หนึ่งไฮไลท์ในงาน WWDC 2019 ที่เหล่านักพัฒนาและผู้ใช้งานเห็นชอบตรงกันมากที่สุดอย่างหนึ่งนั่นก็คือ การเปิดตัวเครื่องมือหรือว่าตัวช่วยที่ชื่อว่า Sign in with Apple เรามาดูกันว่า ประโยคสั้น ๆ นี้ จะมีความหมายกับผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลกได้อย่างไร
Sign in with Apple เครื่องมือใหม่ในการสร้างบัญชีผู้ใช้บนแอปและเว็บจาก Apple
ไฮไลท์
- Apple และความเป็นส่วนตัว
- Sign in with Apple คืออะไร
- ความปลอดภัยที่ได้รับจาก Sign in With Apple
- ข้อดีต่อผู้ใช้งาน
- นักพัฒนามีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
1. สำหรับ Apple ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ต้องมาเป็นอันดับแรก
จุดนี้จะไม่ขอพูดเยอะว่า Apple ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวมากแค่ไหน ผมได้เขียนเรื่องนี้เอาไว้แล้วเกี่ยวกับ อุปกรณ์ Apple อย่าง iPhone กับการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว (Privacy) ลองไปอ่านกันได้ ซึ่งจุดเริ่มต้นของคำว่า “ความเป็นส่วนตัว” นี่แหละ ที่วันนี้ทำให้มีฟีเจอร์ Sign in with Apple ถูกปล่อยออกมาให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกันในเร็ว ๆ นี้
2. แล้ว Sign in with Apple คืออะไร?
ทุกวันนี้เราคงคุ้นเคยกับบริการลักษณะนี้อยู่แล้วจาก Facebook Login, Google Login หรือ LINE Login ซึ่งสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้งานสำหรับเว็บไซต์หรือแอปต่าง ๆ ด้วยบัญชีผู้ใช้งานของ Social Media เหล่านั้น
Sign in with Apple ก็ทำหน้าที่แบบเดียวกันกับบริการรายอื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้เหมือนไปซะทั้งหมด
เพราะว่าบริการใหม่นี้ทาง Apple ย้ำนักย้ำหนาว่า “ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานต้องการก่อน” ข้อมูลของผู้ใช้ไม่ควรจะหลุดไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่สมควรจะได้ข้อมูลเหล่านั้น
3.ความปลอดภัยที่ได้รับจาก Sign in With Apple
แน่นอนว่า Sign in with Apple จะช่วยให้เราสร้างบัญชีสำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์และบนแอปต่าง ๆ ได้เหมือนกันบริการจากรายอื่น ๆ แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างขึ้นมาคือ
- เราเลือกได้ว่าจะแชร์ข้อมูลอะไรบ้าง
- ข้อมูลที่ถูกนำไปใช้นั้นจะมีเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
- เราเลือกได้ว่าจะใช้อีเมลจริงในการสมัครไปเลย
- หรือเลือกที่จะซ่อนอีเมลจริงของเราไว้ โดยที่ Apple จะสร้างอีเมลจำลองแทนอีเมลจริงของเรา
- แนวทางใหม่ในการสร้างบัญชีสำหรับผู้ใช้งานบนแอปที่เร็วและปลอดภัยที่สุด
ผลที่ตามมาคือเราสมัครบัญชีผู้ใช้ของเว็บไซต์หรือแอปเหล่านั้นได้ (หากเลือกซ่อนอีเมล) ส่วนอีเมลที่ส่งไปยังเว็บไซต์นั้นจะเป็นอีเมลจำลองที่ Apple สร้างขึ้น และสมมติว่าเว็บไซต์โดนแฮ็กและบัญชีข้อมูลรั่วไหลไป สิ่งที่แฮ็กเกอร์ได้ไปนั่นคืออีเมลจำลองจากทาง Apple ซึ่งไม่ใช่อีเมลจริงของเรา ถ้าไม่ได้รับการติดต่อผ่านช่องทางที่ถูกต้อง ผู้ที่ได้อีเมลนั้นไปก็ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
นี่คือการป้องกันอย่างหนึางสำหรับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่ Apple ได้พัฒนาขึ้นมาใช้ใน Sign in with Apple นี้
4. ข้อดีต่อผู้ใช้งาน
Sign in with Apple เป็นแนวทางในการสร้างบัญชีใหม่ที่ รวดเร็ว ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัวสูง และไม่ต้องเปิดแอปใหม่ (Facebook, Gmail, LINE) เพื่อยืนยันการล็อกอินให้ยุ่งยาก ต่อไปหากมีหลายแอปหรือหลายเว็บโซต์ที่ต้องใช้บริการก็ไม่จำเป็นต้องไปจำชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเหล่านั้นให้ยาก เพียงกดเข้าระบบด้วย Sing in with Apple เพียงเท่านี้ก็ใช้งานได้อย่างเรียบร้อยแล้ว
5. นักพัฒนามีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
เท่าที่ได้สอบถามนักพัฒนาในงาน WWDC 2019 ได้เห็นความเห็นว่า
ประโยชน์สำหรับผู้ใช้คือมันดีมาก ๆ ใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยนั่นเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ๆ แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกแชร์ข้อมูลส่วนตัวของเรามีทางเลือกให้ทำได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องแชร์ไปทั้งหมดทุกอย่าง
แต่หากมองในมุมของนักพัฒนาแล้วต้องบอกว่า “มันคืองานที่ต้องเพิ่มขึ้นสำหรับคนทำแอป แต่ก็เต็มใจที่จะต้องทำ เพราะมันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานจริง ๆ”
สำหรับ Sign in with Apple นั้นจะรองรับการทำงานในทุกแฟลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น
- iOS
- iPadOS
- watchOS
- tvOS
- macOS
- Web*
- Windows*
- Android *
*นักพัฒนาต้องพัฒนาจาก JavaScript API
ดังนั้น อนาคตอันใกล้นี้นอกจากเราจะ Login ด้วย Facebook, Google, Twitter และ LINE ฯลฯ กันเป็นประจำแล้ว Sign in with Apple จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานและจะแพร่หลายขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลที่ว่าทาง Apple นั้นผลักดันให้นักพัฒนาแอปต้องเพิ่มฟีเจอร์นี้เข้าไปในแอป ลองนึกดูสิว่ามีกี่ล้านคนที่ใช้ iOS, macOS, watchOS อยู่ ณ ปัจจุบัน แล้วถ้าฟีเจอร์นี้ออกมาใช้งานได้ดี ปลอดภัยและง่ายอย่างที่ Apple นำเสนอไว้ เชื่อได้เลยว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่ผู้ใช้งานหลงรักอย่างแน่นอน
รายงานโดย แอดมินต้อม iMoD
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sign in with Apple