Pornpimol Kulab
ซัมซุงปฏิวัติวงการจอภาพ ประกาศการก้าวสู่ยุค “AI Screen” เปิดตัว Neo QLED, MICRO LED, OLED ปี 2024 พร้อมจอภาพไลฟ์สไตล์ใหม่ล่าสุด ที่จะมามอบวิถีชีวิตใหม่ให้กับทุกคน
ซัมซุงเปิดตัว “AI Screen” Neo QLED TV 8K จอภาพรุ่นใหม่ ฟีเจอร์ AI เพียบ!
ลาสเวกัส, เนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา (7 มกราคม 2567) – ซัมซุงประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์จอภาพใหม่ล่าสุด มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม ประกอบด้วย QLED, MICRO LED, OLED และกองทัพไลฟ์สไตล์ดิสเพลย์ที่งาน CES 2024
โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ของหน้าจอ AI Screen ผ่านการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ AI รุ่นล่าสุดที่จะมากำหนดนิยามใหม่ให้กับซัมซุงสมาร์ทดิสเพลย์ ผ่านคุณภาพการแสดงผลหน้าจอและเสียงที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนฟีเจอร์มากมายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งยังมาพร้อมกับ Samsung Knox ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพการใช้งานอย่างไร้กังวล พร้อมมอบแรงบันดาลให้ผู้ใช้ทุกไลฟ์สไตล์
Neo QLED TV 8K
Neo QLED TV 8K และ 4K นำเสนอความเป็นที่สุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เสมือนจริง เทคโนโลยีเสียงระดับพรีเมียม ไปจนถึงแอปพลิเคชันต่างๆ และบริการที่หลากหลาย โดยหัวใจสำคัญ คือโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 ตัวใหม่ล่าสุด มีหน่วยประมวลผล Neural Processing Unit – NPU ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนสองเท่า มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ดังนี้
- 8K AI Upscaling Pro: โปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 เพื่อการขยายภาพผ่านจอภาพ 8K
พร้อมทั้งเพิ่มความคมชัดให้กับเนื้อหาที่มีความละเอียดต่ำ และมอบประสิทธิภาพการแสดงผลความละเอียดสูงพิเศษให้กับผู้รับชม - AI Motion Enhancer Pro: ฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาในการรับชมรายการกีฬา ใช้ชิปโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 โดยทำการตรวจจับประเภทของกีฬาอัตโนมัติและใช้รูปแบบการตรวจจับลูกบอลสำหรับการแข่งขันแต่ละแบบ
- Real Depth Enhancer Pro: ฟีเจอร์ที่ใช้ AI เพิ่มรายละเอียดให้กับฉากที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พร้อมมอบความสมจริงของภาพให้ดูเป็นสามมิติมากขึ้นผ่านการตรวจจับส่วนของฉากที่ดวงตาของมนุษย์จะโฟกัสโดยธรรมชาติและนำมาไว้ข้างหน้าสุด
- Infinity Air Design: ตัวเครื่องบางเพียง 12.9 มม. พร้อมภาพความละเอียดสูง, คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม พร้อมดีไซน์เอฟเฟกต์กระจกเงาที่ทำให้ Neo QLED TV 8K ดูเหมือนลอยอยู่ตลอดเวลา
Neo QLED TV 8K คุณภาพเสียงระดับพรีเมียม
- 2024 Q-Symphony: เชื่อมต่อลำโพงไร้สายและซาวด์บาร์หลายตัวเข้ากับทีวีหรือโปรเจคเตอร์ได้ ดูรายการโชว์ ภาพยนตร์ไปจนถึงเพลย์ลิสต์สุดโปรดได้ในเวลาเดียวกัน
- Active Voice Amplifier Pro: ฟีเจอร์บทสนทนา AI ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกแบบในการพัฒนาบทสนทนาและเสียงผ่านหน้าจอ โดยฟีเจอร์นี้สามารถแยกเสียงต่างๆ ออกจากกันได้ สะดวกเวลาป้อนข้อมูลด้วยเสียงเพื่อให้ติดตามบทสนทนาบนหน้าจอได้พร้อมๆ กับการดูสื่ออื่นๆ
Tizen OS 2024
ซอฟต์แวร์ Tizen OS 2024 บน Neo QLED 8K TV ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ ผ่านการตั้งค่าบัญชีบนสมาร์ททีวี ทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านปรับแต่งฟีเจอร์แยกแต่ละโปรไฟล์ได้ตามต้องการ
