กลุ่ม True ผู้นำด้านชีวิตดิจิทัลได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงงาน True Digital Park (ทรู ดิจิทัล พาร์ค) ควบรวมพื้นที่กว่า 43 ไร่ สุขุมวิท 101 ติด BTS ปุณณวิถี ให้เป็น Smart City (สมาร์ตซิตี้) แห่งใหม่ ศูนย์กลางด้านนวั
แถลงข่าวเปิดและอัปเดตความคืบหน้าโครงการ True Digital Park
ไฮไลท์
- True Digital Park แหล่งศูนย์กลางดิจิทัลพื้นที่สำหรับ Startup ทั้งไทยและต่างชาติทั้งรายเล็กและใหญ่สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้
- IoT Integrated ใน True Digital Park นั้นได้นำระบบ IoT ต่างๆ เข้ามาติดตั้งใช้งานให้สมกับแนวคิดสมาร์ตซิตี้
- พื้นที่เดียวที่สร้างขึ้นเพื่อการสร้างสรรค์นวั
ตกรรมดิจิทัล (Innovation Area), พื้นที่ไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Area) และมีที่พักอาศัย (Residential Area) ครบจบที่เดียว - 101 The Third Place โซนช็อปแห่งใหม่รวมกว่า 200 ร้านค้า ตอบโจยท์การใช้ชีวิตทั้งกลางวันและกลางคืน เปิดนาน 24 ชั่วโมงเอาใจคนทำงานรุ่นใหม่
- พร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2561 นี้
นั่นคือสิ่งที่พอจะดึงออกมาเข้าใจง่ายๆ กับงานครั้งนี้นะครับ แต่ก่อนอื่นขอนำเนื้อหาจากจดหมายข่าวมาให้อ่านก่อนแล้วผมจะสรุปให้ฟังช่วงท้ายกันอีกทีครับ
True Digital Park ผนึกกำลัง WHIZDOM 101
เปิดมิติใหม่โครงการ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่พร้อมเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์สมบูรณ์แบบ Global Destination ของคนดิจิทัลแห่งแรกในไทยและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชูคอนเซ็ปต์ Digital Lifestyle-Connecting Possibilities ลงตัวทั้งทำงานและใช้ชีวิต ครบจบในที่เดียว
กรุงเทพฯ 12 กรกฎาคม 2561 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค จับมือ WHIZDOM 101 (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) เผยโฉมใหม่โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination) ของคนดิจิทัล ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งแรกในไทยและแห่งเดียวที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้ครบเครื่อง ทั้งทำงาน และพักผ่อน ภายใต้แนวคิด “Digital Lifestyle-Connecting Possibilities”
ด้วยการออกแบบพื้นที่เปิดโล่งและเชื่อมต่อถึงกันแบบอิสระเติมเต็มระบบนิเวศครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพ ให้สามารถแบ่งปันและต่อยอดองค์ความรู้ ส่งเสริมจินตนาการ และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้แบบไม่สิ้นสุด ประกาศความพร้อมก่อนเปิดโครงการ ด้วยการร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เตรียมตั้งสำนักงาน และเปิดพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลภายในโครงการแล้วมากกว่า 80% รวมถึงพื้นที่พักอาศัย และไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์
“101 The Third Place” ภายใต้แนวคิด Lifestyle Third Place ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักการ “Sustainovation” ของ MQDC ช่วยเติมเต็มการ “ช้อป-ชิม-ชิลล์-แชร์” เป็นไปด้วยความสะดวกครบครันและทันสมัยที่สุดในทำเลที่เดินทางสะดวกบนถนนสุขุมวิท พร้อมเปิดให้บริการอย่างแน่นอนในเดือนพฤศจิกายนนี้
นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการให้เป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่โดดเด่นด้วยระบบนิเวศ
ครบวงจรเพื่อสตาร์ทอัพ ล่าสุด ผนึกกำลังกับ WHIZDOM 101 ซึ่งพัฒนาโครงการโดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC รุกเปลี่ยนโฉมโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้เป็น Digital Innovation Hub ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งการทำงานและไลฟ์สไตล์ประจำวันที่เปลี่ยนไปของคนในยุคดิจิทัลทั้งในวันนี้และอนาคต ตั้งเป้าเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination) สำหรับคนยุคดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Digital Lifestyle-Connecting Possibilities เติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ทุกด้าน ด้วยการผสมผสานพื้นที่สำหรับการทำงาน และพักผ่อน ครบครันในที่เดียว ก้าวล้ำกับดีไซน์คอนเซ็ปต์ Connecting Space พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกันระหว่างชั้น เสริมสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ที่ให้อิสระในการพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แบ่งปันความรู้ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือได้อย่างไม่รู้จบ
