Attapon Thaphaengphan
ด้วยการแข่งขันทางการตลาดของผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยที่เด่นชัดตั้งแต่ช่วงประมูลคลื่น 4G เป็นต้นมา ทำให้ประเทศไทยได้เห็นการพัฒนาทางด้านเครือข่ายค่อนข้างมาก ผลดีก็ตกอยู่ที่ประชาชนชาวไทยที่ได้รับบริการที่ดีทั้งสัญญาณที่ครอบคลุมและความเร็วในการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วันนี้เรามีสถิติที่น่าสนใจจากปี 2561 มาให้ได้ชมกันครับ
ปี 2561 TrueMove H เติบโตสูงสุด แถมรับรางวัล 4G ที่ดีที่สุด 3 ปีซ้อนจาก nPerf
ขอเริ่มต้นด้วยการนำข้อมูลล่าสุดจากทั้ง 3 ค่ายในแง่เรื่องการให้บริการในปี 2561 ที่ผ่านมาให้ชมกันก่อนแล้วกัน ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่เผยแพร่สู่สาธารณะแล้วสามารถตรวจสอบได้
1. จำนวนผู้ใช้งานปี 2561
เริ่มต้นด้วยจำนวนยอดผู้ใช้งานของผู้ให้บริการแต่ละเครือข่ายที่ทางทีมงานเคยรายงานไปก่อนหน้านี้ สามารถสรุปยอดผู้ใช้งานเมื่อสิ้นปี 2561 ได้ดังนี้
- AIS – 41.2 ล้านเลขหมาย
- dtac – 21.2 ล้านเลขหมาย
- TrueMove H – 29.2 ล้านเลขหมาย
สรุปจากข้อมูลแรกพบว่า AIS, TrueMove H มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น ในส่วนของ dtac นั้นมีจำนวนผู้ใช้งานลดลง
และหากพิจารณาในแง่อัตราการเจริญเติบโตจะได้พบว่า
- AIS เติบโตเพิ่มขึ้น 2.7%
- dtac ลดลง 6.6%
- TrueMove H เติบโตเพิ่มขึ้น 7.4%
เมื่อสรุปจากข้อมูลชุดที่ 2 จะพบว่าอัตราการเติบโตในแง่จำนวนผู้ใช้งานนั้น TrueMove H มาเป็นอันดับ 1 และตามมาด้วย AIS และ dtac นั่นเองครับ
2. ประสิทธิภาพของเครือข่าย
ในเรื่องประสิทธิภาพของเครือข่ายนั่นต้องบอกก่อนว่าตัวแปรมันมีเยอะมากเช่น พื้นที่ที่ปล่อยสัญญาณ, จำนวนผู้ใช้งาน, อุปกรณ์ที่ใช้รับสัญญาณ(มือถือคนละรุ่นสเปคในการรับสัญญาณก็ต่างกันแล้ว) และก็ยังมีแพ็กเกจที่ใช้ของผู้ใช้แต่ละรายอีก ฯลฯ
ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาเราต้องดูหลาย ๆ ประกอบกันโดยที่ค่าเหล่านั้นต้องวัดออกมาเป็นตัวเลขได้ เช่น
- จำนวนคลื่นความถี่ที่ถือครองในมือของแต่ละผู้ให้บริการ เช่น คลื่น 900MHz, 1800MHz, 2100MHz, 2300MHz
- เทคโนโลยีที่ใช้ส่งสัญญาณ 2CA, 3CA, MIMO
- จำนวนเสาส่งสัญญาณ
- พื้นที่ที่ครอบคลุมในการให้บริการ
- แพ็กเกจที่ใช้งานและความเร็วที่ได้จากแพ็กเกจนั้น ๆ
หากจะวัดกันทุกจุดสำหรับคนทั่วไปแล้วก็คงจะเป็นอะไรที่เสียเวลา ซึ่งน้อยคนนักที่จะมานั่งดูข้อมูลเหล่านี้ ดังนั้นจึงมีผู้จัดเก็บข้อมูลเหล่านี้และนำไปประมวลผลแล้วสรุปออกมาให้ดูกันง่าย ๆ ที่เรารู้จักและคุ้นชินกันก็คงจะได้หนี้ไม่พ้น nPerf และ Speedtest by Ookla ซึ่งแต่ละแอปนั้นจะมีการวัดประสิทธิพภาพที่ต่างกันออกไปอีก
- nPerf เน้นการวัดประสิทธิภาพที่มากกว่าแค่ความเร็ว เช่น ความเร็วในการเข้าเว็บ (Browsing Test), ความเร็วในการรับชมวิดีโอ (Video Streaming Test) และความเร็วทั่วไป (Speedtest)
