Apple เพิ่งจะปล่อย iOS 13 Public beta ให้ผู้ลงทะเบียนได้ทดสอบ สำหรับใครที่กำลังชั่งใจว่าจะอัปเดตเป็น iOS 13 Public beta อยู่ วันนี้เราจะมาชมกันว่าควรอัปเดตหรือไม่ และปัญหาหรือข้อผิดพลาด (Bug) ที่พบบ่อยในเวอร์ชันนี้มีอะไรบ้าง
ควรอัปเดต iOS 13 Public beta หรือไม่
โดยปกติซอฟต์แวร์เวอร์ชันเบต้า (beta) ทั่วไปแล้วเป็นระบบที่พัฒนาเสร็จแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ดี ผู้พัฒนาจึงได้ปล่อยออกมาให้นักพัฒนาแอป ผู้ทดสอบ หรือผู้ใช้บางส่วนได้ทำการทดสอบตัว beta เพื่อลองใช้งานจริงและค้นหาข้อบกพร่องหรือปัญหาที่เกิดขึ้นในซอฟต์แวร์นั้น
ซึ่งการปล่อยเวอร์ชัน beta ของ iOS นั้น Apple ปล่อยเวอร์ชันนักพัฒนาให้นักพัฒนาแอปได้ทดสอบก่อน และปล่อยเวอร์ชัน Public beta ให้ผู้ทดสอบทั่วไปได้ลงทะเบียนทดสอบ ซึ่งตัวเวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาจะมีข้อผิดพลาดมากกว่าเวอร์ชัน Public beta ดังนั้นเวอร์ชันนักพัฒนาก็เหมาะสำหรับนักพัฒนาแอปเท่านั้น
ใน iOS 13 Public beta ถูกปล่อยออกมาให้กับผู้ใช้ที่ต้องการทดสอบทั่วไป และหลายเสียงก็บอกว่า iOS 13 Public beta นี้ค่อนข้างเสถียรมากกว่าที่เคยเป็นมา แต่แน่นอนว่าด้วยความที่เป็น beta ก็ยังคงมีข้อผิดพลาดหรือ Bug อยู่ มีทั้งข้อผิดพลาดเล็กน้อยจุกจิกที่ชวนให้น่ารำคาญและบางข้อผิดพลาดก็อาจจะส่งผลให้การทำงานหยุดชะงัก
ดังนั้นแนะนำว่า คนที่ต้องใช้สมาร์ตโฟนในการทำงานสำคัญในชีวิตประจำวันและมีเครื่องใช้งานหลักเพียงเครื่อง ยังไม่ควรอัปเดตเป็น iOS 13 Public beta แต่สำหรับนักพัฒนาหรือคนทั่วไปที่อยากลองใช้และมีเครื่องสำรอง รวมถึงรับผลกระทบของข้อผิดพลาดได้โดยไม่กระทบกับข้อมูลสำคัญเหมาะสมที่จะอัปเดตทดสอบใช้งานมากกว่า
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย หลังอัปเดตเป็น iOS 13 beta
ผู้ใช้ที่อัปเดตเป็น iOS 13 Public beta ส่วนใหญ่รายงานว่าซอฟต์แวร์มีความเสถียรมากกว่า Public beta ของ iOS 11 หรือ iOS 12 แต่ก็ยังคงมีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่ ตัวอย่างข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมีดังนี้
- บางครั้งแอปโน้ตยังคงแสดงเป็นโหมดมืด (Dark Mode) ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง (Light Mode)
- เมนูการตั้งค่าบางรายการค้างและปิดตัวลงบน iPhone XR
- Apple Maps ปิดตัวลงเองบางครั้ง
- ไม่สามารถอัปโหลดภาพที่ Safari
- โหลดรูปภาพขนาดใหญ่ช้าผิดปกติ
- ไม่สามารถตั้งค่าเสียงเรียกเข้าและเสียง SMS แบบกำหนดเอง
- แอปบางแอปไม่สามารถใช้งานได้ใน iOS 13 Public beta มีอาการแอปเด้งและไม่สามารถแตะเมนูในแอปได้ เช่น Line@, Fantastical 2, Weather Up เป็นต้น
- เมื่อเปิดโหมดเงียบ (Mute) และเปิดเสียงใหม่ iPhone ยังคงไม่มีเสียง ต้องรีบูทใหม่หรือรอสักพัก
- บางครั้ง AirPlay ใช้งานไม่ได้
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อผิดพลาดที่พบบ่อยใน iOS 13 Public beta ยังคงมีข้อผิดพลาดอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้ใช้ทั่วไปพบเจอ ดังนั้นก่อนที่จะอัปเดตควรคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ให้ดีก่อนว่าเราพร้อมที่จะรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่
ถ้าต้องการอัปเดตสิ่งสำคัญคืออย่าลืมสำรองข้อมูลใน iOS 12.3.1 ที่เป็นเวอร์ชันล่าสุดของ iOS ไว้ด้วย เนื่องจากถ้าเราไม่พอใจกับ iOS 13 Public beta ก็สามารถดาวน์เกรดกลับไปใช้ iOS 12.3.1 เวอร์ชันเดิมได้
ขอบคุณ idropnews