Spigen ชื่อนี้คงคุ้นหูหลายๆ คน กับเคสหลากหลายรุ่นที่ออกมาและได้รับความนิยมทั้งเรื่องการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงาม แข็งแรง ทนทาน และล่าสุดกับการครบรอบ 10 ปี iPhone ทาง Spigen ได้ผลิตเคสรุ่นพิเศษ Limited Editon สำหรับ iPhone ออกมาให้ได้ใช้กัน รอบนี้มี 2 แบบที่ iMoD ได้นำมารีวิวให้ชมกัน พร้อมแล้วไปดูกันครับ
รีวิว Spigen รุ่น Classic ONE และ Classic C1 รุ่นฉลอง 10 ปีสำหรับ iPhone X, 8, 7
สำหรับซีรีส์ 10th Anniversary Limited Edition ที่ทาง Spigen ผลิตออกมานั้นจะมีอยู่ได้กัน 2 แบบ คือ Classic ONE รุ่นที่เหมือน iPhone ตัวแรก, Class C1 แรงบันดาลใจจาก iMac G3 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผู้คนนั้นรู้จัก Apple ได้ดีมากขึ้นจนมาถึงทุกวันนี้
iMoD ได้เคสทั้ง 2 แบบของซีรีส์นี้มาทดสอบเรียบร้อย เราไปชมของจริงกันครับว่าจะสวยงามเพียงใด
เริ่มต้นที่คุณสมบัติของเคสกันก่อนครับ
- รุ่น Classic ONE การออกแบบนั้นรูปลักษณ์เหมือน iPhone รุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2007
- รุ่น Classic C1 การออกแบบนั้นได้แรงบันดาลใจจาก iMac G3 ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2003
- เป็นเคสกันกระแทก 2 ชั้น
- ชั้นแรกด้านนอกสุดใช้ Poly Carbonate (PC) แข็ง
- ชั้นด้านในผลิตจาก TPU รองรับการกระแทกที่มาพร้อมเทคโนโลยี Air Cushion
- PC ของ Classic ONE ทำสี Silver ให้เหมือนกันตัวเคสอะลูมีเนียมของ iPhone 1st Gen ส่วนด้านในสีดำนั้นเป็น TPU รองรับการกระแทก
- PC ของ Class C1 แยกออกได้เป็น 2 ส่วนคือ บนและล่าง ทำสีแตกต่างกันออกไป ด้านบนที่เป็นสีนั้นจะมีลักษณธโปร่งแสงทำให้มองเห็น TPU ด้านในที่ทำลวดลายเหมือนแผงวงจรของ iPhone
- เคสได้รับมาตรฐานการกันกระแทก Military Grade (MIL-STD 810G-516.6) จากสหรัฐอเมริกา
- สามารถใช้งานกับแท่นชาร์จไร้สาย และฟิล์มกันรอยทุกรุ่นของ Spigen ได้
แกะกล่อง Spigen Classic ONE และ Classic C1
เคสซีรีส์นี้มีทั้ง iPhone 7,8, 7 Plus, 8 Plus และ X แต่รุ่นที่รีวิวให้ชมนี้มีแค่ iPhone X เท่านั้น ในเรื่องของสีก็มีให้เลือกหลากหลายในรุ่น C1 ผู้ใช้สามารถเลือกสีตามที่ชอบได้เลยนะครับ
เริ่มแกะกล่องกันเลย
อุปกรณ์ที่มีในกล่องรุ่น Classic ONE ได้แก่
- เคส 1 ชิ้น ถอดแยกได้
- สติกเกอร์สำหรับติดโลโก้ Apple ป้องกันไม่ให้เป็นรอย
อุปกรณ์ในรุ่น Classic C1 ได้แก่
- เคส 1 ชิ้น สามารถถอดแยกได้
หน้าตาของเคสทั้ง 2 แบบ การออกแบบรูปลักษณ์นั้นจะมีความโค้งมนดูรวมๆ แล้วทรงจะเหมือน iPhone รุ่นแรก ส่วน ตัวเคสเมื่อประกอบเข้ากับตัวเครื่องจะค่อนข้างหนา น้ำหนักของเคสจะอยู่ที่ 45-47 กรัม (สำหรับรุ่น iPhone X) หนักพอๆ กับ UAG Monarch ซึ่งชั่งน้ำหนักแล้วจะอยู่ประมาณ 44 กรัม
เคส TPU ภายในของแต่ละรุ่นจะต่างกันครับ จะมีการยิงข้อความฝังเอาไว้ ซึ่งข้อความนั้นก็จะบอกถึงรุ่นที่ผลิตว่าจัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษฉลอง 10 ปี iPhone ครับ รายละเอียดตามภาพด้านล่างเลย
ติดตั้งเข้ากับตัวเครื่องดูว่าจะหล่อแค่ไหน
การใช้งาน
- เคสทั้ง 2 ขอบเคสยกสูงขึ้นทำให้หน้าจอไม่ขูดกับพื้นโต๊ะเมื่อวางคว่ำ
- Classic ONE เจาะด้านหลังเคสเว้นไว้สำหรับการโชว์ Apple โลโก้
