ยุคสมัยนี้ความปลอดภัยในโลกออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญและหนึ่งในนั้นคือบัญชีการใช้งานของ Apple หรือ Apple ID ที่ต้องมีการจัดการให้ความปลอดภัยสูงสุด เรามี เคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลบัญชี Apple ID ให้ปลอดภัย มาให้ติดตามกัน
Apple ID
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Apple ID คืออะไร Apple ID คือบัญชีที่ใช้เพื่อเข้าสู่บริการต่างๆ ของ Apple เช่น App Store, Apple Music, iCloud, iMessage, FaceTime และอื่นๆ
โดย Apple ID นั้นประกอบด้วยที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่ใช้ในการลงชื่อเข้าใช้ (Login) รวมถึงข้อมูลการติดต่อ การชำระเงิน และรายละเอียดด้านความปลอดภัยทั้งหมดที่จะใช้กับบริการต่างๆ ของ Apple
ดังนั้นเราควรตั้งค่าบัญชี Apple ID ให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยทีมงานมีเคล็ดลับดีๆจาก Apple มาแนะนำดังนี้
เคล็ดลับการดูแลบัญชี Apple ID ให้ปลอดภัย
ตั้งรหัสผ่านให้เดายาก
คำแนะนำการตั้งรหัส Apple ID ของ Apple นั้น คือ ต้องใช้อักขระ 8 ตัวขึ้นไป ประกอบไปด้วย ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กและมีตัวเลขอย่างน้อยหนึ่งตัว ซึ่งรหัสผ่านที่ใช้ควรเป็นรหัสผ่านที่เราจำได้ง่าย แต่คนอื่นเดาได้ยาก
สิ่งที่ไม่ควรนำมาใช้เป็นรหัสผ่านคือ ชื่อภาษาอังกฤษ วันเกิด หรือเบอร์โทรศัพท์ แต่ถ้าหากจะใช้ควรผสมข้อมูลกันให้เดาได้ยาก ซึ่งการตั้งรหัสผ่านที่เดาได้ยาก จะเป็นด่านแรกในการป้องกันผู้ไม่หวังดีได้
ไม่ควรใช้รหัสผ่าน Apple ID กับบัญชีออนไลน์อื่นๆ
หากใครที่ใช้รหัสผ่านเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์แบบเดียวกันต้องระวังให้ดี เพราะมีความเสี่ยงสูงเช่นกันที่ผู้ไม่หวังดีจะเข้าไปแฮกข้อมูลบัญชีอื่นๆด้วย
เนื่องในปัจจุบันเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ต่างๆ เริ่มอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันมากขึ้น เช่น Facebook กับ Instagram หรือการใช้บัญชีการใช้งานบริการอีเมลอย่าง Gmail, Outlook ในการลงทะเบียนเข้าใช้งานบริการอื่นๆได้ด้วย หากเราใช้รหัสผ่านทั้งหมดเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด ผู้ไม่หวังดีก็จะสามารถแฮกเข้าไปใช้งานบริการอื่นๆ รวมไปถึง Apple ID ได้อีกด้วย
เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเก่า
การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยครั้งเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึง Apple ID ได้ยากขึ้น เนื่องจากบางครั้งการใช้งาน Apple ID อาจมีการบันทึกรหัสผ่านไว้ที่ Web Browser (อย่างเช่นบริการบันทึกรหัสผ่านของ Google Chrome) หรือระบบอื่นๆ หากผู้ไม่หวังดีทราบข้อมูลรหัสผ่าน แต่เราได้เปลี่ยนแล้ว ก็จะช่วยป้องกันการแฮกได้อีกทางหนึ่ง
การเปลี่ยนรหัสผ่านควรใช้รูปแบบของรหัสเป็นแบบใหม่ไม่ใช่รหัสผ่านเดิมที่เคยใช้ เพื่อให้ผู้ไม่หวังดีไม่สามารถคาดเดารูปแบบของรหัสผ่านที่เราเคยใช้ได้ นอกจากรหัสผ่านแล้วก็ควรอัปเดตข้อมูลต่างๆให้ทันสมัยอย่างเช่นอีเมลที่ใช้กับ Apple ID เป็นต้น
ตั้งคำตอบที่เดาได้ยากให้กับคำถามเพื่อความปลอดภัย
คำถามเพื่อความปลอดภัย เป็นวิธีที่ Apple มักใช้ตรวจสอบในกรณีที่ Apple ID มีปัญหา เนื่องจากคำถามเพื่อความปลอดภัย มีรูปแบบคำถามที่ไม่ตายตัวและผู้ใช้สามารถเลือกคำตอบเองได้
ดังนั้นการเลือกคำถาม-คำตอบจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่บางคำถาม-คำตอบคนรอบข้างหรือผู้ไม่หวังดีอาจทราบข้อมูลบางส่วน ทางที่ดีที่สุดคือควรตั้งคำตอบที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตัวเองเราเข้าใจง่าย เช่น
- คำถาม : พ่อแม่ของคุณพบกันที่จังหวัดไหน?
