Attapon Thaphaengphan
ฮาร์ดดิสที่คุณใช้อยู่ความจุเท่าไหร่ 256GB, 512GB, 1TB (1,000GB) หรือ 2TB เพียงพอหรือไม่? คำตอบนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานส่วนบุคคล ถ้ามองในมุมผู้ใช้งานคนเดียวอาจจะบอกว่า “พอ” แต่หากใช้งานกันหลายคนอย่างแชร์กันในครอบครับหรือสำนักงาน ฯลฯ ความจุเท่านี้ก็คง “ไม่เพียงพอ” รอบนี้มีฮาร์ดดิสความจุขนาด 10TB ใหญ่ยักษ์มารีวิวให้ชมครับจะเป็นตัวไหนไปติดตามชมกันเลย
Seagate เปิดตัวฮาร์ดดิส The Guardian Series ความจุสูงสุด 10TB
เมื่อประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาทาง Seagate ได้เปิดตัวฮาร์ดดิสการ์เดี้ยนซีรีส์ (Guardian Series) ออกมาทั้งสิ้น 3 รุ่นได้แก่
- BarraCuda สำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์ PC (Personal Computer)
- IronWolf สำหรับใช้งานกับ NAS (Network Attached Storage)
- SkyHawk สำหรับใช้กับระบบกล้องวงจรปิด (Surveillance)
ซึ่งทั้ง 3 รุ่นที่ออกมานั้นมีจุดเด่นคือความจุสูงสุดถึง 10TB เลยทีเดียวครับ โดยการออกแบบในแต่ละรุ่นนั้นจะนำมาใช้กับหน้าที่ที่ต่างกันตามความเหมาะสมครับ ชมตารางเปรียบเทียบแต่ละรุ่นได้เลยได้ด้านล่าง
ส่วนรีวิวนี้เราได้รุ่น IronWolf ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสสำหรับการใช้งานกับ NAS โดยความโดดเด่นนั้นอยู่ที่ความทนทานและเน้นการใช้งาน 24 ชั่งโมงตลอด 7 วันในสัปดาห์ เพราะ NAS นั้นต้องทำงานตลอดเวลาดังนั้นจึงต้องอาศัยความทนทานต่อการใช้งานแบบหนักมาใช้ครับ
รีวิว Seagate IronWolf ฮาร์ดดิสขนาด 10TB สำหรับ NAS
สาเหตุที่ผมนำฮาร์ดดิส NAS มาแนะนำก็เพราะก่อนหน้าเคยรีวิวเกี่ยวกับการใช้งาน NAS มาเรื่อยๆ ซึ่งมองว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับเก็บข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน ซึ่ง NAS สมัยใหม่นั้นสามารถใช้งานร่วมกับ iPhone, iPad ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากใครมีข้อมูลเยอะๆ ก็ควรศึกษาเอาไว้นะครับ
ชมคลิปเปิดตัว IronWolf กันก่อนแล้วกันเดี๋ยวมาดูของจริงกันอีกที
รายละเอียดและจุดเด่นของ Seagate IronWolf
- IronWolf แยกออกเป็น 2 รุ่นย่อยอีกได้แก่ IronWolf และ IronWolf Pro
- ทั้ง 2 มีความจุให้เลือก 1-10TB
- มาพร้อม Firmware AgileArray ใช้กับ NAS ได้เต็มประสิทธิภาพ
- รองรับกับ NAS หลากรุ่นยี่ห้อในท้องตลาด
- มี RV Sensor, Vibration Balancing และใช้พลังงานน้อย
- IronWolf เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้ขนาดเล็กเช่น ในครอบครัวและ SMB ต่างๆ รองรับ Work Load (จำนวนการโอนถ่ายข้อมูล) ประมาณ 180TB ต่อปี
- IronWolf Pro เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น บริษัทต่างๆ รองรับ Work Load (จำนวนการโอนถ่ายข้อมูล) ประมาณ 300TB ต่อปี
- ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานอย่างหนักหน่วงและสะดวกแต่การขายขนาดพื้นที่การเก็บข้อมูล
