อาจมีหลายคนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ iPhone SE 3 อยู่ มาชมรีวิวการใช้งานตลอดทั้งวัน โดยเปิดใช้งาน 5G เล่นโซเชียล เล่นเกม ใช้งานทั่วไปว่าเป็นอย่างไร
iPhoen SE 3 เปิด 5G ทั้งวัน แบตเตอรี่ไหวมั๊ย ?
หากจะซื้อ iPhone SE 3 มาใช้งานเป็นเครื่องหลัก ใช้งานปกติทั่วไป เช่น เล่นเกม ดูซีรีส์ โทร ถ่ายรูป แต่งรูป เล่นโซเชียลและเปิด 5G ทั้งวัน จากแบตเตอรี่ 100% ในตอนเช้า จะเหลือแบตเตอรี่ให้ใช้งานอยู่เท่าไหร่ มาชมรีวิวกันเลย
ไฮไลท์ iPhone SE 3
- ตัวเครื่องดีไซน์เดิม มีปุ่ม Touch ID
- ชิปประมวลผล A15 Bionic เหมือนใน iPhone 13 Series (คะแนนประสิทธิภาพ Geekbench ใกล้เคียง iPhone 13)
- รองรับ 5G เชื่อมต่อรวดเร็ว
- แบตเตอรี่ ที่ใช้งานได้นานขึ้น จากรุ่นก่อนหน้า 2 ชั่วโมง สามารถใช้งานเพื่อชมวิดีโอได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง (แบตเตอรี่ความจุ 2,018 mAh)
- ขนาดกะทัดรัด พกพาได้สบายกระเป๋า
- ราคาเริ่มต้น ฿15,900
ชมคลิปรีวิวการใช้งาน
00:00 – Intro
00:20 – ภาพรวม iPhone SE 3
01:05 – ตั้งค่าเปิดใช้งาน 5G ของ iPhone SE 3
01:47 – เริ่มใช้งาน iPhone SE 3 แบบเปิด 5G (แบต 100%)
02:40 – เล่นเกม 1 เกมเปิด 5G แบตเหลือเท่าไหร่?
03:00 – ใช้งานทั่วไปครึ่งวันเช้า แบตเหลือเท่าไหร่?
03:55 – ใช้งานทั่วไปครึ่งวันบ่าย ดูซีรีส์ 1 ตอนใช้แบตเท่าไหร่?
04:42 – สรุปทั้งวันแบตเหลือเท่าไหร่?
05:07 – ประสบการณ์การพกพาออกไปใช้งาน
05:30 – ประสิทธิภาพการใช้งาน
05:47 – การใช้งาน Social Media
05:55 – ประสบการณ์การใช้งาน 5G ของ iPhone SE 3
06:22 – ราคาและการจำหน่าย
ประสบการณ์การใช้งานจริงใน 1 วัน
เริ่มใช้งาน iPhone SE 3 ตอนเวลาประมาณ 10.00 น. โดยมีแบตเตอรี่อยู่ที่ 100% ทำการเปิดใช้งาน 5G ตลอดทั้งวัน ซึ่งระหว่างนี้ก็มีการใช้งานทั่วไป หลัก ๆ คือการเล่นโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram โดยได้ลงสตอรี่ไป 1-2 อัน
ต่อมาก็ได้ทำการเล่นเกม Wildrift โดยการเปิดกราฟิกสูงสุด เปิด 5G เล่นตอลดทั้งเกม เมื่อเล่นจบ 1 เกม (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) พบว่าแบตเตอรี่ลดไปประมาณ 13-14%
เรื่องความร้อน เนื่องจากนั่งเล่นในห้องแอร์ที่ค่อนข้างเย็น รู้สึกว่าตัวเครื่องไม่ร้อนมาก อาจจะมีอุ่น ๆ ตอบจบเกมเล็กน้อย ด้านประสบการณ์การเล่นเกม แน่นอนว่าชิป A15 Bionic ให้ประสิทธิภาพที่ลื่นไหล เล่นเกมได้ไม่มีสะดุด แต่อาจจะต้องพิจารณาเรื่องขนาดของหน้าจอ หากเคยเล่นเกมในมือถือจอใหญ่ ๆ มาก่อน อาจจะไม่ถนัดเท่าไหร่
