มาแล้ว!! กับการปล่อยให้อัปเดตของ watchOS 5 บน Apple Watch สำหรับคนทั่วไป เรามาชมกันเลยดีกว่าว่า watchOS 5 ที่ปล่อยอัปเดตสำหรับบุคคลทั่วไปนั้นมีอะไรใหม่บ้าง
watchOS 5 เปิดให้อัปเดตแล้ว มีอะไรใหม่
1. ท้าทายเพื่อนให้ทำกิจกรรม
เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจในการขยับร่างกาย การออกกำลังกาย และการยืน ของผู้ใช้ Apple Watch ใน watchOS 5 จึงได้มี Challenge หรือการท้ายแบบใหม่ ที่ให้ผู้ใช้ Apple Watch สามารถแข่งขันการปิดวงแหวนทั้ง 3 กับเพื่อนใน 1 สัปดาห์ ผู้ชนะนอกจากจะได้รางวัลใหม่แล้ว ยังพลอยได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย
การท้าทายนี้เปรียบเสมือนเกมการแข่งขันที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ Apple Watch ปิดวงแหวนกิจกรรม 3 วงให้ครบในทุกๆ วัน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
2. เพิ่มการออกกำลังกายใหม่
ใน watchOS 5 ได้มีการเพิ่มประเภทการออกกำลังกายใหม่ ได้แก่ โยคะและเดินเขา ที่มาพร้อมกับการวัดผลที่แม่นยำและสอดคล้องกับทั้ง 2 กิจกรรมนี้มากขึ้น
3. ตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ
บ่อยครั้งที่ผู้ใช้ Apple Watch รีบออกกำลังกายแต่ดันลืมเปิดแอปออกกำลังกาย (Workout) หรือบางทีก็เปิดทิ้งไว้ เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้วก็ลืมปิด ทำให้ผลการวัดคลาดเคลื่อนไปหมด
ใน watchOS 5 จึงมีฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ด้วยฟีเจอร์ตรวจจับการเริ่มหรือหยุดออกกำลังกายอัตโนมัติ การทำงานของฟีเจอร์นี้จะแจ้งเตือนให้เริ่มกิจกรรม เมื่อ Apple Watch ตรวจจับได้ว่าเรากำลังออกกำลังกายอยู่ และแจ้งเตือนให้หยุดกิจกรรมเมื่อตรวจจับได้ว่าเราพักจากการออกกำลังกายแล้ว แก้ปัญหาของคนขี้ลืมได้ดีทีเดียว
4. ตัวช่วยนับ Pace สำหรับนักวิ่ง
ประเภทการออกกำลังกายยอดฮิตก็คือ การวิ่ง นั่นเอง ใน watchOS 5 จึงได้พัฒนาฟีเจอร์สำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ โดยดูแลทุกย่างก้าวการวิ่งของคุณดังนี้
- การเตือนเวลาเฉลี่ย คุณสามารถตั้งค่าได้ว่า Pace เฉลี่ยที่วิ่งมีค่าเท่าไหร่ และเมื่อเราออกไปวิ่ง Apple Watch จะคอยสะกิดเตือนเสมอว่าคุณวิ่งช้าหรือเร็วกว่า Pace ที่กำหนด เพื่อฝึกฝนให้นักวิ่งทำได้ตามเป้าหมาย
- เวลาเฉลี่ยล่าสุด สำหรับนักวิ่งที่ต้องคอยปรับปรุงฝึเท้าตลอดเวลา ก็สามารถดู Pace เฉลี่ยของกิโลเมตรก่อนหน้าได้ เผื่อว่ากิโลถัดไปคุณจะทำได้ดียิ่งขึ้น
- ความเร็วรอบขา สามารถติดตามความเร็วรอบขา (Cedant) ได้ตลอดเวลาระหว่างวิ่ง เพื่อให้คุณสามารถวิ่งได้ตามค่าความเร็วรอบขาที่เหมาะสม ลดการบาดเจ็บและรักษาประสิทธิภาพการวิ่งได้ดี
5. เล่น Apple Podcasts ได้แล้ว
จาก iPhone สู่ Apple Watch กับ Podcasts ที่สามารถเล่นกันสดๆ บน Apple Watch ได้แล้ว ทุกๆ เรื่องราวที่คุณสนใจ สามารถเปิดฟังบน Apple Watch ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะฟังเพลินๆ บนรถหรือจะฟังตอนออกกำลังก็ได้ บอกได้เลยว่า Podcasts มีเนื้อหาที่น่าสนใจและอัปเดตเนื้อหาใหม่ๆ อยู่เสมอ ลองฟังดู
6. Walkie-Talkie
เพิ่มความสามารถแบบวิทยุสื่อสารลงบน Apple Watch ให้คุณได้สื่อสารกับเพื่อนในรูปแบบใหม่ด้วย Walkie-Talkie ผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือ Cellular โดยไม่ต้องใช้แอปโทรศัพท์
เพียงแตะพูด อีกฝ่ายก็จะได้ยินและตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าคุณกับเพื่อนจะอยู่ที่ไหน เพียงแค่แตะแล้วพูดก็สื่อสารกันแบบตัวต่อตัวได้ทันที
7. Siri ที่ฉลาดยิ่งขึ้น
