โมชิ ๆ ๆ ชื่อนี้เพียงได้ยินก็คุ้นหู โดยไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากเจ้า Accessories ประจำของ iStudio นั่นเอง โดยส่วนตัวแล้วผมได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์เจ้านี้บ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นเคส กันรอย หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย และมีแบรนด์การันตีอยู่แล้ว ว่าชื่อ Moshi นี่ซื้อไปยังไงก็ไม่ผิดหวัง (ใครว่ายี่ห้อนั้นไม่สำคัญ) แต่ขอสารภาพกันตามตรงเลยว่าในแง่ของหูฟังแล้ว ผมเป็นคนค่อนข้างเลือก และยังไม่เคยใช้ของ Moshi เลย หากจะให้ถามความรู้สึกตรง ๆ กันเลยก็คือ ถึงผมจะชอบ Moshi และไว้ใจระดับหนึ่ง แต่ในเรื่องของหูฟังนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน และ Moshi ก็ไม่ได้โด่งดังมาจากอุปกรณ์ประเภทนี้ด้วย เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่า Moshi นั้นจะมีดีแค่สวยแต่รูปหรือไม่? และคุณภาพจะเป็นเช่นไร?
“Moshi – moonrock” สามารถหาซื้อได้ตาม iStudio, iBeat และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ราคา 1,170 บาท สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ ที่นี่
ผลิตภัณฑ์ถูกแบ่งแยกออกมาทำการตลาดชัดเจน ในชื่อของ Moshiaudio ต่างจากผลิตภัณฑ์ของ Moshi ทั่ว ๆ ไป ในความเห็นของผมคาดว่า Moshi อาจจะต้องการแสดงจุดยืนชัดเจนก็เป็นได้ ว่าเราก็คือผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงเหมือนกัน ไม่ใช่สินค้าที่ขายความน่ารักไปวัน ๆ
รายละเอียดของสเปคหูฟังด้านข้างกล่องครับ ผมเชื่อว่าสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจนั้น หูฟังที่แถมมาของ Apple นั้นไม่ตอบโจทย์เลย ทำได้แย่เอามาก ๆ สำหรับผมแกะมาครั้งเดียวแล้วก็เก็บลงกล่องเลยครับ ดังนั้นทางออกคือหาหูฟังดี ๆ ซักอัน ยิ่งถ้าได้หูฟังที่มีไมค์ด้วยยิ่งแจ่มเลย เพราะจะได้เอาไว้คุยได้ด้วย
ด้านหลังกล่องมีสติกเกอร์โฮโลแกรมของ Moshi ใครที่ไปซื้อนอก Shop ก็เช็คของดี ๆ แล้วกันครับ เพราะของปลอมเยอะมาก ยังไงให้ดูสติกเกอร์โฮโลแกรมไว้ก่อน เพราะของแท้จะต้องมีทุกกล่อง
ตัวบรรจุภัณฑ์ออกแนวขาว ๆ สะอาด ๆ สามารถมองเห็นผลิตภัณฑ์ด้านในได้อย่างชัดเจน คนซื้อจะได้ไม่ต้องมาผิดหวังทีหลังที่ว่า “ทำไมของจริงไม่เห็นเหมือนภาพหน้ากล่องเลย” ใครชอบสีไหนก็ลองหยิบลองจับดูกันได้ครับ โดยสินค้าที่ออกมามีทั้งสี ขาว, เขียว, ชมพู, เหลือง, ดำ, แดง ซึ่งของที่ผมรีวิวนี้จะเป็นสีชมพูครับ
แกะกล่องมาจะมีคู่มือการใช้งานให้อ่านกันซักเล็กน้อย รวมถึงการรับประกันผลิตภัณฑ์ (สินค้ามีประกันนะครับ ไม่ใช่ซื้อแล้วขาดเลย เหมือนหูฟัง Noname ถูก ๆ ทั่วไปตาม MBK) ดังนั้นใครที่กำลังจะซื้อหูฟังตัวใหม่มาแทนตัวเก่าที่หายไป ผมแนะนำว่าถ้าจะซื้อของ Apple ที่ขายกันตามตู้อย่าไปเสียเวลาเลยครับ 90% ของปลอมทั้งนั้น ราคา 400-600 ประกันก็ไม่มี วันดีคืนดีหูข้างนึงเสีย หรือไมค์ไม่ติดก็เตรียมทิ้งได้เลย
ด้านในถูกแพคมาอย่างสวยงาม ตัวหูฟัง Moshi นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวเก็บหูฟังที่สง่างามอยู่ตรงกลาง ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อ Moonrock หรือหินดวงจันทร์
เมื่อแกะอุปกรณ์มาแล้วจะพบดังนี้ ประกอบด้วยหูฟังแบบ In-ear (มีไมค์ในตัวด้วยนะ), ตัวเก็บหูฟัง, และจุกยางทั้ง 3 ขนาด
ตัวเก็บหูฟังบริเวณด้านฐานของอุปกรณ์ มีการสลักคำว่า Moshiaudio วัสดุที่ใช้ทำเท่าที่สัมผัสดูน่าจะเป็นพลาสติกเคลือบยาง มีน้ำหนักเล็กน้อย (น้ำหนักแค่พอถ่วงไม่ให้โดนพัดลมพัดแล้วปลิว) ข้อดีคือสามารถแกะติดกับพื้นผิวดีครับ ไม่เลื่อนง่าย ๆ ซึ่งก็คือคุณสมบัติของยางนั่นเอง
ด้านหน้าเป็นรูสำหรับเก็บหูฟัง หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดในใจว่า “แถมมาทำไม เอามาก็ไม่ได้ใช้ ขยะแท้ ๆ” นั่นคือ “คุณคิดผิดครับ” ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น แต่พอได้พิจารณาและทดลองใช้ดูแล้ว คือนอกจากมันจะกันไม่ให้สายหูฟังพันกัน แล้วมันยังมีคุณสมบัติกันกระแทกให้กับตัวหูฟังได้ด้วยครับ ลองคิดดูว่าหากโยน ๆ ใส่กระเป๋าเป้แล้วตัวหูฟังมันอยู่ล่างสุดจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งหนังสือ ทั้ง Notebook กระแทก ๆ กันอยู่ในนั้น อาจทำให้แตก หัก หรือดึงจนสายขาดเอาได้ง่าย ๆ
จุกยางขนาด 3 ระดับ (จริง ๆ แล้วผมวางตำแหน่งผิดไปนิดนึง) พอได้จับคู่กันแล้วไม่ต้องตกใจครับ มันจะได้ข้างละสี เป็นปกติครับ เขาไม่ได้ใส่ผิดหรืออะไรแต่อย่างใด ซึ่งนั่นก็คือความแสบปนความน่ารักของ Moshi แต่มันไม่ได้จบเท่านั้นครับ หากพิจารณาถึงการใช้ประโยชน์ดี ๆ จะรู้ว่ามันทำให้เราสามารถจำได้ง่ายดายเลยว่า “สีชมพูคือข้างขวา ส่วนขาวคือข้างซ้าย” เป็นไงล่ะครับ? รู้สึกถึงความพิถีพิถันและความปราณีตต่อตัวสินค้าของ Moshi แล้วหรือยัง?
