พักจากข่าวมาดูเคสใหม่ๆ กันบ้างห่างหายไปนานกับการแนะนำเคสจาก Spigen รอบนี้ Spigen ส่งรุ่น Rugged Capsule ซึ่งเป็นเคสที่ผลิตจาก TPU คุณภาพเยี่ยมที่มีความยืดหยุ่นสูงดูภายนอกเหมือนพลาสติกแข็งแต่พอจับเท่านั้นแหละรู้เลยว่ามันเป็นอย่างไร วันนี้ขอพาทุกท่านมารู้จักกับ Spigen Rugged Capsule
Spigen Rugged Capsule เคสกันกระแทกที่ได้รับการรับรองระดับความทนทานมาตรฐานระดับทางการทหารซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเคสตัวนี้มีความแข็งแรงและสามารถป้องกันการกระแทกให้กับ iPhone 6, 6s ของคุณได้จริง
แกะกล่อง Spigen Rugged Capsule
รุ่นที่ทำการทดสอบนั้นสามารถใช้งานได้กับ iPhone 6s, 6 ราคาขายอยู่ที่ 590 บาท ส่วนสำหรับ iPhone 6s Plus, 6 Plus ก็มีเช่นกันราคาอยู่ที่ 690 บาท ตัวกล่องของ Spigen Rugged Capsule จากภาพด้านล่าง
หลังจากแกะกล่องออกมาจะพบเคส Spigen Rugged Capsule จำนวน 1 ชิ้นและกระดาษซีเรียลนัมเบอร์ของเคสเพื่อระบุว่าเคสนี้เป็นของแท้ที่ผลิตจาก Spigen แน่นอน
ข้อมูลทางเทคนิคของ Spigen Rugged Capsule
- ผลิตจาก TPU (Thermoplastic Polyurethane) คุณภาพดีให้ความยืดหยุ่นและทนทาน
- ดีไซน์เฉี่ยวกับสไตล์ใหม่ ตกแต่งด้วยผิวคาร์บอนไฟเบอร์ที่ด้านบนและล่าง
- กระจายแรงกระแทกอย่างดีด้วย TPU เนื้อยืดหยุ่นเกรดพรีเมี่ยม และลวดลายใยแมงมุมด้านใน
- ปุ่มกดน่าสัมผัส และให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่กดใช้
- เทคโนโลยี Air Cushion ที่มุมเคส เพื่อการดูดซับแรงกระแทก
- ขอบยกสูง 1.2 มม. จากหน้าจอ เพื่อป้องการการขูดขีด
- ทนทานต่อแรงบิดและขอบไม่ย้วยเพื่อ(ทนสอบโดยการดึง การบิดและบีบ ตัวเคสไม่แตกเสียหายและจะกลับมาอยู่ในรูปเดิม
จุดเด่นของ Spigen Rugged Capsule คือ เคสสีดำที่ดูภายนอกน่าจะเป็นพลาสติกแข็ง แต่เอาจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย Spigen Rugged Capsule ผลิตจาก TPU ที่มีความแข็งเกรดพรีเมี่ยมและมีความยืดหยุดสูงมาก นอกจากนี้ยังแต่งผิวด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ให้ความรู้สึกที่ดุดันและมีความหรูหราไปในตัว
ตัวเคสนั้นจะค่อนข้างบางใส่แล้วไม่รู้สึกหนาแบบเคสกันกระแทกทั่วไปหากติดตั้งเข้า iPhone 6s, 6 แล้วจะหนาขึ้นเพียง 1.8 มม. เท่านั้น
จุดแรกที่พบเรื่องปุ่มกดที่ปุ่มเพิ่ม ลด เสียงนั้นสามารถกดได้ง่าย กดเบาๆ ก็สามารถใช้งานได้แล้วไม่ต้องออกแรงมากปุ่มเปิดเครื่องก็เช่นกัน
ส่วนปุ่มปิดเสียงนั้นใช้งานยากนิดหน่อย ตัวอย่างเช่น หากจับ iPhone ด้วยมือซ้ายเรามักจะใช้หัวแม่มือในการเปิดปิดสวิตซ์ดังกล่าว หากใส่เคส Spigen Rugged Capsule แล้วความสามารถในการปิด เปิดนั้นจะลดลงประมาณ 10-20% ดังนั้นบางครั้งอาจจะต้องใช้มือขวาในการช่วยปิดแทน
พอร์ตด้านล่างของตัวเครื่องเปิดให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นได้แม้ว่าหัวชาร์จนั้นจะใหญ่กว่าปกติ ทดสอบแล้วกับแท่นชาร์จจาก Apple และสายชาร์จ Lap.C สามารถใช้งานกับเคสนี้ได้สบายๆ
สรุปจุดเด่นที่มองเห็นจาก Spigen Rugged Capsule คือ ความบางของเคสกันกระแทกแต่สามารถป้องกันจากแรงกระแทกที่อาจจะเกิดกับ iPhone 6s, 6 ได้ เคสทนรอยขีดข่วนได้ดี ขอบของเคสนั้นคลุมส่วนที่โค้งของจอ iPhone 6s, 6 ได้ หากใช้กระกันรอยแบบเต็มจอ(โดยไม่ใส่ส่วนที่คลุมขอบ) ก็สามารถใช้งานร่วมกับเคสนี้ได้
จุดนึงที่น่าสนใจคือเคสตัวนี้จะไม่จับฝุ่นและทำความสะอาดง่าย เดิมทีหากใครใช้เคสยางหรือซิลิโคนมักจะเจอปัญหาเคสดูดฝุ่นทำให้ต้องเช็ดกันอยู่บ่อยๆ Spigen Rugged Capsule ตัวนี้ช่วยได้เยอะครับ น้ำหนักที่เบา พกพาง่ายและใส่กระเป๋ากางเกงก็ไม่ทำให้แน่นจนเกินไปและยังจับกระชับมือป้องกันการลื่นหลุดได้ดี
ซื้อ Spigen Rugged Capsule
มีจำหน่ายที่ Casecrazy.com ราคาดังนี้
- Spigen Rugged Capsule สำหรับ iPhone 6s, 6 ราคา 590 บาท
- Spigen Rugged Capsule สำหรับ iPhone 6s Plus, 6 Plus ราคา 690 บาท
ขอบคุณ Casecrazy สำหรับอุปกรณ์ในการทดสอบครั้งนี้