หลังจากนั้นก็มีการใช้งานปกติ เช่นคุยโทรศัพท์ เล่นโซเชียลระหว่างทางไปกินข้าว แบตเตอรี่ ณ เวลา 12.42 น. เหลืออยู่ประมาณ 66% จะเห็นได้ว่าจากการใช้งานที่กล่าวไปด้านไป แบตเตอรี่ก็ลดลงไปไม่ถึงครึ่ง ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย
หลังจากนั้นการใช้งาน iPhone SE 3 ในการถ่ายรูป โดยถ่ายรูปไปประมาณ 50 รูป แล้วนำรูปไปแต่งต่อในแอป Lightroom อีกสองสามรูป
จากนั้นก็ใช้งานทั่วไป เช่น ฟังเพลงโดยการเชื่อมต่อ AirPods ตอบแชท และดูซีรีส์ 1 ตอน
ในการดูซีรีส์ 1 ตอน (ความยาวประมาณ 60 นาที) บนแอป Apple TV+ เมื่อดูจบพบว่าแบตเตอรี่ลดลงไปประมาณ 15-16%
ด้านประสบการณ์การดูหนัง ดูซีรีส์ จะมีข้อพิจารณาในเรื่องของขนาดคำบรรยาย (Subtitles) ที่รู้สึกว่าค่อนข้างเล็ก หากสายตาไม่ดีอาจจะต้องเพ่ง อ่านคำบรรยายค่อนข้างยาก
ณ เวลา 17.00 น. มีแบตเตอรี่เหลือให้ใช้งานต่อ 18% ซึ่งก็ถือว่า หากใช้งานทั่วไป ไม่ได้เล่นตลอดเวลา แบตเตอรี่ก็เพียงพอสำหรับคนที่ต้องออกไปทำงานหรือเรียน เน้นไม่ได้เล่นตลอดแต่ใช้งานทั่วไป แต่หากใครคิดว่าตัวเองใช้งานมากกว่านี้ และต้องเล่น iPhone อยู่ตลอดเวลาก็แนะนำให้พก Power Bank และสายชาร์จติดตัวไปด้วยจะดีกว่า
ส่วนในเรื่องของการพกพา น่าจะถูกใจคนที่ชอบมือถือเครื่องเล็ก เพราะ iPhone SE 3 มีขนาดตัวเครื่องที่กระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย สามารถนำไปใส่ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง และกระเป๋าสะพายได้สบาย
ความแรงของชิป A15 Bionic ทำให้การเล่นเกม เล่นโซเชียลมีเดียทำได้ดีมาก ถ่ายรูปออกมาได้สวยงามด้วย Smart HDR 4 และ Deep Fusion โดยรวมถือว่าด้านประสิทธิภาพทำได้ดี ใช้งานได้ลื่นไหล
ด้านการรองรับ 5G นั้น iPhone SE 3 สามารถดึงประสิทธิภาพของ 5G ออกมาใช้งานได้ดีมาก เชื่อมต่อรวดเร็ว ถือว่าเป็น iPhone รุ่นรองรับ 5G ที่มาราคาถูกที่สุดในตอนนี้
ราคา iPhone SE 3
iPhone SE 3 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ได้แก่สีสตาร์ไลท์ มิดไนท์ และสีแดง [PRODUCT RED]
ราคาของ iPhone SE 3 มีดังนี้
- ความจุ 64GB ราคา ฿15,900
- ความจุ 64GB ราคา ฿17,900
- ความจุ 64GB ราคา ฿21,900
สามารถสั่งซื้อได้ที่ Apple Store Online
หน้าร้าน Apple Iconsiam และ Apple Central World หรือร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