Pornpimol Kulab
ใกล้ถึงงาน Event “Far Out” วันที่ 7 ก.ย. แล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีข่าวลือเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ ออกมา ทีมงานจึงหยิบเอาข่าวลือเกี่ยวกับสีตัวเรือน Apple Watch รุ่นใหม่ พร้อมย้อนชมสีตัวเรือนตั้งแต่รุ่นแรก มาดูกันว่าจะมีสีอะไรบ้าง และจะมีสีใหม่เปิดตัวหรือไม่
ย้อนชมสีตัวเรือน Apple Watch ตั้งแต่รุ่นแรก มาดูกันว่ามีสีอะไรบ้าง
1. Apple Watch 1st Generation
เปิดตัวในงาน Apple September Event 2014 งานเดียวกันกับการเปิดตัว iPhone 6, iPhone 6 Plus โดยใช้ชิปประมวลผล Apple S1, Single-Core 520MHz และมีรุ่น Edition ที่ใช้วัสดุพรีเมี่ยมให้เลือกด้วย
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 2 สี คือ Polished, Space Black
- รุ่น Sport มี 4 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, โรสโกลด์, ทอง
- รุ่น Hermès ตัวเรือนแสตนเลส สตีล สี Polished
- รุ่น Edition ตัวเรือน 18K Gold มี 2 สี คือ สีโรส, เหลือง
2. Apple Watch Series 1
เปิดตัวพร้อมกับ Apple Watch Series 2 ในปี 2016 โดยใช้ชิปประมวลผล Apple S1P, Dual-Core 780 MHz ซึ่งเป็นการปรับปรุงภายในจากรุ่น Apple Watch 1st Generetion
- รุ่น อลูมิเนียม มี 4 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, โรสโกลด์, ทอง
3. Apple Watch Series 2
เปิดตัวในปี 2016 ด้วยการใช้ชิปประมวลผล Apple S2, Dual-Core 780 MHz โดยใช้ดีไซน์เดิมเหมือนกับรุ่นแรก ส่วนภายในมีการเพิ่มระบบ GPS และระบบการกันน้ำ
- รุ่น อลูมิเนียม มี 4 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, โรสโกลด์, ทอง
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 2 สี คือ Polished, Space Black
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีเงิน, สีสเปซเกรย์
- รุ่น Hermès ตัวเรือนแสตนเลส สตีล สี Polished
- รุ่น Edition ตัวเรือนเซรามิค สีขาว
4. Apple Watch Series 3
เปิดตัวในปี 2017 ด้วยการใช้ชิปประมวลผล Apple S3, Dual-Core, W2 Wireless ใช้ดีไซน์เดิมเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า และเป็นรุ่นแรกที่มีการเชื่อมต่อผ่าน Cellular ในตัวโดยการใช้ eSIM
- รุ่น อลูมิเนียม มี 3 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, ทอง
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 2 สี คือ Polished, Space Black
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีเงิน, สีสเปซเกรย์
- รุ่น Hermès ตัวเรือนแสตนเลส สตีล สี Polished
- รุ่น Edition ตัวเรือนเซรามิค มี 2 สี คือ สีขาว, สีเทา
5. Apple Watch Series 4
เปิดตัวในปี 2018 ด้วยการใช้ชิปประมวลผล Apple S4, 64-bit Dual-Core, W3 Wireless, มี ECG สำหรับการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และ Fall Detection สำหรับการตรวจสอบการล้ม, และยังเป็นครั้งแรกที่มีการปรับพื้นที่แสดงผลหน้าจอจาก 38มม. เป็น 40มม. และ 42มม. เป็น 44 มม. ทำให้หน้าจอมีพื้นที่การแสดงผลมากขึ้น โดยที่ตัวเรือนมีขนาดเท่าเดิม
- รุ่น อลูมิเนียม มี 3 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, ทอง
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 3 สี คือ Polished, Space Black, ทอง
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีเงิน, สีสเปซเกรย์
- รุ่น Hermès ตัวเรือนแสตนเลส สตีล สี Polished
6. Apple Watch Series 5
เปิดตัวในปี 2019 ด้วยการใช้ชิปประมวลผล Apple S5, Dual-core 64 บิต, W3 Wireless ใช้ดีไซน์เดิมเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า มาพร้อมกับความสามารถที่มากขึ้น มีเข็มทิศในตัว และเพิ่มตัวเรือนไทเทเนียม, เซรามิกเข้ามาให้เลือก