- Samsung TV Plus: มาพร้อมการอัปเดต UI ที่มีการปรับแต่งหน้าจอ Home Screen ใหม่ จัดหมวดหมู่การค้นหาคอนเทนต์ต่างๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะดูจากประวัติการเข้าชมของผู้ใช้ตาม Samsung Account ที่เชื่อมต่อ
- Designed for Samsung Gaming Hub’ Controller: ซัมซุงร่วมมือกับ Performance Designed Products (PDP) พัฒนาคอนโทรลเลอร์ชิ้นแรก โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2024 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถชาร์จใหม่ได้ และใช้งานได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง, เชื่อมต่อไร้สายบลูทูธที่มีความหน่วงต่ำ 30 ฟุต, ปุ่มโฮม Samsung Gaming Hub กดเข้า Gaming Hub, ปุ่มควบคุมระดับเสียงทีวีที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย
เชื่อมต่อครอบคลุมด้วย Samsung Ecosystem
ซัมซุงพัฒนาประสบการณ์การเชื่อมต่อภายในบ้านด้วย Samsung Daily+ ซึ่งเป็นฮับสำหรับกิจกรรมภายในบ้านที่มาพร้อมกับบริการต่างๆ และฟีเจอร์มากมาย โดยฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ มีดังต่อไปนี้
- Workout Tracker: แสดงข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ เช่น ระยะเวลาการออกกำลังกาย, อัตราการเต้นของหัวใจ ให้กับสมาชิกในบ้านทราบในเวลาเดียวกัน
- TechnoGym: วิดีโอคุณภาพสูงจากผู้ให้คำแนะนำทางด้านออกกำลังกายระดับโลกจาก TechnoGym ผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ที่คัดสรรมาพร้อมประสิทธิภาพสูงสุดได้บนทีวีของซัมซุงเท่านั้น
- F45: ผู้ใช้สามารถออกกำลังกายและเข้าร่วมการเทรนนิ่งในสตูดิโอของ F45 มากกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก
- FlexIt: ไลฟ์เซสชันแบบ One-on-one กับผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสและสุขภาพ
- Dr.Tail: ปรึกษาในรูปแบบเรียลไทม์วิดีโอกับสัตวแพทย์ในบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่เคล็ดลับในการดูแลสัตว์เลี้ยงไปจนถึงคำแนะนำขั้นสูง สามารถตอบคำถามได้ครอบคลุม และเชื่อมต่อกับสัตวแพทย์ได้แบบเรียลไทม์ทุกเวลาตามต้องการ
- Multi Control: ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานแบบ Work from Home โดยควบคุมหน้าจอทั้งหมดของตนเองได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทีวีสมาร์ทโฟน, จอมอนิเตอร์ ด้วยคีย์บอร์ดและเม้าส์แบบบลูทูธ
- สัมผัสประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายด้วยการคัดลอกและวาง การอ่านเอกสารต่างๆ และอื่นๆ ผ่านดีไวซ์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน
- Mobile Smart Connect: แอปพลิเคชันและบริการต่างๆ ควบคุมได้ง่ายๆ ด้วย SmartThings Mobile Plugin เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นรีโมท
- 360 Audio: Samsung Galaxy Buds สามารถเชื่อมต่อกับทีวีได้ เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่เปรียบเสมือนอยู่ในอวกาศให้กับภาพยนตร์ โชว์ และเกม
- Vibrary: ผู้ใช้สามารถถูกต้อนรับจากศิลปินที่ชอบได้ในทุกวันด้วย Ambient Mode และดื่มด่ำไปกับรูปภาพและเสียงเพลงจากทีวี และสมาร์ทโฟนผ่านฟีเจอร์ Casting
- คำบรรยายเสียง: ฟีเจอร์ on-device บนทีวีเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยี AI และ เทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) เพื่อมอบคำบรรยายที่ถูกฝังอยู่ในรูปแบบเสียงได้แบบเรียลไทม์
