yugioh2500
สืบเนื่องมาจากงาน ประชาสัมพันธ์ : Motorola เปิดตัว Xoom และ Atrix อย่างเป็นทางการในประเทศไทย คราวที่แล้ว พริตตี้สวยมาก งานนั้นได้มีการเปิดตัวทั้ง Xoom และ Atrix ซึ่งสเปคทั้ง 2 ตัวนั้นค่อนข้างที่จะละม้ายคล้ายกันก็คือเป็น Dual Core โดยส่วนตัวแล้วชีวิตนี้นอกจาก iPad2 แล้วผมแทบจะไม่เคยสัมผัสมือถือ Dual Core เลยยกเว้น LG Optimus 2X โดยอ่านได้ใน รีวิว – (สัมผัสแรก) LG Optimus 2X ผู้ท้าชนคนใหม่ของ iPhone4 ซึ่งก็ถือว่าประทับใจระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีข้อให้ติบ้าง เนื่องจากส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ ROM ที่ยังดีไม่พอ ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาดูกันว่า Motorola Atrix จะถูกใจผู้อ่านกันหรือไม่? (อาจจะไม่เกี่ยวกับ iPhone แต่ผมก็ยังยินดีที่จะเสนอข้อมูลให้กับทุกท่านได้รับชมครับ)
สำหรับในภาคนี้จะเป็นภาค 2 (ภาคใช้งาน) นะครับโดยหากใครจะอ่านภาค 1 (สัมผัสแรก) ขอเชิญอ่านได้ที่นี่ครับ
สัมหรับหน้าจอแรกในการ Unlock มีให้เลือกว่าต้องการจะ Unlock (ด้านซ้าย) หรือว่าปรับเสียง (ด้านขวา) ซึ่งการ Unlock สังเกตุจากหน้าจอได้ว่าจะมีการสแกนลายนิ้วมือได้ด้วย โดยเซนเซอร์จะอยู่บริเวณด้านหลังเครื่อง สามารถ Unlock ได้อย่างเท่ห์ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร แต่หากนิ้วเปียกหรือเท่ห์ไม่ได้จริง ๆ ก็ยังสามารถใส่เป็นรหัสผ่านธรรมดาได้
สำหรับหน้าจอพื้นฐานที่ให้มาในตอนแรก ซึ่งผมลงเองเพิ่มไม่กี่ตัวเท่านั้นก็จะมีพวก Facebook, Twitter, Foursqure เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมพื้นฐานที่เครื่องให้มานั้นจะเป็นจำพวก Basic สำหรับการใช้งานจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาปลุก ปฏิทัน กล้อง อีเมล์ เครื่องคิดเลข ฯลฯ โดยนอกเหนือจากนี้ (รวมถึง Keyboard ภาษาไทย) สามารถหาโหลดได้ใน Android Market ที่มี App มากมายเป็นแสน ๆ App
เมื่อเข้าไปที่เมนูจะพบเหล่านี้เป็นโปรแกรมพื้นฐาน มีเพียงไม่กี่โปรแกรมเท่านั้นที่ผมโหลดมาแยกพวก Facebook, Twitter, Foursqure, Speed Test, Major เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดนี้ผมโหลดมาฟรี ๆ ผ่าน Android Market โดยจะต่างจาก iOS ที่จะต้องโหลดผ่าน App Store ของ Apple โดยจากการที่ดูโดยรวมแล้วดูเหมือนว่าทาง Android Market จะมี App ให้เลือกใช้ได้มากกว่า
อีกหนึ่งสิ่งที่ผมชอบใน Motorola Atrix คือ Social Networking ที่รวบรวมเอาบริการ Social Network ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เราประกาสเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถเชื่อมโยงไปยังสื่อต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งตัว Motorola Atrix นี้มาพร้อมกับสเปคที่เหลือ ๆ ระดับ Dual-Core (CPU 2 คอร์ ทำงานเร็วขึ้นถึง 2 เท่า)RAM 512MB และหน่วยความจำในตัวสูงถึง 16 GB อีกทั้งยังรองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 32 GB พร้อมการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงระบบ 3G, WiFi, Bluetooth และยังสามารถบันทึกภาพนิ่งระดับ 5 ล้านพิกเซล กับวิดีโอ 720p และยังมีสาย HDMI สำหรับเชื่อมต่อและเล่นไฟล์มีเดียบนโทรทัศน์ทั้ง ภาพ, เพลง และวิดีโอระดับ Full HD 1080p ซึ่งผมได้กล่าวไปในบทแรกแล้ว
การประกาศข้อความสามารถเลือกได้ว่าจะส่งไปยัง Social Network ทั้งหมดหรือว่าจะเอาแค่อันใดอันหนึ่ง สะดวกมากจริง ๆ ประกาศแค่ครั้งเดียวได้ถึง 3 ผ่าน ID Moto Blur (สมัครก่อนใช้งาน ฟรี!!!)