เมื่อติดตั้งแล้วก็จะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ ผมจำได้ขึ้นใจโดยไม่ต้องเพ่งเลยว่า สีชมพูอยู่ขวา ส่วนขาวอยู่ซ้าย ตัวสายมีสีชมพูหวานทั้งอันครับ เหมาะกับสาว ๆ เป็นอย่างมาก เท่าที่ได้ลองให้แฟนผมใช้ปรากฏว่าเธอชอบมากครับ บอกว่าน่ารักดี ทำไม Apple ไม่แถมอะไรน่ารัก ๆ แบบนี้บ้าง (ฮา)
ตัวหูฟังเป็นแบบ in-ear และมีไมค์พร้อมปุ่มรับสาย ซึ่งหากเล่นเพลงอยู่จะเป็นการหยุดเล่นชั่วคราวแทน เป็นพลาสติกแข็งแรงดี และดีไซน์ดูเรียบ ๆ เข้ากับอุปกรณ์ แต่น่าเสียดายตรงที่ว่าไม่มีปุ่มเพิ่มและลดเสียงเพลง
ทดสอบใช้กับ iPhone4 เวลาไม่ใช้งานก็เสียบเก็บง่าย ๆ ดูเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้ม้วนสายเก็บนะ เพราะแค่พักชั่วคราว เดี๋ยวต้องแกะมาฟังอีก เพราะติดใจในเสียงของมัน
ลองทดสอบฟังเพลงดู ให้เสียงออกกลาง ๆ เหมาะสำหรับคนฟังเพลงสบาย ๆ มีเบสบ้างแต่ไม่ถึงกับทำให้ปวดหู หรือกลบเสียงคนร้องไป คุณภาพนั้นดีกว่าหูที่แถมมาของ Apple มากมายนัก แต่ถ้าหากเทียบกับหูฟัง In-ear ของ Apple ที่ขายแยกนั้น (ราคา 2,990.-) ถือว่าคุณภาพอยู่ใกล้ ๆ กัน (แต่ราคา Moshi ถูกกว่าเยอะมาก)
คุณภาพเสียงผมให้ผ่านครับ สำหรับคนฟังเพลงทั่ว ๆ ไป แต่ถ้าหากคนชอบฟังเพลงเบสหนัก ๆ แบบหนังเวอร์ ๆ หูฟังตัวนี้คงจะไม่ตอบโจทย์มากนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหูฟังตัวนี้เบสไม่ดีนะ เพียงแต่อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ต่ำและไม่สูงจนเกินไป
เมื่อเก็บหูฟังเสร็จเรียบร้อยจะเป็นแบบนี้ครับ เรียบร้อย สวยงาม ดูเป็นก้อน ๆ เดียว ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งยื่นออกมาให้รบกวนหัวใจ แถมช่วยปกป้องหูฟังจากการแตกหัก และสายพันกันอีกด้วย
ขนาดให้เทียบสัดส่วนโดยประมาณครับ ขนาดเล็ก ๆ ประมาณใส่กระเป๋ากางเกงได้อย่างสบาย ๆ
สรุป : เป็นหูฟังที่ราคาถูกมาก ๆ ที่มียี่ห้อและมีไมค์ในตัว แถมยังมีประกัน 1 ปีให้อีก เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงสบาย ๆ ไม่โดดเด่นอะไรมาก และยังต้องการใช้ไมค์ในตัวอยู่ มีดีไซน์และความน่ารักแบบเรียบ ๆ ในแบบฉบับของ Moshi หากคุณต้องการหูฟังที่คุ้มค่าเกินราคาตัวนี้คือคำตอบ แต่ถ้าหากคุณต้องการคุณภาพแบบไร้ที่ติของให้ข้ามไปครับ เพราะราคาเพียงแค่นี้ก็ไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้อยู่แล้ว
ขอขอบคุณ : Moshi Thailand ที่เอิ้อเฟื้อหูฟังคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
หากท่านสนใจสินค้าสามารถหาซื้อได้ตาม iStudio, iBeat และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