- รีโมทไร้สิ่งขัดขวาง: แอปถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้บกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน และทางกายภาพ สามารถควบคุมหน้าจอของตนได้อย่างง่ายผ่านสมาร์ทโฟน ปรับแต่งตำแหน่งปุ่มได้เอง
- Relumino Together Mode: ช่วยให้ผู้คนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์โปรดได้โดยไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย AI
เทคโนโลยีจอภาพ MICRO LED
MICRO LED ที่โปร่งใสแบบใหม่ จอที่ดูเหมือนกระจกใส พร้อมกับชิป MICRO LED ขนาดเล็กมาก ผ่านกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำซึ่งช่วยลดรอยต่อและการหักเหของแสงทำให้หน้าจอมอบภาพที่คมชัด ไร้สิ่งรบกวนต่างๆ เพื่อการใช้งานที่หลากหลายทั้งในบ้านและเพื่อธุรกิจ
ด้วยการออกแบบแบบโมดูลาร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกสรรรูปร่าง ขนาด และอัตราส่วนของจอเพื่อให้เข้ากับพื้นที่ต่างๆ ได้ MICRO LED จึงเป็นเทคโนโลยีหน้าจอที่ล้ำสมัย และด้วยการวิจัยและพัฒนาของซัมซุงที่สืบเนื่องมาจากความเชี่ยวชาญทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ได้นำไปสู่กระบวนการการผลิตที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้การทำงานของชิป LED สามารถฝังลงบนกระจกได้โดยตรง
OLED TV 2024
ต่อยอดรุ่นเก่าด้วย S95D ที่นำเสนอแคนวาสขนาดใหญ่ 77 นิ้ว มอบความละเอียดสูง อัตราเฟรมเรทที่สูง และการแสดงผลวิดีโอที่มีสีสันสดใส รุ่นนี้มีความสว่างมากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 20% อีกทั้งยังมาพร้อมกับการแสดงผลเฉดสีดำที่ชัดเจนและความแม่นยำของสีที่ได้รับการพัฒนาโดย AI ที่แสดงผลสีบริสุทธิ์มากจนถึงขั้นได้รับการรับรอง Pantone Validated™ นอกจากนี้ซัมซุงยังได้ทำการเปิดตัวทีวี S90D และ S85D ในขนาดต่างๆ ที่หลากหลาย ตั้งแต่ขนาด 42 นิ้ว ไปจนถึง 83 นิ้ว
เทคโนโลยี ‘OLED Glare Free’
ถูกออกแบบมาสำหรับหน้าจอ OLED ในปี 2024 โดยเฉพาะ และคงความถูกต้องของสีไปพร้อมกับช่วยลดการสะท้อนในขณะที่ยังคงความชัดเจนของ ภาพเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์อันแสนดื่มด่ำจากการรับชมความบันเทิงได้แม้ในตอนกลางวัน OLED TV นี้ยังได้รับการเคลือบชั้นพื้นผิวหน้าจอด้วยชั้นเคลือบชนิดพิเศษที่มีความแข็งซึ่งช่วยลดการสะท้อนแสง ซึ่งเป็นการปรับแต่งอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานหน้าจอของซัมซุงได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
TV S95D
ทำให้ผู้ชมหลงใหลไปกับความสามารถในการแสดงภาพชั้นสูงซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ที่ช่วยคงไว้ซึ่งการแสดงผลสีขาวที่ สมบูรณ์แบบ สีดำที่ลึกขึ้น รวมทั้งการแสดงผลสีต่างๆ ที่แม่นยำ โดยนอกจากจะเป็น OLED TV ที่สว่างที่สุดของซัมซุงแล้ว ยังมาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz ทำให้ผู้ใช้ที่เป็นแฟนกีฬาและเกมเมอร์ สนุกไปกับความเคลื่อนไหวที่ไร้ขอบเขตและคมชัด
ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ใหม่ Bespoke
ซัมซุงยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จอภาพภายใต้แนวคิด “Screens Everywhere, Screens for All” ด้วยผลิตภัณฑ์จอภาพใหม่ล่าสุด พร้อมชูการปรับแต่งเฉพาะบุคคลขึ้นในอีกระดับ ดังนี้
- The Frame: ทีวีกลุ่มไลฟ์สไตล์ ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์ศิลป์ให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับศิลปะต่างๆ ได้มากกว่าเดิมด้วยผลงานศิลปะกว่า 2,500 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีที่โด่งดังระดับโลกใน Art Store สามารถปรับอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอ The Frame ในปี 2024 ช่วยลดค่าไฟได้สูงสุดถึง 10%
