จากตำนานเคสที่เป็นกระแสเอาเสียมาก ๆ ในรุ่น iPhone 4/4S วันนี้ X-Doria Defense 360 กลับมาอีกครั้งบนอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งนั่นก็คือ iPhone 5 นั่นเอง แต่ตรงนี้หลายคนอาจจะไม่ค่อยมั่นใจเพราะไม่เคยเห็นของจริง ครั้นจะดูจากรีวิวตัวเก่าใน รีวิว – X-Doria Defense 360 สุดยอดเคสที่กันรอยได้รอบตัว ก็เกรงว่าวัสดุและการออกแบบมันจะไม่เหมือนกัน ในวันนี้ผมจึงจะมารีวิวของจริง ๆ ตัวเป็น ๆ ให้ดูกันเลยแล้วกันครับ
“X-Doria Defense 360 for iPhone 5” สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ BBiPhone.com โดยราคาจะอยู่ที่ 950 บาท
สำหรับวีดีโอรีวิวนั้นมีทั้งหมด 2 ตอนนะครับ เป็นตอนใหม่สำหรับ iPhone 5 (ด้านบน) และสำหรับ iPhone 4/4S (ด้านล่าง) ถ้ายังไงลองแนะนำให้ดูให้ครบแล้วกันครับ เนื่องจากตอนใหม่สำหรับ iPhone 5 (ด้านบน) นั้นมีปัญหาทางเทคนิคเรื่องการบันทึกเสียง ถ้ายังไงต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ครับเพราะตอนตรวจสอบก่อนอัพโหลดมันปกติดี
มีอะไรเปลี่ยนไปใน X-Doria Defense 360 รุ่นใหม่?
ก่อนอื่นถ้าพูดแบบทั่ว ๆ ไปหรือแบบโฆษณาก็คือเปลี่ยนขนาดให้รองรับ iPhone 5 แต่ความจริงก็คือ มันมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องวัสดุเล็กน้อยครับ รู้สึกว่าจะทำให้บางขึ้นและก็สัมผัสได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม (คิดว่าไม่ได้คิดไปเอง) ส่วนเรื่องของปลอมนี่เริ่มมีเยอะมาก ๆ ต้องระวังด้วยครับ ถ้าดูไม่เป็นและอยากสะดวกแนะนำให้สั่งออนไลน์กับ BBiPhone.com เพราะเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอยู่เจ้าเดียวครับ
รูปร่างหน้าตาแพคเกจมีแตกต่างไปจากรุ่นเก่า X-Doria Defense 360 for iPhone 4/4S เล็กน้อย โดยวันนี้ที่ผมจะรีวิวจะไม่ค่อยต่างจากเดิมมาก อะไรเดิม ๆ ที่เคยพูดไว้ในตอนเก่าผมจะไม่พูดซ้ำอีกรอบให้เสียเวลานะครับ ถ้ายังไงลองย้อนกลับไปอ่านดู
ตัวเคสนั้นใสหรือภาษาวิทยาศาสตร์ก็คือ “ไม่มีสีหรือโปร่งใส” ดูกลืนไปเป็นรูปลักษณ์เดียวกันกับแพคเกจ แยกไม่ค่อยออกกันเลยครับ
พลาสติกชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ ทั้ง 2 ชิ้นปิดทั้งหน้าและหลัง ซึ่งจากคำโฆษณาก็คือ
- ป้องกันหน้าจอและยังสามารถสัมผัสหน้าจอได้อย่างเต็มรูปแบบ
- ป้องกันอุปกรณ์ของคุณทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง
- การป้องกันรอยขีดข่วนที่สมบูรณ์แบบ
- อุปกรณ์เป็นสองชิ้น ติดตั้งง่าย
หลายคนชักจะสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่า เมื่อเคสมันปิดถึงหน้าจอแล้วมันจะใช้งานได้อย่างไร? ประสิทธิภาพการใช้งานจะลดลงหรือไม่? และที่สำคัญคือมันจะทำได้จริงหรอ เพราะถ้าหากง่าย “ป่านนี้เคสแบรนด์อื่นคงทำไปนานแล้ว”
ตัวเคสของจริงใสมาก ๆ ครับ ถึงแม้ว่าผมจะถ่ายออกมาเหลืองไปหน่อยก็ตาม (ขออภัยด้วยครับ) ความบางของเคสอยู่ที่ 0.5 มิลลิเมตร (บางกว่า Air Jacket) ให้อารมณ์ที่บางถึงขีดสุด
ด้านหลังถึงแม้จะเป็นแบบโปร่งใส แต่ก็ยังมีความขุ่นอยู่บ้างเล็กน้อยต่างจากด้านหน้าที่ใสกิ๊ก ข้อดีของมันก็ช่วยลดรอยนิ้วมือและคราบไขมันบนตัวเคส
ด้านหน้าเป็นแบบใสกิ๊กแต่ก็เป็นรอยนิ้วมือและคราบไขมันได้ง่ายเช่นกัน ต้องหมั่นเช็ดบ่อย ๆ หน่อย การออกแบบทำมาได้ค่อนข้างดีครับ นอกจากจะเว้นกล้องหน้าและยังเว้นเผื่อถึงเซ็นเซอร์วัดแสงหน้าจออีกด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
