ตามสถิติแล้ว iPad มีโอกาสหล่นน้อยกว่า iPhone เนื่องด้วยขนาดของมัน จนทำให้เราต้องถือสองมือใช้งานอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อตกแล้วมีโอกาสสูงมากที่หน้าจอจะแตกหรือเครื่องบิ่น เนื่องด้วยขนาดใหญ่และน้ำหนักของมันนั่นเอง เคสจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้หลังจากซื้อเครื่องมาใช้งาน

JTL AMOS (Alter Covercase)
เคส iPad ที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้เป็นรุ่นเฉพาะของ iPad 9.7″ (2018) และเป็นแบรนด์จาก JTLEGEND โดยต่อไปนี้จะขอเรียกแค่ “JTL” เพื่อความเข้าใจง่าย ซึ่งรุ่นนี้เองเป็นรุ่น AMOS (Alter Covercase) มาพร้อมกับสีดำสุภาพและไม่สกปรกง่ายนั่นเองครับ สามารถสั่งซื้อได้ผ่านตัวแทนจำหน่าย Com7 (Studio7) ส่วนราคาอยู่ที่ 1,190 บาท
จุดเด่นของรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นวิธีเปิดกล้องแบบรวดเร็ว (Camera Quick Access Corner) ที่ทาง JTL พัฒนาขึ้นเอง นอกจากนี้ยังมีเส้นใสผ้าสำหรับทำฝาเคสซึ่งสามารถพับได้หลายรูปแบบ ส่วนน้ำหนักอยู่เพียง 65 กรัม
สัมผัสแรกของใยผ้าคือมันมีความลื่นอยู่เล็กน้อย ยากที่คราบสกปรกจะมาติด จับแล้วรู้สึกว่ามันแข็งแรงอยู่เหมือนกัน ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มีเวลาทดสอบมากมายอะไรนัก แต่ก็เชื่อว่ามันจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
สำหรับการติดตั้งก็ไม่ยากอะไร เพียงแค่สวม iPad เข้าไปเหมือนเคสปกติ และรุ่นนี้ฝาเคสกับตัวเคสจะยึดติดกันเป็นการถาวร แต่กระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเทอะทะแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่มันเป็นสีดำทำให้เข้ากับ iPad ทุกสี
บริเวณด้านล่างจะเว้นไว้สำหรับช่องเสียบสาย Lightning และลำโพง เพียงแค่เฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งานเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเว้นไว้เป็นแนวยาว จึงช่วยให้สามารถปกป้องและกันกระแทกได้ดีกว่า ส่วนเคสด้านล้างเป็นพลาสติกใสที่หนาพอประมาณ ช่วยให้กันกระแทกได้ระดับหนึ่ง



ตัวเคสสามารถพับได้ถึงสามแบบด้วยกัน แบ่งตามลักษณะการใช้งาน (ตามภาพด้านบน) ส่วนวิธีการพับก็ไม่ลำบากมากนัก แต่ละชิ้นส่วนยึดติดกันด้วยแม่เหล็ก และเมื่อแกะออกเคสก็คืนตัวอยู่ในสภาพดี (ไม่ยับ)
อีกหนึ่งความพิเศษที่กล่าวไว้ข้างต้นก็คือ วิธีเปิดกล้องแบบรวดเร็ว (Camera Quick Access Corner) ตรงนี้สามารถพับลงมาได้เลย เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือวิดีโอด้วย iPad และหากจะว่ากันตรง ๆ แล้วกล้องของ iPad ก็พัฒนาไปค่อนข้างไกล เพียงพอที่จะเอามาใช้งานแทน iPhone แก้ขัดได้
และหากต้องการดูแบตเตอรี่ก็สามารถพับเคสนิดหน่อยเพื่อดูได้ ส่วนบริเวณนี้จะยึดติดกับหน้าจอด้วยแม่เหล็ก โดยเวลาที่พับเคสหน้าจอ iPad ก็จะดับโดยอัตโนมัตินั่นเองครับ (แต่พอเปิดเครื่องก็จะตื่นสลับกัน)
สรุป
เป็นเคส iPad ที่ราคาไม่แพงมากนัก สมเหตุสมผลกับคุณภาพวัสดุ สามารถใช้งานคุณสมบัติพื้นฐานได้อย่างคล่องตัว รายละเอียดการเก็บงานรวมถึงวัสดุออกแบบมาอย่างดี ให้ความบางและมีน้ำหนักเบา จึงขอสรุปได้ว่า JTL AMOS (Alter Covercase) เป็นเคสรุ่นมาตรฐานที่เหมาะกับทุกคนครับ
หากใครสนใจ JTL AMOS (Alter Covercase) สามารถไปซื้อกันได้ที่ Studio7