พร้อมเชื่อมโยงโลกการทำงานกับไลฟ์สไตล์ที่ไม่จำเจได้ทุกๆ วัน กับร้านค้าหลากหลายกว่า 200 ร้าน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านค้า ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ และอื่นๆ ที่คัดสรรโดย “101 The Third Place” ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาพื้นที่สำหรับใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ มั่นใจว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ตอบโจทย์ทั้งเหล่าสตาร์ทอัพ และไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลได้สมบูรณ์แบบอย่างเหนือชั้น
โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค บนพื้นที่ 43 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วนหลัก ที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้ครบเครื่อง ทั้งที่ทำงาน และพักผ่อน เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination) ของคนในยุคดิจิทัล
พื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล (Innovation Area)
ในแนวคิด Open Innovation ศูนย์รวมบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เหล่าสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมทั้งศูนย์ R&D ของมหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 77,000 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว โดย จัดแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซน ได้แก่
- Co-working Space สำหรับการทำงาน เรียนรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน
- Enterprise Space สำนักงานบริษัทข้ามชาติ และเหล่าสตาร์ทอัพ
- Innovation Space ศูนย์นวัตกรรม และเครื่องมือเทคโนโลยีชั้นนำ
- Events and Business Services Space ห้องประชุม สัมมนา ร้านอาหาร และพื้นที่กิจกรรมสันทนาการต่างๆ
ณิชา ศรีสงวนสกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายงานบริหารพื้นที่พาณิชย์ และค้าปลีก ภายใต้การพัฒนาโครงการของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC กล่าวเสริมว่า จุดเด่นของ “101 The Third Place” อยู่ภายใต้แนวคิด Lifestyle Third Place ที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนมาใช้ชีวิตในวันว่าง หรือช่วงเวลาที่ว่างระหว่างวันนอกเหนือจากบ้านและที่ทำงาน สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ทุกวันสำหรับ
ทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงหลักการ “Sustainovation” รวมทั้งมีร้านค้าและบริการที่ช่วยเติมเต็มให้การ “ช้อป-ชิม-ชิลล์-แชร์” เป็นไปด้วยความประทับใจ เพราะสะดวกครบครันและทันสมัยที่สุดในทำเลทองของถนนสุขุมวิท
101 The Third Place
จัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านค้าที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตประจำวันไว้ในพื้นที่ 4 โซน ได้แก่
- WHIZDOM Park พื้นที่ภายในอาคารและภายนอกอาคารจะถูกผสานรวมกันด้วยพื้นที่สีเขียวที่สอดแทรกอยู่ทั่วคอมเพล็กซ์ ซึ่งมีแลนด์สเคปเป็นพื้นที่แนวนอนกว่า 3 ไร่
- Hillside Town พื้นที่ค้าปลีกที่ไม่ได้มีเพียงร้านค้าเรียงตัวกัน แต่แตกต่างด้วยประสบการณ์การช้อปและชิมท่ามกลางบรรยากาศเมืองเล็กๆ กลางหุบเขา ลัดเลาะตามทางเดินบนเนินที่โค้งตัวไปมา
- 24-Hour Street ถนนที่ไม่มีวันหลับไหลรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีพร้อมทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ และบริการต่างๆ ตอบโจทย์เหล่าสตาร์ทอัพและเอาใจคนนอนดึก เพราะชีวิตคนเมืองไม่เคยหยุดนิ่ง
- WHIZDOM Track เลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าแบบมัลติเลเวลที่แรกในประเทศไทย ระยะทางรวม 1.3 กิโลเมตร เชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปุณณวิถี สู่พื้นที่ภายในคอมเพล็กซ์ และ “101 The Third Place” ยังมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน ครบทั้งอาหาร ไลฟ์สไตล์ และบริการ บนพื้นที่ค้าปลีก 30,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังพร้อมเติมเต็มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้ใช้ชีวิตแบบสมาร์ท (Smart Life) ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารโทรคมนาคมล้ำสมัย รวมทั้ง สมาร์ทโซลูชั่น อาทิ
