Apple Watch Series 4 เปิดขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 2 พ.ย. 2561 นี้ หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอรุ่นนี้กันค่อนข้างมาก ทีมงาน iMoD จัดให้ครับรอบนี้มาชมแกะกล่อง Apple Watch Series 4 กันในรอบนี้เป็นรุ่น GPS+Cellular ตัวเรือนอะลูมิเนียม มาชมกันว่าจะเป็นยังไง….
Apple Watch Series 4
สเปกพื้นฐานของ Apple Watch Series 4 ที่เปิดตัวในปี 2018
- ตัวเรือนมี 2 ขนาดให้เลือกคือ 40 มม. และ 44 มม.
- จอภาพ LTPO OLED Retina พร้อม Force Touch ความสว่าง 1,000 นิต
- เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, Wi-Fi และ รองรับการเชื่อมต่อ LTE ในตัวอีกด้วย (สำหรับรุ่น Cellular ซึ่ง Apple Watch ต่อสัญญาณมือถือและเล่นอินเทอร์เน็ตได้ในตัวเลยไม่ต้องพก iPhone ก็ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การฟังเพลงผ่าน Apple Music, การสั่งงาน Siri เป็นต้น) เป็นรุ่นที่ 2 ที่รองรับ Cellular
- ตัวเรือนมีให้เลือกทั้งอะลูมิเนียมและสแตนเลสสตีล
- มี GPS และ GLONASS ในตัว
- โปรเซสเซอร์ S4 แบบ Dual-core 64 บิต ถือว่าเป็นครั้งแรกใน Apple Watch โดยมีความเร็วมากกว่า Apple Watch Sereis 3 ถึง 2 เท่า
- เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า (ECG) เป็นรุ่นแรกที่มีระบบนี้
- เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอลรุ่นที่ 2
- การตรวจจับการล้ม (Fall Detection) เป็นรุ่นแรกที่มีระบบนี้
- W3 ชิพระบบไร้สายของ Apple
- Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น
- มาตรวัดความสูงแบบวัดความดันบรรยากาศ
- ความจุ 16GB
- อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ดียิ่งขึ้นตรวจจับแรง G สูงสุด 32 G
- ไจโรสโคปที่ดียิ่งขึ้น
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร
- กระจก Ion-X อันแข็งแกร่ง
- ฝาหลังเซรามิกและผลึกแซฟไฟร์ทั้งหมดในทุกรุ่นของ Series 4 นี้
- Wi-Fi (802.11b/g/n 2.4GHz)
- Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดชาร์จซ้ำได้ภายในตัวเครื่องสูงสุด 18 ชั่วโมง
- มาพร้อม watchOS 5
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงิน, สีทอง จะแตกต่างอีกเล็กน้อยในฝั่งของโทนดำ ถ้าในรุ่นอะลูมิเนียมจะมีเทาสเปซเกรย์ ส่วนรุ่นสแตนเลสสตีลจะมีสีดำสเปซแบล็ค(เคลือบ DLC)
แกะกล่อง Apple Watch Series 4 GPS+Cellular อะลูมิเนียม
รุ่นที่จะแกะกล่องต่อไปนี้เป็น Apple Watch Series 4 GPS+Cellular ขนาด 44 มม. มีสเปซเกรย์ ตัวเรือนอะลูมิเนียม ราคาจัดจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 18,900 บาท
เช็คของในกล่อง
หน้ากล่องของ Apple Watch Series 4 ปั้มโลโก้ WATCH เอาไว้บนกล่องกระดาษแข็งสีขาว
