียไป ระหว่างแปลง)
ระบบป้องกันไฟฟ้า : OCP, OVP, OTP, OPP, SCP
ประกันใจถึงเพื่อความมั่นใจ
Adapter ที่คุณเคยซื้อที่บ้านหม้อหรือพันทิพย์ประกันเท่าไหร่กัน 7 วัน, 1 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี? ซึ่งในครั้งนี้ทาง Innergie ก็ใจปล้ำเหมือนเคย (หรืออาจจะเพราะว่ามั่นใจในสินค้าของตัวเอง?) ปีเดียว Innergie ไม่ให้ เอาไปเลย 3 ปี (อันนี้โดนใจผมมากมาย) เพียงแค่ไปลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่ www.myinnergie.com
อุปกรณ์ที่แถมมาภายในกล่องก็จะมีหัวต่อสายไฟและก็ถุงใส่ ซึ่งหลัก ๆ ก็จะเป็นประมาณนี้ไม่มีอะไรพิเศษมาก จะมีที่โดดเด่นก็คือ Innergie mCube Slim 95 ที่จะมีขนาดพอ ๆ กับ iPhone 4 เท่านั้นเอง สามารถเก็บใส่กระเป๋าเสื้อได้สบาย ๆ
9 หัวต่อมาตรฐาน รองรับ Notebook ทุกรุ่นในโลก
หัวต่อมาตรฐานทั้ง 9 หัวครอบจักรวาลทุกแบรนด์เท่าที่จะหาได้บนโลกใบนี้ (ยกเว้น Mac เพราะเขาไม่ขายสิทธิบัตรให้แบรนด์ไหนทำหัวต่อเลย) ซึ่งเป็นที่ประทับใจเอามาก ๆ งานนี้สบายตัวเดียวเอาอยู่ทุกรุ่น เท่านั้นยังไม่พอหากคุณพยายามแล้วพบว่า Notebook ของคุณใช้ไม่ได้กับหัวต่อที่แถมมาซักอัน สามารถแจ้งกับทาง Innergie ให้เขาจัดหาหรือผลิตมาให้ได้ครับ (ฟรี)
ปลั๊กเป็นขาแบบแบน ๆ เสียบง่ายเข้ากันได้ทุกคน ข้อดีก็คือหาที่เสียบง่ายแต่อาจจะเจอปัญหาหลวมบ้างในบางสถานที่ ๆ มีเต้าปลั๊กเสีบบไม่ค่อยดี
สายอันนี้ต้องเก็บไว้ให้ดีอย่าทำหายเด็ดขาด (เพราะผมก็ไม่รู้จะแนะนำให้ไปซื้อที่ไหนเหมือนกัน) เอาไว้ต่อจาก Innergie mCube Slim 95 เพื่อไปยังหัวต่อและเสียบเข้า Notebook เราอีกทีนึง
ที่เด็ดไม่ได้มีแค่ชาร์จ Notebook
พอร์ทนี้แหล่ะครับ ที่ผู้ใช้งานยุคปัจจุบันต้องการ แต่ไม่ค่อยมีผู้ผลิต Notebook แบรนด์ไหนใส่มาให้เลย ทำให้เราสามารถชาร์จทั้ง Notebook และโทรศัพท์ของเราได้เลย ไม่ต้องเสียบเยอะให้วุ่นวาย หลายคนอาจคิดว่า “แล้วทำไมไม่ชาร์จกับ Notebook ล่ะ?” คือแบบนี้มันเต็มช้าครับ และอีกอย่างอันนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่อง Notebook ก็ใช้ประยุกต์เวลาเดินทางเป็นที่ชาร์จมือถือได้ด้วย ที่สำคัญจ่ายไฟได้สเปคเดียวกับที่ชาร์จ iPad เป๊ะ ๆ ที่ 2.1A แจ่มไปเลย !!!