- Speedtest by Ookla เน้นวัดความเร็วเป็นหลักเท่านั้น
ปี 2561 ล่าสุดสรุปผลการทดสอบรวมของสัญญาณ 2G/3G/4G จาก nPerf ได้ผลดังนี้
คะแนนที่รวมออกมานั้นเป็นคะแนนรวมกันการทดสอบหลาย ๆ อย่างตามที่ได้แจ้งไป สามารถชมรายละเอียดการทดสอบได้ตามเอกสารนี้
3. สรุป
ข้อมูลที่นำเสนอไปนั้นค่าสถิติทางตัวเลขที่วัดค่าออกมาให้ทราบโดยคะแนนต่าง ๆ นั้นได้จากกลุ่มตัวอย่างที่ติดตั้งแอปสำหรับการทดสอบซึ่งไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด ผลที่ได้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยประเมินได้ว่าระบบเครือข่ายแต่ละรายนั้นพัฒนาไปอย่างไปบ้าง
AIS ผู้ใช้บริการที่ครองอันดับหนึ่งมาหลายสมัยเนื่องจากให้บริการตั้งแต่ปี 2529 ทำให้มีฐานผู้ใช้งานที่เยอะสุดและด้วยการให้บริการที่ดีและการอัปเกรดอย่างต่อเนื่องก็ยังทำให้ AIS ยังครองอันดับในตลาดของไทยอยู่อย่างต่อเนื่อง
ส่วนฝั่งของ dtac เองมีความเปลี่ยนแปลงในช่วงปี 2558 เป็นต้นมาที่จำนวนผู้งานใช้เริ่มลดลงอีกทั้งประกอบกับการหมดสัมปทานคลื่นความถี่ จึงทำให้สัญญาณของ dtac นั้นมีผลกระทบในวงกว้าง อีกทั้งการอัปเกรดเครือข่ายนั้นช้ากว่า AIS และ TrueMove H (ตัวอย่างเรื่องการให้บริการ 4G 3CA) ซึ่งเข้าใจว่าติดปัญหาเรื่องสัมปทาน จึงทำให้คู่แข่งนั้นแซงหน้าไปค่อนข้างรวดเร็ว
TrueMove H ก็พิสูจน์ตัวเองมาได้พักใหญ่ ๆ แล้วซึ่งอัปเกรดจากเครือข่ายอันดับ 3 ที่หลายคนเคยดูถูกว่าสัญญาณห่วย คลื่นไม่ดี ไม่แรง โปรโมชันไม่ดึงดูดใจ ฯลฯ แต่ 3 ปีที่ผ่านมานี้ก็ทำให้ได้เห็นแล้วว่ามีการพัฒนาที่ดีอย่างต่ำเนื่องทั้งเรื่องโครงข่ายที่ครอบคลุม, การลงทุนในคลื่นความถี่ทั้ง 900MHz, 1800MHz และ 2100MHz พร้อมทั้งการนำเทคโนโลยี 2CA, 3CA, LAA มาให้บริการ ทำให้ภาพรวมของการให้บริการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ ณ ตอนนี้กลายเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้มาง่าย ๆ อย่างแน่นอนถ้าประสิทธิภาพไม่ดีขึ้นจริง
การเลือกใช้งานคลื่นที่เหมาะสมกับเรานั้นก็อย่างที่ได้เรียนแจ้งไปว่ามีหลากหลายตัวแปรที่ต้องเลือกพิจารณา ดังนั้นผู้ใช้ต้องศึกษาข้อมูลและเลือกให้เหมาะกับตนเองมากที่สุด และอย่าลืมว่าพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่หรือพื้นที่ที่ใช้งานบ่อยที่สุด เช่น ที่ทำงาน คลื่นไหนดีสุด เราควรจะพิจารณาเพราะว่ามันเป็นจุดที่เราใช้งานบ่อยสุด, แล้วต้องเดินทางไหม? ถ้าเดินทางบ่อย ต้องลองใช้สัก 2 ซิมเป็นอย่างน้อยเพื่อเปรียบเทียบ นั่นแหละคุณจะทราบว่าตัวไหนดีกว่ากัน ฯลฯ
เพราะสุดท้ายแม้ว่าคนรอบกายจะบอกว่าเครือข่ายนั้นดีที่สุดสำหรับเขาก็ไม่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเหมาะสมกับคุณ ซึ่งตัวคุณเองต่างหากที่จะบอกว่าเครือข่ายไหนเหมาะที่สุดและวิธีการที่ดีที่สุดนอกจากการดูข้อมูลที่น่าเชื่อถือแล้วอย่าลืม “ทดสอบใช้งานด้วยตัวคุณเอง” นั่นคือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำถามนี้