พลิกด้านหลังจะเห็นข้อมูลของ Serial Number, IMEI, EID พร้อมกับบอกโมเดลเอาไว้ ในรูปจะเป็นเครื่องที่ซื้อจากออสเตรเลียดังนั้นโมเดลที่ได้จึงเป็น MTU2X/A และรุ่นนั้นจะเป็น A2008 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ขายในประเทศไทย ฉะนั้นจึงสามารถใช้งานกับ eSIM ในไทยได้อย่างแน่นอนครับ แถมเคลมได้ด้วย
เมื่อแกะพลาสติกออกจะต้องพลิกด้านล่างเพื่อเปิดกล่องตามภาพด้านล่าง
เมื่อแกะกระดาษที่ห่อด้านนอกออกก็จะเจอกล่องสีขาวอีกชั้นที่สกรีนภาพหน้าปัดและตัวเรือนของ Apple Watch Series 4 เอาไว้
ยกกล่องชั้นบนขึ้นจะพบกล่องสายนาฬิกาซึ่งเป็นสายแบบ Sport Brand มาให้ด้วย (สายนั้นจะแตกต่างกันตามโมเดลที่ซื้อ) โดยในกล่องของสายจะมีให้เลือก 2 ความยาวด้วยกันครับ เราสามารถเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับข้อมือของเราได้เลย
เปิดฝากล่องหลักออกจะพบ
- ตัวเรือน Apple Watch Series 4 บรรจุอยู่ในซองผ้ากำมะหยี่ที่ระบุขนาดเอาไว้
- เอกสารแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
- สายชาร์จ Apple Watch แบบเดิมที่เหมือนรุ่นผ่านๆ มา เชื่อมต่อกับผ่านพอร์ต USB-A ความยาว 1 เมตร
- อะแดปเตอร์สำหรับการชาร์จไฟ (รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยจะได้ขาปลั๊กแบบ US)
สอนวิธีการจับคู่ Apple Watch Series 4 กับ iPhone
อย่างที่แจ้งไปว่า Apple Watch Series 4 นั้นมีการปรับเปลี่ยนเด่นชัดโดยเฉพาะหน้าจอที่มีความกว้างมากยิ่งขึ้นแสดงผลได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา แถมตัวเครื่องยังบางลงกว่าเดิมค่อนข้างมาก
กดปุ่ม Power ด้านล่างค้างเอาไว้เล็กน้อยเพื่อเปิดเครื่อง รอไม่นานก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการจับคู่อุปกรณ์ (Pairing) ต้องเชื่อมกับ iPhone ซึ่งอุปกรณ์ที่รองรับการจับคู่กับ Apple Watch Series 4 ได้แก่
- Apple Watch Series 4 (GPS) – ต้องเป็น iPhone 5s หรือใหม่กว่าที่ติดตั้ง iOS 12 หรือใหม่กว่า
- Apple Watch Series 4 (GPS + Cellular) ต้องเป็น iPhone 6 หรือใหม่กว่าที่ติดตั้ง iOS 12 หรือใหม่กว่า
หากพลิกดูด้านหลังจะเห็น เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอลรุ่นที่ 2 ที่มีความแตกต่างจากรุ่นที่ 3 และรุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด โดยด้านล่างก็จะบอกรายละเอียดเอาไว้ เช่น ขนาดของตัวเครื่อง, วัสดุที่ผลิตตัวเครื่อง (เช่น อะลูมิเนียม) เป็นต้น
ในส่วนของปุ่ม Digital Crown ในรุ่น GPS+Cellular จะมีความเปลี่ยนแปลงคือจะทำสีเป็นวงกลมแทนที่จะทาทึบทั้งปุ่มอย่างที่ทำใน Series 3
เมื่อเห็นหน้าต่าง Bring iPhone near Apple Watch ก็ให้นำ iPhone ที่ต้องการจะจับคู่มาใกล้กับ Apple Watch จากนั้นเปิดแอปพลิเคชัน Watch ขึ้นมา แล้วเลือกที่ Start Pairing
นำ iPhone ส่งไปที่หน้าปัดของ Apple Watch เพื่อเริ่มการจับคู่
จากนั้นเลือกที่ Set Up Apple Watch
