SwitchEasy เป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตเคสคุณภาพสูงของโลก และรุ่น CoverBuddy ก็เป็นเคสตระกูล iPad Pro ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple ได้อย่างไม่มีปัญหา จุดเด่นอยู่ที่ความบาง น้ำหนักเบา แถมยังมีราคาถูกกว่าอุปกรณ์เสริมที่มาจากศูนย์
SwitchEasy CoverBuddy
รุ่นนี้สร้างชื่อเสียงด้วยการ “เป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้ร่วมกับ iPad Pro Case ได้อย่างไม่มีปัญหา” โดยปกติแล้วคนที่ซื้อ iPad Pro มักจะมีอุปกรณ์ต่อพ่วงเป็น Apple Pencil และ Smart Keyboard ตามลำดับ (ของมันต้องมี!) แต่จะปล่อยให้เปลือยหลังก็กะไรอยู่ จึงจำเป็นต้องมี SwitchEasy CoverBuddy เข้ามาร่วมปกป้องด้วย
สำหรับรุ่นนี้ก็มีทั้งหมดสี่โมเดลด้วยกัน รองรับ iPad Pro 9.7, 10.5, 11, 12.9, iPad Air (2019) โดยอุปกรณ์เหล่านี้ก็มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้งานร่วมกับ Apple Pencil และ Smart Keyboard นั่นเองครับ และหากคุณใช้งานนอกเหนือจากนี้เราก็แนะนำเป็นเคสรุ่นอื่นจะตอบโจทย์มากกว่า ส่วนตัวอย่างที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้เป็นรุ่นสำหรับ iPad Pro 11″ (2018)
ตัวเคสมาพร้อมกับฟิล์มกันรอยทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อให้สิ้นเปลือง และถึงแม้จะเป็นของแถมแต่ฟิล์มของ SwitchEasy ก็อยู่ในระดับฟิล์มเกรด A เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกระจกกันกระแทกครับ
เนื้อผ้าด้านในเป็นลักษณะคล้ายกำมะหยี่ วัสดุเป็นพลาสติกคุณภาพสูงที่บิดงอได้เยอะ ขอบถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ยังให้ความแข็งแรง การยึดเกาะตัวเคสทำเพียงแค่บริเวณขอบลดปัญหา “การกินฟิล์ม” ส่วนสีที่ผมรีวิวเป็นดำด้านแบบไม่ติดรอยนิ้วมือ
มีการเชื่อมต่อรองรับ Apple Pencil และ Smart Keyboard ได้อย่างไม่มีปัญหา 100% หรือจะอัปเกรดใช้ร่วมกับ SwitchEasy Folio ก็ได้ด้วยเช่นกัน เหมาะกับคนที่ชอบใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริม แต่ถ้าคุณอยากได้เคสเดียวจบทุกอย่าง แนะนำให้มองเป็นรุ่นอื่นแทนจะดีกว่าครับ
น้ำหนักโดยรวมเมื่อใช้งานร่วมกับ iPad Pro + Apple Pencil + Smart Keyboard อยู่ที่ประมาณ 1.2 ขีด ในขณะที่หากใช้งาน Logitech Create Keyboard Case จะมีน้ำหนักสูงถึง 1.5 ขีด ส่วนความบางแทบจะห่างกันครึ่ง ๆ เพราะส่วนที่บางสุด SwitchEasy อยู่ที่ 10.5 มม. ส่วนคู่แข่งหนาถึง 21.1 มม.
ด้านข้างมีที่เหน็บอุปกรณ์เสริม Apple Pencil แถมยังสามารถใช้คุณสมบัติชาร์จไฟจาก iPad Pro ได้โดยไม่ต้องแกะเคสให้วุ่นวาย หรือจะใช้งานร่วมกับ SwitchEasy EasyPencil ก็ไม่มีปัญหา และไม่ใช่เพียงแค่วางแต่มันล็อคได้แบบไม่มีหลุดระหว่างการพกพา
ตัวอย่างการใช้งานร่วมกับ SwitchEasy EasyPencil (สวยดีสีดำเป็นชุดเข้ากัน)
SwitchEasy EasyPencil
จริงอยู่ว่า Apple Pencil นั้นสุดยอดชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่คนที่ไม่ได้ใช้วาดรูปอะไรมากมาย อาจไม่พร้อมที่จะเสียเงิน 3,400 บาท ทางออกจึงเป็นอุปกรณ์จากผู้ผลิตอื่นด้วยราคาที่ถูกกว่าเกินครึ่ง EasyPencil นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่มองหา Stylus ดี ๆ สักด้าม เพื่อขีดเขียนบันทึกธรรมดาทั่วไป
ถึงแม้ว่าจะลงแรเงาและรับน้ำหนักไม่ได้ แต่ก็ขอบอกว่านี่คือหนึ่งใน Stylus ที่ดีที่สุดในท้องตลาด
ขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกัน ส่วนวัสดุเป็นอลูมิเนียมเกรดอากาศยาน ที่ผ่านกระบวนการอโนไดซ์เช่นเดียวกับ Apple ให้ความสมบูรณ์แบบงดงามไม่ต่างกัน
ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Bluetooth สามารถขีดเขียนได้เลย แถมยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ Apple ยกตัวอย่างเช่น Android หรือ Windows ที่รองรับระบบสัมผัส
สำหรับรุ่นนี้จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทาง Micro USB แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ต้องกังวลเพราะสามารถใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง (หากไม่ใช้งานเกิน 30 นาที ปากกาจะปิดตัวเอง)
ความรวดเร็วในการตอบสนองเข้าขั้นดี มีความแม่นยำของเส้นสูงและหัวมีขนาดเล็ก เพียงพอสำหรับการจดบันทึกทั่วไป รวมถึงการลากเส้นวาดอะไรง่าย ๆ เพียงแต่ไม่รองรับแรงกดดันและการแรเงาแบบ Apple Pencil เหมาะสำหรับคนชอบความเรียบง่าย เน้นใช้งานหลายอุปกรณ์ และที่สำคัญคือราคาถูกครับ
สรุป
SwitchEasy เป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับ iPad Pro สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้อย่างไม่มีปัญหา แถมยังมีตัวเลือกเป็น EasyPencil เป็นอีกทางเลือกให้ใช้งาน วัสดุโดยรวมแล้วคุณภาพสูงเกินราคา
- SwitchEasy CoverBuddy ราคา 1,190 บาท
- SwitchEasy EasyPencil ราคา 1,490 บาท
หากใครสนใจผลิตภัณฑ์ SwitchEasy สามารถไปซื้อกันได้ที่ Studio7
สรุป
แจกฟรี! SwitchEasy CoverBuddy และ SwitchEasy EasyPencil เพียงบอกเราหน่อยว่าอยากพก iPad สุดโปรดไปเที่ยวหรือทำงานกันที่ไหนบ้าง สุ่มผู้โชคดีจำนวน 1 ท่าน รับกันไปเลยเป็นคู่เอาไว้ใช้งานกันเลยฟรี ๆ ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ – 12 เมษายน 2562 และการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุดนะครับ [Facebook]