iCloud Photo เป็นฟีเจอร์ที่ดีช่วยให้คุณเก็บรูปและวิดีโอสำรองขึ้นไว้บน Cloud ได้ไม่ต้องห่วงเรื่องภาพหาย แต่ทำไมผมถึงเลิกใช้งาน(ต้องเรียกว่าลดความสำคัญดีกว่า)และหันมาใช้ Google Photos เป็นหลัก ลองมาฟังกันดูครับ
8 เหตุผลที่ย้ายจาก iCloud Photo แล้วมาใช้ Google Photos เต็มตัว
อุปกรณ์ที่ผมใช้งานอยู่นั้นมีหลากหลายถ้า iDevices ก็ได้แก่ iPhone XS Max (256GB), iPhone X (256GB), iPhone 8 Plus (64GB), iPhone 7 Plus (128GB), iPhone 7(128GB), iPhone SE(64GB), iPad Pro 10.5″(256GB), iPad Pro 12.9″ (1TB) นั่นคือหลักๆ นะ
ถ้าเกิดว่าผมสำรองรูปและวิดีโอทั้งหมดจากเครื่องเหล่านั้นไปที่ iCloud Photo ผลที่ตามมาคือเนื้อที่ไม่เพียงพออย่างแน่นอน (ปกติผมเช่า iCloud Storage ไว้ที่ 50GB เพื่อความประหยัด :P)
เอาหละมาดูเหตุผลว่าทำไมผมจึงเลือกใช้ Google Photos เป็นหลัก
1. Google Photos ฟรี!!
เหตุผลหลัก ๆ เลยจุดนี้ ถ้าหากมีรูปและวิดีโอเยอะมากแค่ไหน ไม่ว่าจะจากกี่อุปกรณ์สามารถอัปโหลดเก็บใน Google Photos ได้อย่างไม่จำกัด(คุณภาพมาตรฐาน) ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยว่าภาพจะหาย แม้ว่า iPhone iPad เหล่านั้นจะหายหรือเจ๊งก็ตาม ตราบใดที่เราสำรองรูปเอาไว้เรื่อยๆ รูปไม่หายแน่นอน(ต้องมีบัญชี Gmail เพื่อใช้บริการ)
⁉️ อ่าน วิธีใช้ Google Photos สำรองรูปและลบรูปออกจากเครื่องหลังสำรองแล้ว
ส่วนใครอยากเก็บคุณภาพแบบ Original เอาไว้ก็สามารถเช่าพื้นที่ได้โดยเลือกขนาดเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ 100GB – 30TB ส่วนราคานั้นเริ่มต้นที่ 70 บาทต่อเดือน (100GB) ส่วนถ้าจ่ายรายปีจะอยู่ที่ 700 บาทต่อปีสำหรับพื้นที่ 100GB โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเก็บข้อมูลรวมกับ Gmail และ GDrive ด้วย
2. ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้ iPhone, iPad ได้
ยิ่งถ้าใครใช้รุ่นที่ความจุน้อยๆ อย่าง 16GB, 32GB ถ่ายรูปและคลิปเยอะ สามารถสั่งสำรองไฟล์เหล่านั้นเข้า Google Photos เมื่อสำรองเสร็จเราสั่งให้ Google Photos ลบไฟล์เหล่านั้นออกจาก iPhone เราได้ เราก็จะได้พื้นที่กลับมาใช้งาน ถ้าอนาคตอยากนำรูปหรือวิดีโอเหล่านั้นมาใช้ก็สามารถดาวน์โหลดกลับมาใช้งานได้เช่นกัน
3. ใช้ได้ทุกอุปกรณ์
ไม่ว่าคุณจะมี iPhone, iPad, Mac หรือคอมพิวเตอร์ทั่วไป รูปที่ถ่ายจากทุกเครื่องจะมาเก็บไว้ในที่เดียวกันแล้วจากนั้นคุณสามารถเปิดดูภาพจากอุปกรณ์ใดก็ได้
4. สะดวกมากขึ้นถ้าคุณใช้อุปกรณ์ Android