- The Premiere 8K Projector: โปรเจคเตอร์ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โปรเจคเตอร์แบบ Ultra-short อัดแน่นไปด้วยสมาร์ทฟีเจอร์มากมาย ทั้งเครื่องเสียงภายในบ้านระดับพรีเมียมเล่นเสียงได้แม้หน้าจอจะปิดอยู่ (Picture-off) การเล่นเกมบนคลาวด์ การเปิดเสียงแบบ Always-on พร้อมไมโครโฟนระยะไกล (Far-field) และฟีเจอร์ Multi-view แบ่งจอได้มากถึง 4 จอ ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับรูปแบบการใช้งานความบันเทิงได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ The Premiere 8K Projector ยังได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี “Sound-on-Screen” ที่ได้รับการจดสิทธิ์บัตรของซัมซุง โดยผสานรวมโมดูลลำโพงชั้นนำและซอฟต์แวร์อัลกอริธึม
เพื่อมอบประสบการณ์เสียงอันแสนดื่มด่ำให้กับผู้ใช้ - The Freestyle 2nd Gen: โปรเจคเตอร์แบบพกพา รุ่นที่ 2 มาพร้อมฟีเจอร์ Smart Edge Blending ซึ่งรองรับการฉายภาพจาก The Freestyle 2 เครื่องและผสานรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างหน้าจอขนาดใหญ่ 160 นิ้วด้วยอัตราส่วนหน้าจอขนาด 21:9 ให้ผู้ใช้ได้รับชมภาพและวิดีโอต่างๆ ได้บนหน้าจอที่มีขนาดใหญ่โดยไม่ต้องปรับค่าต่างๆ ด้วยตนเอง
ซาวด์บาร์ใหม่ล่าสุด มอบประสบการณ์เสียงดื่มด่ำกว่าที่เคย
นอกจากการตั้งค่าความบันเทิงภายในบ้านแล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์ซาวด์บาร์ในปี 2024 ยังมาพร้อมกับรุ่นที่ได้รับการอัปเดตใหม่ เพื่อประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากใช้งานอัลกอริธึม AI ระดับสูง
- Music Frame: ลำโพงที่ปรับแต่งได้ สามารถใช้งานร่วมกับแอป SmartThings ได้ พร้อมทั้งยังให้เสียงโดยรอบเมื่อจับคู่การใช้งานร่วมกับทีวีและซาวด์บาร์ของซัมซุง สามารถเป็นได้ทั้งลำโพงไร้สายแบบ Standalone หรือใช้งานคู่กับทีวีหรือซาวด์บาร์ของซัมซุงผ่านฟีเจอร์ Q-Symphony
- HW-Q990D: ซาวด์บาร์มีการกำหนดค่าเสียงแบบ 11.1.4-channel ทำให้ได้เสียง Dolby Atmos สุดดื่มด่ำและรองรับการส่งผ่านเนื้อหาใน 4K 120Hz โดยเสียงต่างๆ ได้รับการวิเคราะห์และปรับแต่งจากเทคโนโลยี AI เพื่อมอบประสบการณ์การรับฟังที่แสนสมบูรณ์แบบในการรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลาย
- HW-S800D: ซาวด์บาร์ที่แสนบางเฉียบมีขนาดลึกเพียง 1.6 นิ้ว รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้ากับการใช้งานในทุกพื้นที่ พร้อมมอบเสียงที่มีคุณภาพด้วยความลึกเพียงแค่ 1 ใน 3 ของซาวด์บาร์ทั่วไป
S800D มีไดรเวอร์ถึง 10 ตัวด้วยกัน รวมถึงลำโพงด้านบนที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและช่องลำโพงตรงกลางเพื่อเสียงที่คมชัด ผสมผสานระหว่างซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) และแพสซีฟเรดิเอเตอร์ (Passive Radiator)
กลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวีของซัมซุงในปี 2024 มาพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบการผสมผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับการออกแบบที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งดีไวซ์ทุกชนิดจะมาช่วยกำหนดคำนิยามใหม่ให้กับวิถีชีวิตพร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การมีส่วนร่วมกับดีไวซ์ให้กับผู้ใช้ให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์อันแสนดื่มด่ำที่ถูกปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้มากยิ่งกว่าที่เคยเป็น