- IronWolf มาพร้อมการรับประกันอุปกรณ์ 3 ปีและความช่วยเหลือการกู้ข้อมูลจากทาง Seagate โดยตรง
- IronWolf Pro มาพร้อมการรับประกันอุปกรณ์ 5 ปีและความช่วยเหลือการกู้ข้อมูลจากทาง Seagate โดยตรง
ข้อมูลเพิ่มเติมของ IronWolf
แกะกล่อง Seagate IronWolf 10TB
ฮาร์ดดิสขนาด 3.5 นิ้วซีรีส์นี่ออกมาเพื่อ NAS โดยเฉพาะครับ การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกชมได้ตามภาพข้างล่างครับ สิ่งที่แตกต่างจากฮาร์ดดิส 3.5 นิ้วที่เราเคยเห็นนั้นส่วนใหญ่ตัวเคสจะเป็นสีดำแล้วมีแผ่นโลหะปิดที่ด้านบนอีกที แต่ IronWolf ตัวนี้ตัวเคสถ้ามองผ่านๆ จะเหมือน Unibody ครับ ดูแล้วมันเป็นก้อนเดียวกันดี
การติดตั้งเข้ากับ NAS ในตัวอย่างนี้ทดสอบกับ NAS ของ Synology รุ่น 216+ll สามารถติดตั้งฮาร์ดดิสได้ทั้งหมด 2 ลูก (2-Bay) ความจุสูงสุดแต่ละ slot นั้นอยู่ที่ 10TB ดังนั้นหากใส่ฮาร์ดดิสพร้อมกัน 2 ลูก สามารถตั้งค่าให้ได้พื้นที่ใช้งานสูงสุดถึง 20TB เลยทีเดียครับ
ทั้งนี้ต้องตรวจสอบ NAS ว่ารุ่นไหนบ้างที่รองรับฮาร์ดดิสได้ถึง 10TB ถ้าไม่งั้นซื้อไปอาจจะใช้งานได้ไม่เต็มความจุทั้งหมดนะครับ
แต่ทว่าการทดสอบครั้งนี้ทีมงานตั้งค่าระบบ NAS เป็น RAID 1 ซึ่งความจุนั้นจะได้เพียง 10TB (บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่ได้ถึง 20TB) เพื่อให้ฮาร์ดดิสแต่ละลูกนั้นเก็บข้อมูลเหมือนกันครับเป็นการให้ความสำคัญสำหรับข้อมูลบนฮาร์ดดิส เพราะหากเกิดเหตุการณ์ฮาร์ดดิสลูกใดลูกหนึ่งเสียข้อมูลจะไม่มีการสูญหายนั่นเองครับ
ติดตั้งและทดสอบประสิทธิภาพ IronWolf
หลังติดตั้งฮาร์ดดิสเข้ากับ NAS พร้อมกับตั้งค่าระบบเสร็จแล้วสามารถตรวจสอบได้ว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งลงไปนั้นสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ความจุครบหรือเปล่า
ใน Synology จะสามารถเช็คได้ครับ ในตัวอย่างนี้ก็เห็นฮาร์ดดิสครบทั้ง 2 ตัวและอยู่ในสถานะที่พร้อมใช้งานครับดูจาก Storage Manager> Volume> Disk Info
ในส่วนของเมนู HDD/SSD ก็จะเห็นฮาร์ดดิสที่ติดตั้งใน NAS พร้อมทั้งบอกบริษัทผู้ผลิตเอาไว้ด้วยครับ
เอาหละเมื่อฮาร์ดดิสที่ติดตั้งเข้าไปพร้อมใช้งานแล้ว ต่อไปเรามาทำสอบการใช้งานกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปแล้วก็คงหนีไม่พ้นการคัดลอกไฟล์ไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์และ NAS ผ่านระบบเครือข่าย LAN ซึ่งจะได้ความสูงสุดครับ
ทดสอบอ่าน-เขียนไฟล์ไปยัง NAS ด้วยแอป Blackmagic Disk Speed Test
หลักการโดย ตั้ง Share folder ของ NAS เอาไว้ แล้วใช้คอมพิวเตอร์(iMac) ทำการเชื่อมต่อไปยัง NAS ดังกล่าว จากนั้นเลือกทดสอบเขียนไฟล์ไปยัง NAS นั้นครับ ซึ่งตัวแปรระบบที่ทำงานทดสอบคือ
- NAS Synology 216+ll เชื่อมต่อ LAN เข้ากับเร้าเตอร์ Huawei HG8245 (10/100/1000M Base-T Ethernet ports )
- iMac 5K Late 2014 เชื่อมต่อ Wi-Fi กับ Apple Airport Time Capsule รองรับ AC Wi-Fi ผ่านสัญญาณ 5GHz
