เมื่อเร็วๆนี้ ทาง True ได้จัดแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงข่ายของ TrueMove H ที่วันนี้ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้าเกี่ยวกับความพร้อมด้าน IoT และนำเสนอแพ็กเกจสำหรับอุปกรณ์ IoT ที่จะใช้งานร่วมกับเครือข่ายอีกด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไรไปติดตามชมกันครับ
True ประกาศเครือข่ายพร้อมสำหรับอุปกรณ์ IoT ใช้ได้จริงแล้ววันนี้ทั่วประเทศ
True ได้พัฒนาโครงข่าย NB-IoTเพื่อให้บริการ True IoT มาตั้งแต่ปี 2559 โดยได้ทำการศึกษาเพื่อสรรหาเทคโนโลยีที่เหมาะสม และสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรและครอบคลุมมากที่สุดในการให้บริการ IoT บวกกับความแข็งแกร่งของโครงข่าย TrueMove H 4G+ ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย
ณ ปัจจุบัน True เป็นผู้ให้บริการ IoT รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่มีโครงข่าย NB-IoT ที่พร้อมใช้งานด้วยความครอบคลุมทั่วประเทศในทุกอำเภอ และกำลังเร่งขยายโครงข่าย LTE-M (CaT-M1) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ อีกทั้งยังมี IoT Ecosystem ครบวงจรมากที่สุด พร้อมให้บริการ IoT เต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “The Future is Real” โลกแห่ง IoT ใช้ได้จริงทั่วไทยแล้ววันนี้ เล็งบุกตลาดผู้ใช้บริการ IoT 3 กลุ่มหลัก คือ
- กลุ่มนักประดิษฐ์และนักพัฒนา (Makers & Innovators)
- กลุ่มลูกค้าธุรกิจ และคู่ค้า
- กลุ่มผู้ใช้ หรือลูกค้าทั่วไป
True พร้อมแค่ไหนสำหรับ IoT?
ด้วยความที่ True มีความพร้อมในการให้บริการ True IoT ด้วยระบบนิเวศ IoT (IoT Ecosystem) ที่ประกอบด้วย
- โครงข่าย IoT ที่ดีที่สุด ครอบคลุมมากที่สุด โดยมีโครงข่าย NB-IoT ที่พร้อมใช้งาน ครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีแผนติดตั้งโครงข่าย LTE-M(CaT-M1) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561
- แพลตฟอร์มไอโอที (IoT Platform) ครอบคลุมทั่วโลก ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก อย่าง OneNETChina Mobile, OceanConnect Huawei, IoT Accelator Ericssonและแพลตฟอร์มระดับโลกอีกหลายราย รวมทั้งการเป็นสมาชิก China Mobile IoT Alliance ซึ่งเป็น NB-IoT Alliance กลุ่มแรกของโลก ปัจจุบันมีสมาชิกบริษัทชั้นนำด้าน IoT มากกว่า 200 ราย ทำให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยี IoT ให้มีการใช้งานแพร่หลายและสามารถรองรับความต้องการใช้งานได้หลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
- พันธมิตรคู่ค้าและผู้ให้บริการโซลูชันที่ดีที่สุด โดยปัจจุบันมีคู่ค้ามากกว่า 120 ราย ครอบคลุมบริการหลากหลาย อาทิ Smart Wellness, Smart Transport, Smart Home, Smart Office/ Smart Building นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาสินค้า, อุปกรณ์ Smart Gadgets & Devices ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ Smart Watch, Kidz Watch และ หุ่นยนต์รุ่นต่างๆ เช่น Robotis MINI, Nao เป็นต้น
- เครือข่ายชุมชนนักพัฒนา IoT (IoT Community) ที่มากที่สุดถึง 17 แห่ง ศูนย์ค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างเครือข่ายให้ต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อสนับสนุนเมกเกอร์ นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และ IoT โซลูชั่น รวมถึงเหล่าสตาร์ทอัพ ได้แก่ ทรูแล็บ (True Lab) ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ 12 แห่ง, ทรู หัวเว่ย โอเพ่น แล็บ (True Huawei Open Lab) รวมทั้งพื้นที่ย่านสยามสแควร์ ซอย 2, 3 และ 4 และ โครงการ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้