จากการทดสอบใช้งานจริงเป็นเวลา 7 วัน ผลก็คือสามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างปกติอย่างน่าเหลือเชื่อ (ตอนแรกเข้าใจว่าจะกดติดบ้างไม่ติดบ้าง) แต่ขอควรระวังก็คืออย่าให้เคสงอ เพราะถ้าเคสผิดทรงเบี้ยวไปแม้แต่นิดเดียวการใช้งานจะไม่ลื่นสนิทแน่นอน เวลาใช้งานจริงสามารถติดกันรอยด้านในได้ครับแต่ไม่แนะนำ เนื่องจากมันจะลดประสิทธิภาพการใช้งาน แต่ถ้าใครไม่รู้สึกอะไรก็ไม่เป็นไรเพราะความต้องการแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
นอกจากนี้ตัวเคสยังลดประสิทธิภาพของหน้าจอ Retina Display เล็กน้อยครับ ใครจะใช้ต้องทำใจรับในจุดนี้ด้วย แต่มันนิดเดียวจริง ๆ ครับ อย่าพึ่งตีโพสตีพายไปถ้ายังไงลองดูจากคลิปวีดีโอรีวิวด้านบนสุดก่อนได้ครับ ถ้ารับได้ก็ไม่มีปัญหาอย่างที่บอกก็คือเพราะความต้องการแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ส่วนความสามารถในการสัมผัสหน้าจอแทบไม่ได้ลดลงไปมากครับ เรียกได้ว่าจากเดิม 10 อาจเหลือ 9 อะไรประมาณนี้ แทบไม่ค่อยรู้สึกอะไรหากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป คิดซะว่าแลกกับการปกป้อง iPhone ของเราดีกว่า
ด้านข้างมีสกรีนแบรนด์ของ X-Doria เอาไว้ นอกจากนี้รอยต่อเคสยังแนบกันอย่างสนิท สามารถกันละอองฝนได้เล็ก ๆ น้อย ๆ หากใครชอบถือ iPhone แบบเพียว ๆ หรือติดกันรอยรนไฟลองเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้น่าจะชอบครับ
ด้านล่างเว้นช่องไว้สำหรับลำโพง สาย Lightning และช่องเสียบหูฟัง
ด้านข้างสังเกตได้ว่าจะแนบสนิทมาก ๆ รอยต่อระหว่างเคส 2 ชิ้นนั้นแทบจะไม่เห็นเลยทีเดียว
ปุ่มล็อคหน้าจอด้านบน กล้องหน้า เสียงสนทนาทุกอย่างปกติมากครับ ทุกวันนี้บอกตามตรงว่ามีความสุขกับการใช้ iPhone 5 มาก ๆ เนื่องจากเครื่องนั้นออกแบบมาบางมาก (ใส่เคสอื่นแล้วมันหน้าไม่ค่อยฟินเท่าไหร่) น้ำหนักเครื่องก็เบาพอมาเจอเคสที่แทบไม่มีน้ำหนัก ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนไม่ใส่อะไรเลย
สุดท้ายนี้ขอให้พึงสังวรณ์ไว้ว่าเนื่องจากเคสบางมาก ถึงแม้ตัวเคสจะเหนียวแต่ถ้าหากตกเกิน 1.5 เมตรน่าจะมีการแตกหักแน่นอน เรียกได้ว่าเคสตัวตายตัวแทน iPhone และคิดกลับกันคือถ้า iPhone ตกเกิน 1.5 เมตรรอยใหญ่แน่นอน หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็จอแตก ดังนั้นใครอยากได้เคสที่ทน ๆ มีการปกป้องหนา ๆ อย่าเลือกตัวนี้ครับ เคสตัวนี้เหมาะสำหรับคนรักษาของอยู่แล้วและต้องการอะไรสวย ๆ บาง ๆ มาปกป้องเครื่องพอเป็นพิธีนั่นเอง
ส่วนเรื่องเคสจะสีกับเครื่องไหม? และเครื่องจะเป็นรอยเพราะเคสไหม? ตรงนี้ผมยืนยันครับว่าเคสออกแบบมาอย่างดี ไม่ทำให้เครื่องเป็นรอยแน่นอน เพียงแต่ว่า 2-3 เดือนอาจจะมีฝุ่นหลงไปบ้างก็แกะออกมาเช็ดหน่อยก็ดีครับ
สรุป : ด้วยความสวยงามและความบางของมัน บวกกับราคาที่เป็นมิตรไม่แพงเวอร์นัก ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก ที่ชอบก็คือสามารถปกป้องหน้าจอของเราได้ด้วย บางทีผมใช้ iPhone เสร็จแล้วโยน ๆ ใส่กระเป๋าซึ่งข้างในก็มีกุญแจบ้าง เหรียญบ้าง บางทีกันรอยก็ไม่ค่อยช่วยอะไรมากนัก ใส่ตัวนี้ดูเหมือนจะมั่นใจมากกว่าการติดกันรอยแบบไฟรน ยังไงก็ลองตัดสินใจดูครับ แต่ส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้กับคนรอบตัวแล้วตอนนี้ผมก็ยังใช้เคสตัวนี้อยู่ครับ (แต่ถ้าเปลี่ยนเมื่อไหร่แล้วจะมาบอกอีกที)
ขอขอบคุณ : BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่