Mi Band นี่เป็นสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ ถ้าเป็นของ Apple เองจะเรียกว่า “Apple Watch” แต่สำหรับตัวนี้เป็นเหมือนเครื่องนับก้าวพร้อมกับระบบสั่นมากกว่า (มันทำได้แค่นี้แหล่ะ) ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับเลยว่า ผมเองโง่มากคิดว่ามันใช้ได้แต่กับ Android จนกระทั่งมารู้ทีหลังว่า iOS ก็สามารถใช้ได้ (ถึงแม้จะไม่เสถียรเท่าก็ตาม)
Mi Band
ถ้าหาก Apple คือเบอร์หนึ่งในวงการสมาร์ทโฟน Xiaomi ก็คือม้ามืดที่ไล่ตามมาแบบก้าวกระโดด แถมคู่แข่งอย่าง Samsung เองก็ยังรู้สึกสะท้านไม่แพ้กัน ดั่งคำที่นักปราชญ์เคยกล่าวเอาไว้ว่า “พระเจ้าสร้างแค่โลก ส่วนที่เหลือสร้างที่เมืองจีน” (ฮา) ผมสั่ง Mi Band 3 มาในราคา $14.29 (ประมาณ 530 บาท) ตอนนี้มีรุ่นใหม่แล้วเป็นรุ่นที่สาม
สำหรับคนที่สนใจตัวนี้ไม่มีผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (ว่ากันตามตรงก็คือไม่มีศูนย์บริการ) ตอนนี้มีผู้นำเข้าแล้วครับ แต่เนื่องด้วยราคาที่มันค่อนข้างต่ำคุณจึงไม่ต้องซีเรียสมันก็ได้ ราคาตามร้านตู้หรือคนหิ้วทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 700-900 บาท แต่ถ้าสั่งออนไลน์แบบผมก็รอนานหน่อย แต่ประหยัดเงินไปได้หลายร้อย (ตามลิงค์ที่ให้ไว้ด้านบน)
ถ้าหากจำไม่ผิด Mi Band จะมีอยู่สองล็อต รุ่นแรกจะเป็นแบบประกอบมาให้เสร็จในกล่องเลย ส่วนรุ่นสองที่ผมได้ต้องเอามาประกอบเอง แบตเตอรี่ 41 mAh เพิ่มเป็น 45 mAh และไฟ LED จากทั้งหมด 4 สี เหลือเพียงสีเดียว (แย่จัง) แต่ไม่เป็นไรไม่ต้องซีเรียสมากเพราะใช้งานได้เหมือนกัน
อุปกรณ์ภายในประกอบด้วย
- สายรัดข้อมือ
- สายนาฬิกา (Band Strap)
- สายชาร์จ
- คำภีร์คู่มือหน้าเดียว
โดยรวมแล้วไม่มีอะไรมากแต่อุปกรณ์ก็ครบสมบูรณ์ดี ตอนแรกประกอบค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะมันใส่ยาก แต่ลองดันไปสักพักก็น่าจะพอรู้เทคนิคได้ไม่ยาก
จุดเด่นคือสามารถกันน้ำและใส่อาบน้ำได้เลย (แต่บางคนบอกใส่ว่ายน้ำแล้วพัง) แบตเตอรี่สุดโหดใช้ได้ 30 วัน
สายด้านหลังเป็นแบบนี้เวลาใส่ข้อมืออาจลำบากเล็กน้อย เพราะมันค่อนข้างจะแน่นนั่นเอง
สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่เป็นสายเฉพาะ ทำให้ค่อนข้างยุ่งยากและลำบากเวลาชาร์จ คำเตือน : ห้ามทำหาย ส่วนการชาร์จเดือนละครั้งอันนี้ไม่ซีเรียส และเนื่องด้วยแบตเตอรี่ 45 mAh ชาร์จเพียงไม่กี่นาทีก็เต็มแล้ว
แอปพลิเคชันตอนนี้มีให้ดาวน์โหลดแล้วผ่าน App Store โดยชื่อว่า Mi Fit ตัวไฟล์มีขนาดเล็กสามารถใช้ร่วมกับเครื่องชั่งน้ำหนัก Mi Scale ได้ด้วย (โอกาสหน้าคงได้รีวิวกัน เพราะราคามันก็ไม่แพง)
แรกเริ่มเดิมทีระบบจะให้สมัครสมาชิกก่อน ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลอีกเล็กน้อย พอทำการ Pair กับเครื่อง iPhone (หรือ Android) ได้เรียบร้อยแล้วก็จบกัน หากใครใช้ Bluetooth 4.1 จะประหยัดพลังงานมากเป็นพิเศษ
เลือกเพศ, เดือน, ปีเกิด เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ด้านสุขภาพ
จากนั้นตามด้วยส่วนสูงและน้ำหนัก แล้วตามด้วยเป้าหมายก้าวเดินในแต่ละวันถ้าให้ดีอยู่ช่วงละประมาณ 8,000-10,000 ก้าวต่อวัน (หากคุณเป็นคนสุขภาพแข็งแรงดี) แต่ถ้าใครหัวเข่าหรือขาไม่ค่อยดีก็ลองปรึกษาหมอดูว่าควรลดเหลือเท่าไหร่
อุปกรณ์เพื่อสุขภาพของ Xiaomi ประกอบไปด้วยสายรัดข้อมือ (ที่เรากำลังรีวิวอยู่), Mi Scale (เครื่องชั่งน้ำหนัก, LN Furious & Speed) เห็นแล้วอยากซื้อมาใช้มันหมดทุกชิ้นเลยทีเดียว หรือหากใครอยากได้รุ่น Xiaomi Huami AMAZFIT Bip ก็น่าสนใจตรงที่มีหน้าจอด้วย
ปกติมันจะขึ้นระยะเวลาการนอนให้ด้วย ซึ่งของผมไม่ขึ้น (Bug) และมาพาความจริงทีหลังว่า “ต้องเปลี่ยน พ.ศ. เป็นหน่วย ค.ศ.” ถึงจะวัดการนอนได้ โดยตามหลักการแพทย์จะแบ่งการนอนออกเป็น Deep Sleep, Light Sleep (หลับลึก, หลับกึ่งตื่น) นอกจากนี้ก็ยังสามารถตั้งปลุกด้วยวิธีการสั่นได้ด้วย Early bird alarm โดยการปลุกจะเป็นการปลุกในช่วงที่เรา Light Sleep (หลับกึ่งตื่น) ช่วยให้เราตื่นนอนได้อย่างสดชื่นนั่นเอง
นอกจากนี้ยังสามารถวิเคราะห์สุขภาพได้อีกสารพัดเกี่ยวกับแนวโน้มด้านน้ำหนัก, การเดิน, การออกกำลัง, ฯลฯ ส่วนฟีเจอร์โง่ ๆ อย่างการคนโทรเข้ามาแล้วสั่น หรือสั่นการแจ้งเตือนก็สามารถทำได้ดี แต่หากเป็น Android จะใช้งานฟีเจอร์ได้มากกว่า เช่น ไม่ต้องปลดล็อคมือถือถ้าหากสวมใส่อุปกรณ์นี้ เป็นต้น
สั่งซื้อคลิก! GearBest