- ทรู ดิจิทัล พาร์ค แอปพลิเคชัน ระบบเข้า-ออกอาคาร จองห้องประชุมและพื้นที่ฟังก์ชั่นแบบออนไลน์
- หุ่นยนต์ (Robotics) ช่วยอำนวยความสะดวก
- ระบบ IoT ไม่ว่าจะเป็น Smart Parking, Smart Metering
- ที่สำคัญ ทรู ดิจิทัล พาร์คจะเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ให้ใช้ชีวิตทุกๆ วันได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วผ่านแอปพลิเคชัน ทรูไอดี และทรูมันนี่
- เชื่อมต่อทุกชีวิตสู่โลกดิจิทัลได้อย่างไร้ขีดจำกัดผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง, 4G+ และ WiFi ครอบคลุมทั่วทั้งโครงการ
ความคืบหน้าโครงการ True Digital Park
“ปัจจุบัน โครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 80% โดยในส่วนของ Innovation Area หรือ พื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม มีพันธมิตรบริษัทชั้นนำระดับโลก และสตาร์ทอัพ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ สนใจเข้าตั้งสำนักงานในโครงการมากกว่า 80% ในส่วนของ Lifestyle Area มีร้านค้าจับจองพื้นที่แล้วกว่า 80% มั่นใจว่า
ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกของคนยุคดิจิทัลที่เชื่อมโยงการใช้ชีวิต การทำงานและดิจิทัลไลฟ์สไตล์ในทุกๆ วันได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเปิดโครงการให้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลสุดล้ำในเดือนพฤศจิกายนนี้อย่างแน่นอน” นายฐนสรณ์ กล่าวสรุป
สรุป
ในงานนี้มุมมองที่ผมได้รับรู้มานั้นขอสรุปเป็นหัวข้อย่อยๆ ให้ฟังดังนี้นะครับจะได้เข้าใจกันง่ายๆ
- ได้รู้ถึงโครงการดีๆ ของ True Digital Park มากขึ้น ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าที่นี่คงจะเป็นแหล่งสำหรับคนที่ชอบไอทีเท่านั้น แต่ไม่ใช่เลย ไอทีก็คือส่วนหนึ่งและเป็นส่วนหลักด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Startup หน้าใหม่ มารวมตัวกันที่นี่ก็จะได้พบปะกันและแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น
- Startup ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่ใช้งานได้ ต่างชาติก็สามารถมาใช้งานพื้นที่นี้ได้เช่นกัน มากกว่านั้นคือ มีส่วนของนักลงทุนมาอยู่ที่นี่ด้วย หมายความว่าถ้าโปรเจกต์ของคุณดีและเจ๋งก็มีโอกาสที่จะได้ทุนทำโปรเจกต์ให้ดังไกลได้อีก
- ไม่ต้องห่วงเรื่องพื้นที่สำนักงานและระบบต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ เพราะ True Digital Park เตรียมไว้ให้หมดเลย คือดีและพร้อมคุณสามารถเช่าพื้นที่และยกกระเป๋าเข้ามาทำงานได้เลย
- True Digital Park ส่วนผสมที่ลงตัวโดยนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับธรรมชาติซึ่งเป็นความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่ พื้นที่แห่งนี้จึงมีพื้นที่สีเขียวกว่า 30% ซึ่งมันดีต่ออยู่ที่อาศัยหรือใช้งานที่นี่
- โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เตรียมไว้อย่างดี ระบบ Wi-Fi ครอบคลุมทั่วพื้นที่ และการเดินทางที่สะดวก ด้วยความที่ True Digital Park นั้นทำเลที่ตั้งติดสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี จึงทำให้เดินทางมายังที่นี่จึงง่ายสะดวก รวดเร็ว แถมชาวต่างชาติสามารถเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังที่นี่ก็ง่ายดายเช่นกัน
- ผู้ใช้งานทั่วก็สามารถใช้บริการได้ไม่ต้องกลัวกับคำว่า Digital Park เพราะมีพื้นที่ Life Style เอาไว้ตอบโจทย์คนเมืองกับการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปและเอาใจคนทำงานรุ่นใหม่ที่ชอบเข้างานสายและเลิกงานดึกหรือไม่ก็ทำงานจนสว่าง ดังนั้น 24-Hour Street จึงเป็นพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับคนกลุ่มนี้ และยังมีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยเป็นคอนโดมิเนียมสูงจำนวน 3 ตึกอีกด้วย
- เห็นโอกาสของประเทศไทยที่กลุ่ม Tech Startup จากต่างชาติจะเข้ามามากขึ้น เพื่อโอกาสในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการลงทุนและการได้รับทุนจากต่างชาติได้ง่ายขึ้นและเป็นหลักเป็นแหล่งมากยิ่งขึ้น
เห็นแบบนี้แล้วก็ดีใจแทน Startup คนไทยและคนทำงานรุ่นใหม่ที่จะได้ใช้พื้นที่ดีๆ และพบโอกาสดีๆ แบบนี้ ณ ตอนนี้ก็คงรอชมของจริงของ True Digital Park ว่าจะเป็นอย่างที่แจ้งไว้หรือเปล่า ปลายปีนี้เราจะได้รู้กัน และแน่นอนว่า iMoD จะไปเยือนสถานที่จริงเมื่อโครงการนี้เปิดทำการอย่างแน่นอน