หรือมีแผนจะสลับไปใช้ในอนาคต เพราะ Google Photos สามารถใช้งานได้ทั้ง iOS, Android รูปที่เก็บไว้แม้ถ่ายจาก iPhone ก็สามารถเปิดดูบน Android ได้ เรียกได้ว่ายืดหยุ่นมากกว่า
5. AI ช่วยจัดการรูปและวิดีโอทำได้อย่างดี
เช่น รูปที่เราอัปโหลดไปเก็บนั้น AI ของ Google Photos จะช่วยแต่งรูปให้(ใส่ฟิลเตอร์), แปลงภาพถ่ายต่อเนื่องเป็น gif, สร้างวิดีโอเป็น gif สั้นๆ หรือไม่ก็เลือกรูปมาสร้างเป็นวิดีโอได้ พร้อมทั้งระบบการค้นหาที่ง่ายมาก การจัดเรียงสวยงามน่าใช้
6. ระบบการ Backup ที่ดูแล้วเข้าใจง่ายกว่า iCloud Photos
หมายถึง การที่เราสั่งสำรองไฟล์นั้นทาง Google Photos จะแสดงว่าไฟล์ไหนบ้างกำลังถูกอัปโหลดขึ้นไป ถ้าอัปโหลดเสร็จแล้วก็จะแจ้งว่าสำเร็จแล้ว แต่ทาง iCloud Photos นั้นจะไม่บอกส่วนใหญ่ระบบจะรันอยู่ด้านในไม่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบแต่มันได้สำรองไปแล้วนั่นเอง
7. ดูข้อมูลไฟล์รูปที่ถ่ายได้
สำหรับสายตากล้องการดูข้อมูลรูปถ่าย (exif) นั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นนะครับ ทั้งนี้จะได้รู้ว่ารูปที่ถ่ายนั้นถ่ายด้วยกล้องอะไร ความเร็วชัตเตอร์เท่าไหร่ ถ่ายที่ไหน ฯลฯ ก็ดูจากแอป Google Photos ได้ครับ
8. มี Google Lens สามารถรู้รายละเอียดของภาพถ่ายนั้นได้
ฟีเจอร์เพิ่มเติมใน Google Photos คือ สามารถวิเคราะห์ภาพถ่ายนั้นได้ เช่น เราถ่ายภาพเก้าอี้เอาไว้เมื่อเรียกใช้ Google Lens จะทำการตรวจสอบว่าเป็นเก้าอี้รูปแบบไหนและจะทำการนำภาพไปเปรียบเทียบกับรูปที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ตจากนั้นเราสามามารถที่จะทราบข้อมูลหรือหาซื้อเก้าอี้เหล่านั้นได้ หรือ รูปถ่ายของร้านกาแฟที่ถ่ายมา Google Lens จะบอกได้ว่าเป็นร้านที่ตั้งอยู่ที่ไหน ฯลฯ เป็นต้น
ส่งท้าย
ในที่นี้เองผมไม่ได้บอกนะว่า iCloud Photos ไม่ดีนะ ทั้ง 2 บริการมีข้อดีมากมายอยู่แล้วอยู่ที่ใครจะเลือกใช้ แต่ปัญหาที่ผมเจอกับ iCloud Photos บ่อยๆ คือ เวลาเปิดดูรูปเก่าๆ ที่อัปโหลดเก็บไว้ใน iCloud Photos แล้วมันจะมีบ้างที่โหลดไม่เสร็จแล้วรูปก็จะไม่ชัดหรือไม่ว่าจะเน็ตแรงแค่ไหนบางทีรูปก็ไม่มาเลย มันเลยทำให้หลายคนคิดว่าเครื่อง iPhone เสียหรือเปล่า
ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ Google Photos ทำได้ก็ลองเล่นกันดูนะมันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบในการสำรองข้อมูลครับช่วยได้เยอะเลย มีรูปเท่าไหร่เก็บฟรีได้หมด ที่ลำบากหน่อยคือต้องหา Wi-Fi ไว้อัปโหลดนะ
ใครสนใจใช้งาน Google Photos ก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ App Store ได้เลยครับ
อัปเดตล่าสุด 20/08/2019