- Apple AirPort Time Capsule เชื่อมต่อ LAN กับเร้าเตอร์ Huawei HG8245
สรุปคือระบบเครือข่ายนั้นรองรับ Gigabit และทดสอบกับคลื่น Wi-Fi 5GHz ที่ทำให้ได้ความเร็วสูงสุด(อีกทางเลือกคือเชื่อมต่อผ่านสาย LAN ทั้งหมดเสียดายที่ผมไม่ได้ทดสอบแต่สาย LAN เข้า iMac ครับ) เอาหละมาชมผลการทดสอบที่ได้กันครับ
ผลที่ออกมาสำหรับการอ่านเขียนไฟล์ยังไป NAS ที่มี SeaGate IronWolf อยู่ที่ได้คือ
- ความเร็วในการเขียน 111.8 MB ต่อวินาที
- ความเร็วในการอ่านไฟล์ 112.6 MB ต่อวินาที
ถามว่าความเร็วระดับนี้เยอะไหม? ถือว่าเยอะใช้ได้เลยทีเดียวครับ
ลองทดสอบกับอีกแอปชื่อว่า QuickBench 4 บนเช่นกันผลที่ออกมาคือ
- ความเร็วในการเขียน 76.196 MB ต่อวินาที
- ความเร็วในการอ่านไฟล์ 83.519 MB ต่อวินาที
ตัวเลขค่อนข้างที่จะต่างกันนะครับแต่ก็พอจะเห็นความเร็วคร่าวๆ ได้แล้วว่าฮาร์ดดิสตัวนี้ใช้งานร่วมกับ NAS สามารถอ่านเขียนได้ความเร็วระดับไหน จากนั้นลองทดสอบใช้คัดลอกโฟลเดอร์ขนาด 12.53GB ที่มีทั้งภาพและเพลงจาก iMac ลงไปที่ NAS
พบว่าใช้เวลา(ในการเขียน)ทั้งสิ้น 3 นาที 56 วินาที คิดเป็น 53.09 MB ต่อวินาทีหรือประมาณ 3.185GB ต่อนาที ถ้าเทียบกับแผ่น DVD ขนาด 4GB ก็ใช้เวลาโอนถ่ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เพื่อไปเก็บยัง NAS ก็จะใช้เวลาประมาณ 1.15 นาทีซึ่งถือว่าไม่นานครับ
ในเรื่องความเร็วนั้นการอ่านเขียนถือว่าทำได้ขึ้นข้างดีและด้วยประสบการณ์ที่ผมใช้ NAS ฮาร์ดดิสของ Seagate มาปีกว่า(ผมใช้ Seagate NAS HDD) ก็ยังไม่ประสบปัญหาฮาร์ดดิสเสียแต่อย่างใดทั้งที่เปิดใช้งานอยู่ตลอดเวล าจึงทำให้มั่นใจค่อนข้างมากสำหรับการใช้ฮาร์ดดิสของ Seagate ไปใช้กับ NAS ครับ
สรุป
Seagate IronWolf เป็นฮาร์ดดิสสำหรับ NAS ที่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งผมบอกก่อนว่า “ฮาร์ดดิสตัวนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน” เพราะด้วยราคาที่ไม่ถูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น 10TB นั้นราคาอยู่ที่ 17,900 – 18,900 บาทนั้นถ้าจะซื้อมาใช้เล่นๆ ก็คงไม่เหมาะ
แต่หากใครที่ใช้สำหรับการเก็บงานสำคัญๆ อย่างเช่น ช่างภาพ ช่างถ่ายวิดีโอ ตัดต่องานวิดีโอให้กับลูกค้าหรือว่าห้างร้าน องค์กรณ์ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ พบว่าข้อมูลนั้นคือสิ่งสำคัญหากเกิดระบบล่ม ฮาร์ดิสพังและข้อมูลสูญหายนั่นคือหายนะอันใหญ่หลวงเลยแหละ
ดังนั้น IronWolf จึงเหมาะสำหรับงานเก็บข้อมูลสำคัญๆ สำรองข้อมูลขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในฮาร์ดดิสเพียงลูกเดียวซึ่งแทนที่จะแยกเก็บหลายๆ ลูก และหากต้องการขยายพื้นที่เพิ่มก็สามารถติดตั้งเพิ่มได้อีก ทำให้มีพื้นที่สำหรับการใช้งานที่มากขึ้นนั่นเองครับ
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
สนใจเป็นเจ้าของ IronWolf สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วประเทศครับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://facebook.com/seagateTH
