เทคโนโลยี IoT เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ทีมงานขอนำเสนอข้อมูล Smart Parking ระบบแจ้งสถานะและจองที่จอดรถยนต์ เทคโนโลยีของ True IoT (Internet of Things) มาให้ชมเพื่อเป็นความรู้กันครับ
Internet of Things
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า IoT คืออะไร IoT ย่อมาจาก Internet of Things เป็นแนวคิดการนำอินเทอร์เน็ตไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ให้อุปกรณ์นั้นสามารถรับ-ส่งข้อมูล เพื่อให้เราสามารถควบคุมหรือนำข้อมูลจากอุปกรณ์นั้นมาใช้งานได้
โดย True IoT ได้มีเทคโนโลยีเกี่ยวกับ IoT มากมาย โดยตัวแรกที่เราจะนำมาเสนอเพื่อเป็นความรู้ คือ Smart Parking ระบบแจ้งสถานะและจองที่จอดรถยนต์
Smart Parking ระบบแจ้งสถานะและจองที่จอดรถยนต์
Smart Parking ระบบแจ้งสถานะและจองที่จอดรถยนต์ เป็นตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี NB-IoT กับระบบตรวจจับหรือเซ็นเซอร์ที่ติดอยู่กับที่ ไม่มีการเคลื่อนที่ โดยอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ใช้จะตรวจจับสถานะว่ามีรถจอดอยู่ในช่องจอดรถแต่ละช่องหรือไม่
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานะของที่จอดรถ ข้อมูลสถานะล่าสุดถูกส่งผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยี NB-IoT ไปเก็บที่เซิร์ฟเวอร์ จากนั้นผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะที่จอดรถว่าว่างหรือไม่ และทำการจองที่จอดรถผ่านทาง Mobile APP ได้
ตัวอย่างการทำงานของ NB-IoT
ตัวอย่างการใช้งานของ Smart Parking
- ผู้ใช้ต้องทำการลงทะเบียนใช้งาน APP พร้อมกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้และข้อมูลการจ่ายเงิน Online
- ผู้ใช้สามารถดูสถานะปัจจุบันของที่จอดรถ (ว่างหรือมีรถจอดอยู่) ผ่านหน้า Mobile APP ได้
- ผู้ใช้สามารถจองที่จอดรถที่ว่างอยู่ ผ่านหน้า mobile APP และจะได้รับ Passcode สำหรับการจอดรถ
- ผู้ใช้จะต้องจอดรถในที่ๆ จองไว้ในเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะถูกริบค่าจองที่จอดรถ
- เมื่อผู้ใช้จอดรถตามช่องที่จองไว้แล้ว ต้องใส่ Passcode ที่ได้รับมาตอนจองที่จอดรถ ผ่านทาง Mobile APP มิฉะนั้นระบบจะแจ้งเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องว่ามีการจอดรถโดยไม่ได้รับอนุญาติ (เพื่อป้องกันบุคคลอื่นมาจอดโดยไม่ได้จองไว้ก่อน)
- เมื่อจะออกจากที่จอดรถ ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่าน Mobile APP ได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
แน่นอนว่าการนำ Smart Parking เทคโนโลยี True IoT หากนำมาใช้จริง คงช่วยอำนวยความสะดวกในการจอดรถในสถานที่ต่างๆ ช่วยลดปัญหาการแย่งที่จอดรถ และลดเวลาการหาที่จอดรถสำหรับผู้ที่เดินทางไปยังลานจอดรถ ณ เวลาที่มีผู้ใช้งานมากได้เป็นอย่างดี