- คำตอบที่ไม่ควรใช้ : เชียงใหม่
- คำตอบที่ควรใช้ : นครเวียงเชียงใหม่
เปิดระบบการตรวจสอบยืนยันตัวตน
Apple มีระบบการยืนยันตัวตนอยู่ 2 แบบ คือ การยืนยันตัวตนแบบสองส่วนประกอบ และ การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน
การยืนยันตัวตนแบบสองส่วนประกอบ คือ วิธีการรักษาความปลอดภัยแบบใหม่ของ Apple ที่ช่วยป้องกัน Apple ID ได้ดีกว่าเดิม ทำให้เจ้าของ Apple ID สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ถึงแม้ว่าผู้ไม่หวังดีจะทราบรหัสผ่านก็ตาม โดยมีข้อแม้ว่า ต้องมีอุปกรณ์อย่างน้อยหนึ่งเครื่องที่ใช้งาน iOS 9 หรือ OS X El Capitan ขึ้นไป ถึงจะเปิดใช้งานระบบนี้ได้ – วิธีการเปิดการยืนยันตัวตนแบบสองส่วนประกอบ
การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน คือ วิธีการรักษาความปลอดภัยแบบเก่า มีให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่ไม่มีอุปกรณ์ของ Apple และระบบนี้เปิดใช้สำหรับผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัพเดตอุปกรณ์ของตนได้ หรือผู้ใช้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ในการยืนยันตัวตนแบบสองส่วนประกอบ – วิธีการเปิดการตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน
ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าหากใช้อุปกรณ์ที่มี iOS 9 หรือ OS X El Capitan ขึ้นไป แนะนำให้เปิด การยืนยันตัวตนแบบสองส่วนประกอบ ไว้จะดีที่สุด
อย่าคลิกลิงก์ในอีเมลหรือข้อความที่น่าสงสัย
สำหรับอีเมลแปลกๆ หรือข้อความแปลกๆ ที่อ้างว่าส่งมาจาก Apple มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมลอ้างเกี่ยวกับการซื้อสินค้า / บริการของ Apple หรืออีเมลที่บอกว่าให้เราเปลี่ยนรหัสผ่าน Apple ID ก็มี หากไม่สังเกตุให้ดีเราอาจจะตกเป็นเหยื่อเนื่องจากกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มแปลกปลอมได้
ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบชื่ออีเมลผู้ส่งว่าส่งมาจาก Apple หรือไม่ และตรวจสอบการเข้ารหัสและ SSL ของเว็บไซต์ที่เราเปิดลิ้งก์มาว่าเป็น URL ของ Apple และมีสัญลักษณ์ความปลอดภัยหรือไม่
อย่าใช้ Apple ID ร่วมกับคนอื่น
ข้อนี้สำคัญมากไม่ว่าจะเป็นคนครอบครัวหรือใครก็ตามก็ไม่ควรใช้ Apple ID เดียวกัน เนื่องจากมีโอกาสสูงที่แต่ละคนจะใช้ข้อมูล Apple ID ไปกระทำการบางอย่างที่เป็นอันตรายหรือเจ้าของ Apple ID ไม่ทราบ ดังนั้นทางที่ดีที่สุด คือ แต่ละคนควรใช้ Apple ID เป็นของตัวเอง ไม่ควรให้ข้อมูล Apple ID ให้ผู้อื่นเอาไปใช้อย่างเช่นการเอาไปดาวน์โหลดแอป เป็นต้น
อย่าให้รหัสผ่าน คำถามเพื่อความปลอดภัย รหัสยืนยันตัวตน คีย์การกู้คืน หรือรายละเอียดด้านความปลอดภัยของบัญชีอื่นๆ กับคนอื่น และ Apple จะไม่ขอข้อมูลนี้จากผู้ใช้โดยเด็ดขาด
ที่สำคัญคือ Apple จะไม่ส่งอีเมล โทรสอบถาม หรือสอบถามรหัสผ่าน คำถามเพื่อความปลอดภัย รหัสยืนยันตัวตน คีย์การกู้คืน หรือรายละเอียดด้านความปลอดภัยของบัญชีอื่นๆ จากผู้ใช้โดยตรง ทั้งนี้หากบัญชี Apple ID หรือมีปัญหาการใช้งานแนะนำให้ติดต่อผ่านบริการของ Apple โดยตรง – ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple
ที่มา – Apple