- Classic C1 เจาะด้านหลังเคสที่จุด Apple โลโก้เช่นกันแต่ว่าจะมีเคส PC สีโปร่งแสงปิดทับอีก 1 ชั้น
- เคสยกสูงว่าเลนส์กล้องจึงไม่ทำให้กล้องเป็นรอยเมื่อวางหงาย
- การเว้นช่องเจาะไว้ที่จุด Mute Switch, พอร์ตชาร์จ, ลำโพงและไมค์ด้านล่าง
- ปุ่มกดเพิ่มและลดเสียงพร้อมกับปุ่มด้านข้างจะมีปุ่มของเคสครอบเอาไว้ ต้องออกแรงกดกันสักหน่อยสำหรับรุ่น Classic C1 ซึ่งจะแข็วกว่ารุ่น Classic ONE เล็กน้อย
- ขอบของเคสจะจิกขอบจอเล็กน้อยต้องระวังฟิล์มกระจกแบบเต็มจอให้ดี แนะนำว่าถ้าอยากจะติดกระจกแบบเต็มจอควรจะใส่เคสนี้หลังจากติดกระจกแล้วสัก 3-4 วันเพื่อให้กระจกดูดกับหน้าจอ iPhone เสียก่อน สำหรับกระจกกันรอยแบบไม่เต็มจอนั้นใช้งานได้อย่างไร้ปัญหา
- การชาร์จผ่านสายและไร้สายบนแท่นชาร์จ Qi ก็ใช้งานได้อย่างปกติ
- เคสนี้จะมีความลื่นในตัวด้วยความที่ผลิตจาก PC อาจจะทำให้หลุดมือได้แนะนำว่าให้จับโดยบริเวณปุ่มเพิ่มลดเสียงและจุดปุ่ม Mute Switch ซึ่งจะเป็นจุดที่กระชับที่สุด
ภาพรวมแล้วจุดเด่นของเคสรุ่นนี้อยู่ที่การออกแบบที่ไม่เหมือนใครในแง่ของการนำวัสดุ 2 แบบมาผสมกับอย่างลงตัวและทำให้เรารู้สึกคิดถึงวันวานในอดีตเมื่อครั้ง iPhone รุ่นแรกได้เกิดขึ้นมาบนโลก ใจจริงแล้วก็อยากให้ทาง Apple นำ Design เหล่านั้นกลับมาอีกครั้งแต่ก็คงเป็นไปได้อยาก อย่างน้อยมีเคสรุ่นนี้ก็ช่วยให้สาวก iPhone นั้นได้ซึมซับบรรยากาศเก่าๆ จากชุดเคสแต่งนี้ที่ดู Classic แต่เต็มไปด้วยพลังจาก iPhone X ที่เร็วแรงล่าสุดในปี 2017
พูดถึงฝั่งรุ่น Classic C1 บ้าง แม้ว่าผมเองไม่ได้ใช้ iMac รุ่นนั้นด้วยความที่ยังเด็กและแน่นอนว่าอาจยังไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากกับ iMac รุ่นนั้น แต่ภาพจำของ iMac เครื่องนี้ของผมอยู่ที่ภาพยนต์เรื่อง “เพื่อนสนิท” ที่ ไข่ย้อย พระเอกของเรื่องกำลังพยายามวาดภาพด้วยแอปบน iMac แต่ว่าเขาทำได้ไม่ดีเท่า ดากานดา ที่เก่งกว่าในแง่ของการวาดบนคอมพิวเตอร์ (แต่พระเอกของเราวาดด้วยพู่กันเก่งนะ :D) นั่นแหละครับภาพจำ iMac รุ่นนั้น ที่ผมใช้เคสนี้เมื่อไหร่ก็จะนึกถึงช่วงเวลานั้นไปโดยอัตโนมัติ
Spigen Classic ONE และ C1 อาจจะไม่ใช่เคสกันกระแทกที่ดีที่สุด แต่เป็นเคสที่ให้ความสุขทางใจมากที่สุดอีก 1 รุ่น
เป็นเคสอีกรุ่นที่น่าเก็บสะสมเอาไว้เพราะนานทีจะทำออกมา
ชมคลิปรีวิว
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
Classic ONE จะมีให้เลือก 1 สีตามที่รีวิวไว้ ส่วน Classic C1 นั้นมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ Blueberry(สีฟ้า), Bondi Blue(สีฟ้าน้ำทะเล), Grape(สีม่วง), Graphite (สีเทาดำ), Ruby (สีแดง), Sage(สีเขียว), Snow (สีขาวโปร่งแสง)
- Spigen Classic ONE สำหรับ iPhone 7, 8, X ราคา 1,190 บาท
- Spigen Classic C1 สำหรับ iPhone 7 Plus, 8 Plus, X ราคา 1,290 บาท
สั่งซื้อได้ที่ www.425degree.com ใส่โค้ด 425imod2018 เพื่อรับส่วนลด 10% (สำหรับการสั่งซื้อผ่านหน้าเว็บ) ด้วยนะครับ สิทธิพิเศษสำหรับแฟน iMoD เท่านั้น
สนับสนุนการรีวิวโดย
เลือกชมสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ 425Degree และติดตามอัปเดตโปรโมชันเคสใหม่ผ่าน Facebook ที่ 425Degree และ LINE @425Degree (ต้องมี @ ด้วยครับ)