Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาวแจงว่า Trump เชื่อว่า Apple จะสามารถเปิดโรงงานผลิต iPhone และอุปกรณ์อื่น ๆ ในสหรัฐฯ ได้
Trump เชื่อ Apple เปิดโรงงานผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ได้
Leavitt ถูกถามว่า “การที่ Trump คิดว่าจะย้ายฐานผลิต iPhone มาที่สหรัฐฯ มีความเป็นไปได้หรือไม่” โดย Leavitt ตอบว่า “แน่นอน” เพราะสหรัฐฯ มีทั้งแรงงาน กำลังคน ทรัพยากรที่จะทำได้
Leavitt ได้อ้างถึงการลงทุน 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ที่ Apple ประกาศเมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมา ซึ่ง Leavitt เผยว่า ถ้า Apple ไม่เชื่อว่าสหรัฐฯ มีความสามารถมากพอ ก็คงไม่ลงทุนเงินก้อนโตขนาดนี้
Trump ประกาศนโยบายขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จากกลุ่มประเทศ Supply Chain อย่าง เวียดนาม จีน ไต้หวัน ไทย อินเดีย ยุโรป และอื่น ๆ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ แนะนำว่า หาก Apple ไม่ต้องการจ่ายภาษีมาก ก็ควรที่จะตั้งฐานผลิตอุปกรณ์ในสหรัฐฯ
Tim Cook เองก็เคยให้ความเห็นในประเด็นการย้ายฐานผลิตสินค้ามาในสหรัฐฯ (เมื่อปี 2017) ว่า ทักษะ ความเชี่ยวชาญของแรงงานในสหรัฐฯ นั้น ยังไม่เทียบเท่ากับจีน ที่มีความชำนาญในการผลิตมากกว่า
Howard Lutnick รมต. กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ให้ความเห็นในทำนองเดียวกัน แต่ทางเว็บไซต์ 404 Media ได้เผยบทความชื่อว่า “A ‘US-Made iPhone’ Is Pure Fantasy” ที่เผยคำพูดของ Lutnick ว่า “กองทับนับล้านจะช่วยกันขันน็อตเพื่อประกอบ iPhone” ซึ่ง 404 Media เผยว่า Trump และ Lutnick ต่างไม่เข้าใจการทำงานของ Apple
สื่อเผย “เป็นไปได้ยาก”
404 Media ได้เผยรายชื่อ Supplier จำนวน 27 หน้า ระบุว่ามีมากกว่า 50 ประเทศที่ Apple สั่งซื้อชิ้นส่วนมา และยังมี 79 ประเทศที่จัดหาแร่หายากให้ Apple ด้วย ซึ่งชิ้นส่วนและแร่เหล่านั้น หาไม่ได้ในสหรัฐฯ จึงทำให้ Apple หลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากชิ้นส่วนและแร่ถูกนำเข้ามาจากหลายประเทศ
แม้ Apple จะตั้งโรงงานผลิต iPhone ในสหรัฐฯ ได้ ก็จะได้แค่การผลิต และ 404 Media เผยว่า แรงงานในสหรัฐฯ มีค่าครองชีพสูง ซึ่งจะทำให้ต้นทุน iPhone เพิ่มขึ้น และทำให้ราคา iPhone ในสหรัฐฯ แพงขึ้นด้วย
Apple ประกาศลงทุน 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ แต่เป็นการลงทุนผลิต Server สำหรับ Private Cloud Compute ไม่ใช่ iPhone
Apple เคยตั้งโรงงานผลิต Mac Pro ใน Texas มาก่อนในช่วงที่ Trump ดำรงตำแหน่งสมัยแรก และรายงานเผยว่า “เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่” โดย Apple เจอปัญหาการสรรหา Supplier ในพื้นที่, การนำเข้า ขนส่งชิ้นส่วนทำได้อย่างล่าช้า, มีค่าใช้จ่ายสูง และขาดแรงงานที่มีความสามารถ
ณ ตอนนี้ที่รายงานข้อมูลนี้ Trump ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 50% บวกกับของเดิม 54% ทำให้ตอนนี้ ภาษีนำเข้าจากจีนมาสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นถึง 104%
ที่มา: MacRumors