มาดูกันทางด้านกล้องของตัวนี้กันบ้างว่าจะเป็นอย่างไร? จากเท่าที่ดูหน้าสเปคเลนส์แล้วเป็นกล้อง 5MP (เท่ากับ iPhone) มาพร้อมแฟลช 2 ตัว ซึ่งให้ความสว่างหวังผลได้ประมาณ 2 ฟุตได้ (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพจริงได้เลยครับ)
ภาพที่ผมจับมาได้นั้นผมได้ทำการจับภาพในหลาย ๆ มุม หลาย ๆ สภาวะ ปรากฎว่าความคมชัดก็ยังอยู่ในที่น่าพอใจ แต่ไม่สามารถที่จะโฟกัสแบบเลือกจุดเองได้ เพราะเป็น Auto Focus
ตัวโปรแกรม Moto Phone Portal ใช้สำหรับการเชื่อเนื้อหาต่าง ๆ เข้าสู่คอมฯ โดยมีข้อดีตรงที่ว่าสามารถที่จะเชื่อผ่าน WiFi ได้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้นั้นไม่มีใคร iPhone และยังคงจะต้องรอต่อไป
ทดสอบเล่นเกม NFS Shift ที่แถมมากับเครื่อง (อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าแถมไหมนะ เพราะได้เครื่องมาปุ๊บก็มีอยู่เลย) สามารถทำงานได้อย่างราบลื่นไม่มีสะดุดแต่อย่างใด
ทดสอบอีกเกมที่ติดมากับเครื่อง BlastMonkeys น่ารักสดใสสาว ๆ คงจะชอบ
โปรแกรม File Manager ใช้จัดการไฟล์ต่าง ๆ ภายในเครื่อง Atrix
DLNA หรือ Digital Living Network Alliance ซึ่งถ้าจะให้แปลเป็นไทยแบบเข้าใจง่ายก็คือ ” พันธมิตรเครื่อข่ายระบบดิจิตอลภายในที่พักอาศัย” ซึ่ง DLNA เริ่มก่อตั้งในปี 2003 เพื่อให้บริษัทต่างๆทั่วโลก ทำผลิตภัณฑ์ต่างๆให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ และในวันนี้ก็มีกว่า 245 บริษัท ที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทำงานร่วมกับ DLNA ได้ หรือก็คือระบบแชร์มีเดียภายในบ้านนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง วีดีโอ ฯลฯ
ระบบ Media Share ซึ่งช่วยในการเล่นภาพยนต์ผ่าน HDMI สู่ HD TV อีกทั้งยังสามารถ COPY ไฟล์ไปสู่สื่ออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
รายละเอียดเกี่ยวกับมือถือ Motorola Atrix ซึ่งตัวนี้มาพร้อม Android 2.2.2 สามารถอัพเดทได้ล่าสุด ณ ปัจจุบัน
ทดสอบระบบ Multitouch ว่าสามารถรองรับการใช้งานได้สูงสุดเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีปัญหาสำหรับเกมบางเกม ที่ต้องใช้มากกว่า 2 นิ้วพร้อม ๆ กัน หรือเกมที่ต้องใช้ความว่องไวสูง ซึ่งหากใครไม่ค่อยได้เล่นเกมเป็นพื้นเดิมอยู่แล้วก็ขอให้วางใจได้ว่าการที่มี Multitouch แค่ 2 จุดจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
ทดสอบความเร็ว Benchmark ด้วย Quadrant Standard ได้ 2,058 คะแนน ซึ่งสูงกว่ามือถือต้นแบบอย่าง Nexus One อยู่ถึง 4 เท่าโดยประมาณคร่าว ๆ
ทดสอบความเร็วด้วย Smartbench 2011 ได้คะแนน Prodictivity 2,672 คะแนน ส่วน Games ได้คะแนน 2,532 คะแนน จากสเปคเมื่อเทียบกับมือถือรุ่นตัวท๊อปอื่น ๆ แล้วจะเห็นว่าค่อนข้างห่างกันพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ Ver. Android และความเร็วของ CPU ที่มีมา 1Ghz เพราะตัวท๊อปรุ่นอื่น ๆ ก็มักจะโดดไปที่ 1.4-15Ghz กันหมดแล้ว (แน่นอนว่าราคาโดดตามด้วย)
สุดท้ายก่อนจากกันขอจบด้วยภาพจาก Moto Blur Account ที่ทำการเชื่อมต่อกับ Account ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จะเห็นว่าสะดวกมาก ๆ เหลือเกิน เพราะเป็นส่วนที่ผมชอบมากที่สุดและยังสามารถใช้ได้จริงอีกด้วย คนที่ต้องการเอามือถือไปติดต่อทั้งธุรกิจและเรื่องส่วนตัวจะพบว่ามันเอาอยู่จริง ๆ ครับกับ Motorola Atrix
สรุป Motorola ATRIX
จากบทความที่แล้วผมได้ทำการสรุปด้านดีไซน์และ Hardware พื้นฐานไปแล้ว คราวนี้ผมจะขอมาสรุปเกี่ยวกับการใช้งานดู เท่าที่ลองใช้นะครับผมติดใจกับ Moto Blur Account มาก ๆ ที่เชื่อมทุก ๆ Account เข้าด้วยกันแล้วแจ้งเตือนภายในคราวเดียว การใช้งานเครื่องนั้นถือว่ามีความร้อนสูงมากอยู่แล้วหากมีการใช้งาน 3G หรือเล่นเกมหนัก ๆ ซึ่งก็ทำให้ผมตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พอใช้งานไปนาน ๆ ก็เข้าใจว่าเป็นปกติ สเปคเครื่องที่ให้มานั้นยังถือว่าเริ่มจะตกรุ่นนิด ๆ แล้ว เพราะปัจจุบันมีตัวแรง ๆ หลายตัวมาตีแล้ว แต่ยังไงหากซื้อไปใช้งานจริงแล้วมันก็ยัง “เพียงพอ” ต่อความต้องการอยู่ เหลือเพียงแค่ ROM เท่านั้นที่ดูเหมือนจะเก่าไปนิด อาจต้องหา ROM นอกมาลงดู แต่ถึงอย่างไรหากได้ราคา “ถูกกว่าตอนเปิดตัว” Atrix ก็ยังถือว่าน่าเล่นอยู่ครับ (ราคาเป็นตัวแปรสำคัญ)
ขอขอบคุณ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สำหรับเครื่องทดสอบ