- รุ่น อลูมิเนียม มี 3 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, ทอง
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 3 สี คือ Polished, Space Black, ทอง
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีเงิน, สีสเปซเกรย์
- รุ่น Hermès ตัวเรือนไทเทเนียม มี 2 สี คือ สี Dark, Light
- รุ่น Edition ตัวเรือนเซรามิค สีขาว
7. Apple Watch SE
เปิดตัวเดือน ก.ย. 2020 มาพร้อมหน้าจอ Retina (แบบเดียวกับ Series 4) แต่ใหญ่กว่า Seires 3 ถึง 30% ใช้ชิป S5 แบบ SiP, Dual-core รองรับฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง การตรวจจับการล้ม, ฟีเจอร์ด้านฟิตเนสสุดล้ำ, SOS, การตั้งค่าครอบครัว แต่ไม่มีฟีเจอร์ ECG
- รุ่น อลูมิเนียม มี 3 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, ทอง
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีเงิน, สีสเปซเกรย์
8. Apple Watch Series 6
เปิดตัวเดือน ก.ย. 2020 ใช้ชิป Apple S6 SiP, โปรเซสเซอร์ Dual-core ใหม่ที่ใช้ A13 Bionic ใน iPhone 11 ด้วย เพิ่มประสิทธิภาพด้านการช่วยประหยัดแบตเตอรี่รวมถึงการใช้งานที่เร็วขึ้น และมีฟีเจอร์ Always on Display ที่ทำให้หน้าจอเปิดตลอดเวลาด้วย
- รุ่น อลูมิเนียม มี 5 สี คือ สีเงิน, สเปซเกรย์, ทอง, สีน้ำเงิน, สีแดง (PRODUCT)RED
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 3 สี คือ สีเงิน, กราไฟต์, ทอง
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีเงิน, สีสเปซเกรย์
- รุ่น Hermès ตัวเรือนสแตนเลส สตีล มี 2 สี คือ สีเงิน, Space Black
- รุ่น Edition ตัวเรือนไทเทเนียม มี 2 สี คือ สี Natural, Space Black
9. Apple Watch Series 7
เปิดตัวเดือน ก.ย. 2021 ใช้ชิปรุ่น S7 พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Dual‑core 64 บิต, W3 ชิประบบไร้สายของ Apple และมีชิป U1(อัลตร้าไวด์แบนด์) รุ่นนี้จะเน้นไปที่เรื่องดีไซน์ และความแข็งแกร่งของหน้าจอ โดยใช้หน้าจอ LTPO OLED Retina ที่ทำให้มีพื้นที่การแสดงผลเพิ่มมากขึ้น รองรับการชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จได้เร็วขึ้นถึง 33%
- รุ่น อลูมิเนียม มี 5 สี คือ สีมิดไนท์, สตาร์ไลท์, เขียว, สีน้ำเงิน, สีแดง (PRODUCT)RED
- รุ่น สแตนเลสสตีล มี 3 สี คือ สีเงิน, กราไฟต์, ทอง
- รุ่น Nike+ ตัวเรือนอลูมิเนียม มี 2 สี คือ สีมิดไนท์, สตาร์ไลท์
- รุ่น Hermès ตัวเรือนสแตนเลส สตีล มี 2 สี คือ สีเงิน, Space Black
- รุ่น Edition ตัวเรือนไทเทเนียม มี 2 สี คือ Natural, Space Black
คาดการณ์สีใน Apple Watch Series 8 ก่อนเปิดตัว 7 ก.ย. นี้!
ข่าวลือล่าสุดเผยว่า ในงาน Apple Event “Far Out” วันที่ 7 ก.ย. นี้ อาจมี Apple Watch เปิดตัวออกมาทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Apple Watch Series 8 ที่คาดว่าจะยังคงใช้ดีไซน์เดิม, Apple Watch Pro ที่ปรับดีไซน์เครื่องใหม่ จอเรียบชิดขอบ วัสดุทนทานมากขึ้น และอาจได้เห็น Apple Watch SE 2 เปิดตัวด้วย อ่านข่าวลือเพิ่มเติม
โดย จะมีเพียง 4 สีให้เลือก ได้แก่ สีสตาร์ไลท์, สีมิดไนท์, สีเงิน และสีแดง (PRODUCT)RED ที่คาดว่าจะใช้เฉดสีแดงแบบใหม่ และอาจไม่มีสีน้ำเงินและสีเขียวเหมือน Series 7 เพราะข่าวลือล่าสุดเผยว่า Apple จะลดตัวเลือกสีลงใน Apple Watch Series 8 แต่ถ้าหากว่ามีรุ่น Pro เปิดตัวในงานนี้ด้วยก็อาจจะตัวเลือกสีเพิ่มขึ้นในรุ่น Pro แทนก็เป็นได้
Apple ประกาศจัดงาน Event “Far out.” วันที่ 7 ก.ย. นี้ คาดเปิดตัว iPhone 14, Apple Watch Series 8, และอาจมี iPad รุ่นที่ 10 เปิดตัวด้วย ส่วนจะเป็นอย่างไรก็รอดูกัน!