อีกข้างก็เป็นที่ต่อไปปลั๊กไฟบ้านอย่างที่เข้าใจกันครับ ไม่มีอะไรมาก พูดเรื่องวัสดุตัวนี้งานประกอบแน่นและทำออกมาได้ดีครับ ถึงจะเป็นสีขาวแต่ผิวมันทำความสะอาดง่าย
ขนาดพอ ๆ กับ iPhone 4 ต่างจาก Adapter อันเก่าของผมที่หายไปตอนน้ำท่วม ซึ่งอันเท่ากล่องดินสอ O,o! อันนี้สะดวกทั้งใช้เดินทางหรือแม้กระทั่งทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงาน เรียกได้ว่าถ้า Adapter Notebook ของใครพังหรือหายซื้อตัวนี้ตัวเดียว คุ้มมาก ๆ เอาไปใช้ได้ทุกรุ่น
ด้านหลังของ Innergie mCube Slim 95 บอกตามตรงว่าผมจำได้ไม่หมดหรอกว่าสัญลักษณ์แต่ละตัวหมายถึงมาตรฐานอะไร แต่เท่าที่ดูแบบตาสีตาสาก็คิดว่ามันต้องมั่นใจได้แน่ ๆ
ทดสอบการใช้งานจริง
น่าเสียดายนะครับที่ไม่แถมสายชาร์จมือถือมาให้ด้วย อย่างตัวนี้ผมใช้สายชาร์จ Magic Cable 3-in-1 ของ Innergie อีกเช่นเคย สามารถชาร์จได้ถึง 3 หัวในแบบเดียว (Apple, Mini USB, Micro USB) ใครสนใจก็ลองดูครับผมว่ามันสะดวกดี หรือใครจะพกเส้นอื่นที่คิดว่าเจ๋งกว่าก็เอามาแชร์กันครับ
ใช้ชาร์จ iPhone, iPad ได้เต็มเร็ว และไม่มีผลข้างเคียง
ทดสอบใช้ชาร์จกับ iPad สามารถใช้งานได้ดีจ่ายไฟได้ความเร็วเท่ากับเสียบปลั๊กไฟบ้าน ส่วนสำหรับ iPhone จะเร็วยิ่งกว่าเนื่องจากเป็น 2.1A (ปกติที่ชาร์จไฟบ้าน iPhone จะเป็น 1A) ซึ่งแน่นอนว่าไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมอย่างแน่นอน สำหรับคนที่กังวลเรื่องนี้ทางผมเคยได้อ่านกระทู้ชี้แจงของวิศวกรของ Apple แล้วครับ ดังนั้นวางใจได้ครับ สำหรับสเปคแบบนี้หากไปซื้อศูนย์ก็พันกว่าบาทแล้ว โดยส่วนตัวแล้วก็ค่อนข้างพอใจมากครับ
ใช้ชาร์จอุปกรณ์ 2 ชิ้นได้พร้อมกันโดยไม่มีปัญหา
ทดสอบเอาเครื่อง Acer 14 นิ้วของผมมาใช้งานก็สามารถใช้งานได้อย่างปกติไม่มีอะไร ทดสอบใช้งานจริงประมาณ 2-3 วันไม่มีปัญหาจุกจิกกวดใจอะไรเลยครับ รู้สึกเหมือน Adapter Notebook ทั่ว ๆ ไป ตอนแรกก็หาที่ปรับกำลังไฟตั้งนานที่แท้มันจัดการปรับแรงดันอะไรให้เองหมด ไม่ต้องทำอะไรเลยแค่เสียบแล้วชาร์จเท่านั้น
แล้วเครื่องรุ่นใหม่ ๆ ล่ะจะมีไหม?
ตอนแรกก็กังวลว่าพวกเครื่องใหม่ ๆ อย่าง Ultrabook ของ Toshiba เครื่องนี้จะชาร์จได้ไหม จะมีหัวต่อหรือปล่าว? แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ สามารถใช้งานได้ตามปกติ ส่วนหัวต่อก็ถอดเปลี่ยนใน 9 อันที่ให้มานั่นแหล่ะครอบคลุมทุกแบบเลย แต่หากคุณพยายามแล้วพบว่า Notebook ของคุณใช้ไม่ได้กับหัวต่อที่แถมมาซักอัน สามารถแจ้งกับทาง Innergie ให้เขาจัดหาหรือผลิตมาให้ได้ครับ (ฟรี)
“Innergie mCube Mini 95” สามารถหาซื้อได้ตามสถานที่ต่อไปนี้ ราคา 3,100 บาท
สรุป : ผมว่ามันเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่นะ ชาร์จได้ทั้ง iPhone, iPad และ Notebook ทุกรุ่น (ยกเว้น Mac) หากมีพกติดโต๊ะทำงานไว้ซักตัวก็น่าจะดี พวกขนาดและดีไซน์ก็ทำออกมาได้เล็กเป็นพิเศษ ถ้าหากใครทำ Adpater Notebook หากหรือเสียซื้อตัวนี้ไปใช้แทนรับรองไม่ผิดหวังครับ (ถ้าใครชอบมากจะซื้อไปแทนของเดิมหรือไว้ใช้สำรองก็ไม่เลวนะ) เท่านั้นยังไม่พอยังมีบริการ “ฟรีหัวต่อสำหรับ Notebook ตลอดอายุการใช้งาน” รวมถึงระยะเวลาประกันสินค้าที่ให้มาถึง 3 ปี ต่างจากทุกแบรนด์ที่ให้มาแค่ปีเดียวหรือหกเดือนเท่านั้น
ขอขอบคุณ : http://www.MyInnergie.com ที่เอิ้อเฟื้อสินค้าคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ ติดตามข่าวสาร รวมถึงโปรโมชั่นและกิจกรรมดี ๆ ได้ผ่าน http://www.facebook.com/Innergie.Thai