หน้าปัด Siri เพิ่มความฉลาดมากขึ้น ด้วยการเรียนรู้การใช้งานและให้คำแนะนำตามพฤติกรรมของเรา ราวกับเป็นเพื่อนรู้ใจ รวมถึงแสดงคำสั่งลัดต่างๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้สะดวกมากขึ้น เช่น ถ้าใกล้จะถึงเวลาออกกำลังกาย แอปออกกำลังกายตามประเภทที่เราทำเป็นประจำก็จะมาแสดงบนหน้าปัด Siri ทันที
นอกจากนี้ Siri ยังรองรับการแสดงข้อมูลของแอปอื่นๆ เช่น แอป Nike+, RunGo, Pinterest, Facebook เป็นต้น คุณก็สามารถเรียกใช้แอปโปรดได้ง่ายมากขึ้น
8. ยกขึ้นเพื่อพูด (Raise To Speak)
ต่อจากนี้ก็ไม่จำเป็นต้อง “หวัดดี Siri” หรือ “Hey Siri” อีกแล้ว เพราะ Raise To Speak จะทำให้คุณสั่งการ Siri ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ยก Apple Watch แล้วพูดคำสั่งที่ต้องการ Siri ก็สามารถตอบสนองได้ทันที เช่น ยก Apple Watch ขึ้นมาแล้วพูดว่า วันนี้อากาศเป็นยังไงบ้าง Siri ก็จะแสดงข้อมูลพยากรณ์อากาศให้ทราบอย่างรวดเร็ว
9. การแจ้งเตือนที่ดียิ่งขึ้น
watchOS 5 มาพร้อมกับ iOS 12 ที่ปรับการแจ้งเตือนแบบใหม่ให้แสดงเป็นรูปแบบกลุ่มตามแอปพลิเคชันที่ช่วยให้คุณเลือกดูการแจ้งเตือนที่ต้องการได้ง่ายขึ้น พร้อมกับจัดการปิดเสียงหรือปิดการแจ้งเตือนได้ในหน้านั้นเลย
นอกจากนี้เรายังสามารถจัดการข้อมูลของแอปจากการแจ้งเตือนได้ในทันที (แอปที่รองรับ) โดยไม่ต้องเข้าไปจัดการภายในแอปให้ยุ่งยาก เช่น การยืนยัน Check-in เที่ยวบิน การยืนยันเวลาจองร้านอาหาร เป็นต้น
10. หน้าปัดใหม่ต้อนรับ Apple Watch Series 4
หน้าปัด Apple Watch ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Apple Watch Series 4 ถูกเพิ่มเข้ามาใจ watchOS 5 เป็นลักษณะภาพเคลื่อนไหวสวยงาม มีอยู่ด้วยกัน 5 รูปแบบ ได้แก่ เปลวไฟ (Fire), การหายใจ (Breathe), น้ำ (Water) , ไอน้ำ (Vapor) และหลอมโลหะ (Liquid Metal)
11. Control Center สะดวกขึ้น
สามารถจัดเรียงหรือย้ายไอคอนเมนูการทำงานบน Control Center โดยจะย้ายเมนูที่ใช้บ่อยมาไว้บนสุดก็ได้ เพื่อให้สะดวกกับการใช้งาน และยังเข้าถึง Control Center ได้ในทุกๆ หน้าจอ ไม่ว่าเรากำลังจะเปิดแอปไหนก็ตาม
12. เลือก Wi-Fi ได้เอง
ในส่วนการตั้งค่า เราสามารถเข้าไปเลือกเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ต้องการได้เองตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi สาธารณะหรือ Hotspot Wi-Fi ก็เลือกเชื่อมต่อได้ทั้งหมด มีประโยชน์มากเวลาที่เราต้องการสลับสับเปลี่ยนการใช้ Wi-Fi เมื่อ Wi-Fi เดิมมีสัญญาณอ่อนหรือช้า
13. อ่านเว็บ Content ได้แล้ว
ดูเว็บ Content ได้เต็มรูปแบบมากขึ้น จากเดิมที่สามารถดูได้เฉพาะข้อความ ไม่เห็นการแสดงผลของรูปภาพที่สวยงามจากเว็บ Contect วันนี้คุณจะได้เห็นรูปภาพเหล่านั้นบน Apple Watch โดยที่ไม่ต้องไปเปิดดูใน iPhone อีก ไม่ว่า Content จะถูกส่งมาทางข้อความ อีเมล หรือการแจ้งเตือน คุณก็สามารถเข้าดูได้ทั้งหมด
และนี่ก็เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมกับ watchOS 5 ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อสนับสนุนการใช้งานให้สะดวกมากขึ้น สำหรับใครที่พร้อมอัปเดตเป็น watchOS 5 แล้ว ชมวิธีได้ที่นี่เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีอัปเดตเป็น watchOS 5 ทำอย่างไร
- Apple Watch รุ่นไหนบ้างที่ได้ไปต่อใน watchOS 5
- 50 สิ่งใหม่และการเปลี่ยนแปลง ใน WatchOS 5 มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- เปิดตัว watchOS 5 เพิ่มกิจกรรมใหม่และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้มากขึ้น (5 มิ.ย. 61)