ชมพรีวิวสิ่งที่น่าสนใจของ TBox Plus กล่อง Android (Ai Box) ที่จะเปลี่ยนหน้าจอธรรมดาบนรถให้กลายเป็นจอ Android สามารถต่อเน็ต โหลดแอปได้ด้วย
Ai Box
รถยนต์สมัยใหม่ส่วนใหญ่แล้วจะใส่จอมาให้บนรถพร้อมการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, Android Auto ซึ่งผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนใช้ฟีเจอร์เช่นฟังเพลง นำทางได้เลย แต่สำหรับการจะดูวิดีโอนั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ ดังนั้นกล่อง Ai Box จึงถูกพัฒนามาเพื่อแก้ปัญหานี้
TBox Plus
ผู้เขียนได้ใช้งาน Ai Box มาหลายรุ่น แต่ก็มาสะดุดกับ TBox Plus ตัวนี้ที่ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ใช้งานร่วมกับจอรถ Haval H6 ของผู้เขียนได้ราบรื่น ไม่มีปัญหา
ก่อนอื่นมาดูหน้าตาตัวกล่องก่อน
อุปกรณ์ในกล่องก็จะประกอบไปด้วย กล่อง CPC200-Tbox Plus, สาย USB-C to USB-C หรือ USB-A to USB-C และคู่มือการใช้งาน
สเปคตัวกล่องมีดังนี้
- ชื่อโมเดล : CPC200-Tbox Plus
- CPU : Qualcomm’s QCM6125, Quad-core ARM Cortex™-A73,2.0GHz +Quad-core ARM Cortex™-A53,1.8GHz
- GPU : Adreno 610
- OS : Android 11
- RAM : 8GB LPDDR4
- ROM : 128GB UFS
- Wi-Fi : 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G+5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 79.8×79.8×14.7 มม.
- น้ำหนัก : 64 กรัม
พอร์ตของ TBox Plus ประกอบไปด้วย ช่องใส่ Nano-SIM, พอร์ต USB-C, ช่องใส่ Micro SD Card
การเชื่อมต่อกับรถนั้น สามารถนำสาย USB-C เชื่อมต่อที่ TBox Plus แล้วเสียบเข้าช่อง Media ซึ่งอาจเป็น USB-A, USB-C ของตัวรถได้เลย โดยรถที่เชื่อมต่อนั้น จะต้องเป็นรถท่ีรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, Android Auto ผ่านสายด้วย
หลังเชื่อมต่อเสร็จ ระบบก็จะปรับเทียบขนาดหน้าจออัตโนมัติ เพื่อให้การแสดงผลพอดีกับหน้าจอรถแต่ละแบบ
จุดเด่น และประสบการณ์ใช้งาน
จุดเด่นอันแรกคือหน้าจอใช้งาน (User Interface) ของ TBox Plus สวยงามมาก โดยหน้าแรกนั้นจะเป็น Dashboard ที่แสดงข้อมูลสำคัญ ได้แก่ วันที่ ความเร็วรถ แผนที่ ทางลัดแอป
หน้าจอชัด กราฟิกไหลลื่น โดยหากผู้ใช้เปิดวิดีโอความละเอียดสูงใน YouTube, วิดีโอจะมีความคมชัดค่อนข้างมากหากอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่ออยู่มีความเร็วที่เหมาะสม อาการกระตุกมีให้เห็นบ้าง แต่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับกล่องรุ่นอื่น ๆ ส่วนเสียงกับภาพนั้นดีเลย์อยู่ แต่น้อยมาก ๆ
มีการตั้งค่าที่หลากหลาย โดยตัวกล่องจะมีเมนูตั้งค่าให้ผู้ใช้เข้าไปปรับแต่งได้หลายอย่าง เช่น รูปแบบ Layout, การเปิดแอปอัตโนมัติตอนเปิดเครื่องครั้งแรก เป็นต้น
เมนูลัดการกลับหน้าจอหลักก็ใช้งานง่าย โดยหากสัมผัสที่พื้นที่ใด ๆ ก็ได้ของหน้าจอ ก็จะมีปุ่มลัดแสดงออกมา กดใช้งานได้เลย
การแบ่งหน้าจอของ TBox Plus นั้นดูแล้วใช้งานได้ดี ลื่นไหลกว่ากล่องรุ่นอื่น โดยทั้งสองหน้าจอสามารถใช้งานได้พร้อมกัน ไม่ค่อยมีอาการกระตุก
อีกหนึ่งข้อที่สำคัญและถือว่าเป็นจุดที่ผู้เขียนชื่นชอบมาก คือ การทำงานร่วมกับปุ่ม Multi-function ของตัวรถได้ดี เพราะก่อนหน้านี้ผู้เขียนเจอปัญหาหากกดปุ่มเลื่อนเพลงบนพวงมาลัย, ระบบจะสับสน ไปเลื่อนเพลงที่ฟังก์ชันของตัวรถแทน แต่ใน TBox Plus นั้นแยกการทำงานได้ดี หากเราอยู่บนจอของ TBox Plus อยู่ ระบบก็จะควบคุมคำสั่งอยู่เฉพาะที่เราใช้งานเท่านั้น
สำหรับการทำงานอื่น ๆ นั้นก็เทียบเท่ากับกล่องอื่น เช่น ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เพื่อโหลดแอปจาก Play Store มาใช้งานได้, ใส่ซิมเน็ตเพื่อให้ตัวกล่องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เป็นต้น
กล่อง TBox Plus ในมุมมองของผู้เขียนนั้นถือว่าใช้งานได้ดีเลย แต่ถ้าจะให้แนะนำ ควรซื้อรุ่นสเปค RAM 8GB จะดีที่สุด เพราะหนึ่งในปัญหาของผู้เขียนที่เจอในกล่อง Ai Box มาเยอะ คือ RAM ไม่พอ เปิดใช้งานแอป อยู่ดี ๆ ก็เด้งออก เพราะ RAM ไม่พอนั่นเอง
กล่อง TBox Plus เปิดขายตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ สามารถไปค้นหาดูได้ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 6,000 กว่าบาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสเปคที่เลือก และแล้วแต่หน้าร้านไป
ลิงก์สั่งซื้อและข้อมูลเพิ่มเติม
- AliExpress : https://www.aliexpress.us/item/1005004941405628.html
- Lazada : https://www.lazada.co.th/products/carlinkit-android-110-ai-box-plus-4-64gb-qualcomm-sqcm61258-core-tbox-plus-apple-carplay-i4117482381-s16740578943.html