- ดิจิทัลแพลตฟอร์มหลากหลาย (Multi-Digital Platform) ตอบโจทย์นักพัฒนาและองค์กรธุรกิจ ให้ต่อยอดเทคโนโลยี IoT พัฒนาเป็นบริการได้แบบ End-to-End อาทิ บริการคลาวด์, ระบบ E-Payment, แพลตฟอร์มเพื่อการจัดการซิม (SIM Management platform) และ e-SIM ที่มีขนาดเล็กสามารถติดตั้งแบบถาวรบนอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เพื่อความปลอดภัย เป็นต้น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ IoT นั้นสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎีบนกระดาษที่นำมาใช้งานไม่ได้อีกต่อไป ถ้าขาดองค์ประกอบตัวใดตัวหนึ่งไปก็จะทำให้ระบบ IoT Ecosystem นั้นขาดความสมบูรณ์
IoT จะขยายตัวและครอบคลุมในการใช้ชีวิตมากขึ้น
จากเดิมเราอาจจะคิดว่าอุปกรณ์ IoT นั้นจะต้องใช้กับโรงงานใหญ่, ห้างร้านหรือว่าธุรกิจองค์กรต่างๆ เท่านั้น แต่ทว่าวันนี้นั้นมันเปลี่ยนไป เพราะเราะจะได้เห็นอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น บริษัทยักษ์ใหญ่หลากหลายรายในไทยได้ใช้ True IoT โซลูชั่นเพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการและนำเสนอคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว เช่น กล้องวงจรปิด ซึ่งสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องเดินสายระบบส่งสัญญาณภาพให้ยุ่งยาก เพียงเรามีกล้องที่รองรับ IoT ใส่ซิมได้สักตัว นำไปติดตั้งที่ไหนก็ได้ จากนั้นก็สามารถเห็นภาพจากจุดที่เราต้องการได้แล้ว หรือว่าจะเป็นระบบ IoT ที่มีอยู่ในรถยนต์ ที่เราสามารถสั่งงานต่างๆได้จากเสียง จอทัชสกรีน และผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ณ ปัจจุบันก็มีแล้วเช่นกัน อนาคตเราก็จะได้เห็นอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้นกว่านี้
เปิดตัว NB-IoT Board และแพ็กเกจซิมเพื่อการใช้งานอุปกรณ์ IoT
อุปกรณ์ IoT ถ้าจะให้สมบูรณ์ ใช้งานได้อย่างมีประสิทธภาพ ต้องเชื่อมต่อกับโครงข่ายที่มีคุณภาพซึ่ง True ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาโดยตลอดและปัจจุบันผู้ใช้ทั่วประเทศก็เชื่อมั่นได้ว่าโครงข่าย NB-IoTของ True นั้นมีศักยภาพ และสามารถรองรับการใช้งานได้ทั่วประเทศแล้ววันนี้
ทั้งนี้เพื่อร่วมขับเคลื่อนและผลักดันการเติบโตของ IoT ในประเทศไทย True IoT เปิดตัว 3 โครงการ เจาะ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มนักประดิษฐ์และนักพัฒนา (Makers & Innovators), ธุรกิจและคู่ค้า, และลูกค้าทั่วไป ดังนี้
- แพ็กเกจ NB-IoT ซิม เลือกได้ทั้งแบบค่าบริการ 330 บาท/ซิม/ปี และ ค่าบริการ 800 บาท/ซิม/3ปี พร้อม NB-IoT Board สำหรับกลุ่มนักประดิษฐ์และนักพัฒนา ราคาเปิดตัวที่ 1,150 บาท พร้อมกับสิทธิในการรับ-ส่งข้อมูลไม่จำกัดบนเครือข่าย NB-IoT ฟรีนาน 1 ปี สั่งจองล่วงหน้าได้แล้วที่ http://trueiot.truecorp.co.th
- True IoT Certified Partner Program สนับสนุนความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจและคู่ค้า โดยเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อคัดเลือก 100 ราย เข้าอบรมความรู้ด้าน IoT และการดำเนินธุรกิจ IoT พร้อมรับสิทธิพิเศษต่างๆ ทั้งสินค้าและการสนับสนุนด้ านการขาย ลงทะเบียนที่ http://trueiot.truecorp.co.th
- Be The First Always Program สำหรับลูกค้าทั่วไป รับสิทธิ์ในการเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ IoT ใหม่ล่าสุด และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย โดยสามารถลงทะเบียนที่ http://trueiot.truecorp.co.th
True IoT : The Future is Real. โลกแห่ง IoT ใช้ได้จริงทั่วไทยแล้ววันนี้ ติดตามข่าวสารไอโอทีจากทรูเพิ่มเติม www.trueiot.truecorp.co.th และ FB Fanpage : True IoT