Barclays ธนาคารเพื่อการลงทุนคาดว่า iPhone ทั้งสามรุ่นที่จะออกในปี 2017 จะมาพร้อมกับหน้าจอ True Tone แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPad Pro 9.7″ ซึ่งทั้งสามรุ่นน่าจะประกอบไปด้วย iPhone 7s, 7s Plus และ iPhone 8 คาดว่าจะมาพร้อมจอ OLED และเซ็นเซอร์วัดแสงรอบตัวแบบ “Full spectral sensing” ที่ผลิตโดย AMS จากออสเตรีย เพื่อใช้กับหน้าจอ “True Color” นั่นเอง iPhone ปี 2017 อาจใช้จอภาพแบบ True Tone Displays

True Tone Display
สำหรับหน้าจอ True Tone Display ก็คือการปรับแสงหน้าจอ ให้เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมคล้ายกับ Night Shift ที่มีอยู่ใน iOS และล่าสุดยังลงไป macOS ด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วหากเป็น Night Shift จะเป็นการปรับแสงหน้าจอให้ “เหลือง” ตามสภาพเวลาหรืออ้างอิงเส้นแบ่งเวลาผ่าน GPS โดยเชื่อว่ามันทำให้ผู้ใช้นอนหลับได้ง่ายขึ้น

ซึ่งต่างจาก True Tone Display ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง Hardware เซ็นเซอร์รอบข้างชนิด 4 ช่องสัญญาณ โดยจะปรับไม่เพียงแค่ความสว่างของหน้าจอ แต่ยังรวมถึงสีของหน้าจอด้วยเช่นกัน เมื่อใช้งานแล้วจะรู้สึกสบายตามากกว่า ยกตัวอย่างเช่น หลอดไฟสีอมเหลือง, สีขาวนวล, สีอมฟ้า เมื่อกระทบหน้าจอย่อมให้แสงที่ไม่เหมือนกัน
เซ็นเซอร์อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นราว $0.60-1.00
โดยปกติแล้วหน้าจอ iPad 9.7″ (รุ่นเดียวที่มี True Tone Display ในตอนนี้) ค่าจากโรงงานจะเป็นหน้าจอสว่างอมฟ้านิด ๆ เวลาใช้งานปกติจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากไปใช้กับไฟส้มมันจะแยงตาทันที ซึ่งการมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิแสง (อมส้ม, ขาว, อมฟ้า) หน้าจอจะปรับแสงให้เหมือนกับสภาพห้องโดยอัตโนมัติ ทำให้ใช้งานได้สบายตามากยิ่งขึ้น
ที่มา – apple