เลือกว่าจะใส่นาฬิกาที่ข้อมือข้างไหน ใส่ซ้ายเลือก Left, ใส่ขวาเลือก Right
รูปล่างบอกเกี่ยวกับการแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจทั้งค่าสูงและต่ำ (Low Heart Rate Notification และ High Heart Rate Notification )
ให้กด Continue ได้เลย
รูปล่างบอกว่าเราสามารถกดโทรไปยังเบอร์ฉุกเฉินโดยการกดปุ่ม Power ด้านข้างค้างเอาไว้
จากนั้นกด Continue ได้เลยเช่นกัน
รุ่นที่มี Cellular จะแสดงเมนูสำหรับการตั้งค่า eSIM ให้กดที่ Continue
แต่ว่าตอนที่ผมแกะกล่องนี้ยังอยู่ที่ต่างประเทศจึงไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ แต่ไม่ต้องตกใจนะเราสามารถตั้งค่าภายหลังได้สบายหายห่วง
จากนั้น iPhone จะเริ่มจับคู่กับ Apple Watch เท่าที่สัมผัสมาการจับคู่จะเสร็จเร็วกว่ารุ่นเก่าค่อนข้างมาก เพราะด้วยพลังจากชิป S4 แบบ 64-bit ตัวแรกใน Apple Watch Series 4 จึงทำให้ความเร็วในการประมวลผลเพิ่มขึ้นจาก Apple Watch Series 3 ถึง 2 เท่า ไม่ต้องรอนานแบบที่ผ่านมา
เพื่อไม่ให้เสียเวลาระหว่างการจับคู่กับ iPhone ในรุ่นนี้เราสามารถหมุนปุ่ม Digital Crown เพื่อดูแนะนำต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานของตัวเครื่องได้ โดยจะบอกตำแหน่งของปุ่มต่างๆ รอบเครื่อง ทำให้เรามีอะไรทำระหว่างที่เชื่อมต่อกับ iPhone ครับ ไม่เบื่อดี ได้ความรู้ด้วย
หลังจากจับคู่กับ iPhone เสร็จแล้ว เราจะเห็นภาพแรกคือหน้าปัด Watch Face แบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ Apple Watch Series 4 เท่านั้น จะมีรายละเอียดต่างๆ บอกไว้ค่อนข้างเยอะอีกทั้งยังปรับแต่งหน้าปัดได้ตามความต้องการของเราอีกด้วย
ลองเทียบกับ Apple Watch Series 3 ดูซิ มันจะใหญ่ขึ้นจริงหรือเปล่า? ด้านซ้ายเป็น Apple Watch Series 3 GPS+Cellular ขนาด 42 มม. ส่วนด้วนขวาเป็นรุ่น Apple Watch Series 4 GPS+Cellular ขนาด 44 มม. จะเห็นว่าขนาดหน้าจอแสดงผลต่างกันอย่างสิ้นเชิง และปุ่มด้านข้างใต้ Digital Crown นั้นใน Series 4 จะแนบสนิทไปกับตัวเครื่องซึ่งแตกต่างจาก Series 3 ที่โผล่ออกมาเล็กน้อย
ส่วนสายหนะเหรอ ไม่ต้องกังวลเพราะว่าสายเก่าใช้กับรุ่นใหม่ได้ ซึ่ง
- สายรุ่น 38 มม. ของรุ่นเก่า สามารถใช้กับ Series 4 รุ่น 40 มม.
- สายรุ่น 42 มม. ของรุ่นเก่า สามารถใช้กับ Series 4 รุ่น 44 มม.
ได้อย่างไร้ปัญหา
สวยงามเลยทีเดียว
ก็จบไปแล้วกับการแกะกล่อง Apple Watch Series 4 รุ่น GPS+Cellular ตัวเรือนอะลูมิเนียม เราก็ได้เห็นกันไปแล้วว่ากล่องเป็นยังไง, แกะกล่องยังไง, ข้างในกล่องมีอะไรให้บ้างพร้อมทั้งสอนการจับคู่กับ iPhone ว่าจะต้องทำอย่างไร และส่งท้ายด้วยเรื่องการใช้งานสายร่วมกันว่ารุ่นไหนใช้กับรุ่นไหนได้บ้าง
ในรอบต่อไปเราจะมารีวิวการใช้งานให้ได้ชมกัน โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