ก่อนที่ Apple จะเผยโฉมสิ่งใหม่ในงาน WWDC 2019 Keynote คืนวันนี้ (3 มิ.ย. 2019) เรามาชมคาดการณ์กันก่อนว่าในงานเราจะเห็นอะไรบ้าง
WWDC 2019
Apple จัดงาน WWDC 2019 ช่วงวันที่ 3 – 7 มิ.ย. 2019 โดยเลือกจัดงาน Keynote เปิตตัวสิ่งใหม่พร้อมถ่ายทอดสดวันที่ 4 มิ.ย. 2019 เวลาเที่ยงคืน หรือคืนวันที่ 3 ย่างเข้าเช้าวันที่ 4 ตามเวลาบ้านเรา
สิ่งใหม่ที่คาดว่าจะเห็นในงาน WWDC 2019
1. iOS 13
แน่นอนอยู่แล้วว่านอกจากการประชุมนักพัฒนาแล้วไฮไลท์หลักจะอยู่ที่การเปิดตัว OS ใหม่และหนึ่งในนั้นคือ iOS โดย iOS 13 มีสิ่งใหม่ที่คาดการณ์ว่าจะได้เห็น ดังนี้
Dark Mode
ฟีเจอร์นี้มีข่าวลือมาตลอดหลัง Apple ใส่ฟีเจอร์นี้มาใน macOS Mojave โดยข่าวลือเผยว่า Dark Mode ใน iOS จะสามารถเปิดใช้งานผ่าน Control Center ได้ (Light Mode, Dark Mode)
ปรับหน้าต่างเพิ่ม – ลดเสียง
ผู้ใช้หลายคนมักจะเจอปัญหาเวลากดปุ่มเพิ่ม – ลดเสียง แล้วหน้าต่างเพิ่ม – ลดเสียงมีขนาดใหญ่บังหน้าจอ โดยใน iOS 13 คาดว่าจะมีการปรับปรุงใหม่ ให้มีขนาดเล็กและดูง่ายขึ้น
Sleep Mode
ใน iOS 13 คาดว่าจะมีการใส่ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยจัดการพฤติกรรมการนอนของผู้ใช้ให้ดีขึ้น โดยฟีเจอร์นี้สามารถเรียกใช้งานผ่าน Control Center และแตะเปิดได้ใน Do Not Disturb, ถ้าเปิดใช้งานโหมดนี้หน้าจอก็จะไม่สว่างหากหยิบ iPhone ขึ้นมาตอนกลางคืน และปิดการแจ้งเตือนทุกอย่างด้วย
นอกจากนั้นเป็นไปได้ว่า Apple อาจปรับปรุง Bedtime ในแอป Clock ให้ดีขึ้นด้วย
อัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ iPad
รายงานเผยว่า iOS 13 จะเป็นอัปเดตครั้งใหญ่ของ iPad โดยมีการปรับปรุงหน้าตาใหม่หลายจุด ปรับปรุงรูปแบบการจัดวางในหน้า Home ใหม่ด้วย
คาดว่าใน iOS 13 สำหรับ iPad จะมีการปรับปรุง Multitasking ให้ดีขึ้น, แอปบน iPad รองรับการเปิดหลายหน้าต่าง อาจจะตรึงหน้าต่างของแอปได้มากกว่า 3 หน้าต่าง โดยหน้าต่างแอปอาจเปิดแอปเดียวกันหรือต่างกันก็ได้, ยึดหน้าต่างไว้ที่หน้าจอและลากไปมาได้
นอกจาากนั้นยังอาจมีการเพิ่มท่าทางการใช้งานใหม่ในการกรอกข้อมูลบน iPad เช่น การย้อนกลับ (undo) ด้วยการใช้นิ้ว 3 นิ้วแตะไปที่คีย์บอร์ดลากไปด้านซ้ายหรือขวา เป็นต้น
ข่าวลือก่อนหน้านี้ยังบอกอีกว่า iOS 13 จะรองรับการเชื่อมต่อเมาส์ผ่านฟีเจอร์ Accessibility ได้ด้วย
Find My
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าใน iOS 13 Apple จะรวม Find My iPhone และ Find My Friends มาเป็นแอปใหม่ชื่อว่า Find My แต่จะใส่ฟีเจอร์เพิ่มเข้าไปด้วย เช่น การแสดงตำแหน่งที่ตั้งของอุปกรณ์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อ Wi-Fi, Cellular โดยใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ iOS ที่อยู่ใกล้ ๆ
แอป Find My นั้นจะยังคงฟีเจอร์สำคัญอย่าง Lost Mode ใน Find My iPhone, การแชร์ตำแหน่งของเพื่อนใน Find My Friends แต่จะรวมอยู่ในแอปเดียวเพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น
อัปเดตแอปอื่น ๆ
แน่นอนอยู่แล้วว่าใน iOS ใหม่ ๆ Apple มักจะอัปเดตแอปติดเครื่องให้ดีขึ้น อาทิเช่น
- แอป Message ปรับปรุงรูปแบบให้คล้ายกับ WhatsApp, ใส่ข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้
- แอป Mail จัดการระบบกล่องข้อความให้ดีขึ้น โดยมีการลำดับความสำคัญ มี Option Mute หรือ Block ผู้ติดต่อได้
- แอป Reminders รายงานบอกว่าจะมีการปรับหน้าตาใหม่ แสดงกำหนดการในรูปแบบปฏิทินอย่างชัดเจน
- แอป Health เพิ่มฟีเจอร์ “hearing health” แสดงข้อมูลว่าเราฟังเพลงในระดับเสียงที่เป็นอันตรายต่อหูหรือไม่ ปรับปรุงการรายงานข้อมูลสุขภาพประจำวันได้ดีขึ้น
2. macOS 10.15
ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าชื่อเรียกของ macOS 10.15 จะเป็นชื่ออะไร เพราะโดยปกติแล้ว Apple จะใช้ชื่อสถานที่สำคัญใน California มาตั้งชื่อ ซึ่งปีนี้ก็คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเป็น Mammoth
สิ่งใหม่ที่คาดว่าจะได้เห็นใน macOS 10.15 มีดังนี้
Cross-Platform
รายงานเผยว่า macOS 10.15 กับ iOS 13 จะ Cross-Platform แอปร่วมกัน หากพูดง่าย ๆ คือ นักพัฒนาจะสามารถพัฒนาแอปตัวเดียวและใช้ได้ทั้งบน macOS, iOS ซึ่งโครงการนี้เป็นแนวคิดมาตั้งแต่ iOS 12 และ macOS Mojave โดยโครงการนี้เรียกว่า “Marzipan” ซึ่งคาดว่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนในปีนี้
ทั้งแอปบน iOS, macOS ใหม่ที่ Cross-Platform กันก็จะใช้เครื่องมือและประโยชน์จาก Paltform นั้น ๆ มาใช้ในแอปบน OS เช่น แอปจาก iOS ที่ Port ไปอยู่บน macOS ก็จะสามารถใช้ฟีเจอร์บน Touch Bar และรองรับหลายหน้าต่างได้ เป็นต้น
แอปใหม่ ๆ ใน macOS
ข่าวที่เราได้เห็นกันก่อนหน้านี้ค่อนข้างบ่อยคือการยุบแอป iTunes และแตกออกมาเป็นแอปย่อยต่าง ๆ เช่น Music, TV, Podcasts และอื่น ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานฟังก์ชันของแต่ละแอปได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนั้นรายงานยังบอกอีกว่าใน macOS จะใส่ฟีเจอร์หรือแอปที่มีอยู่ใน iOS ด้วย เช่น Screen Time, Effect ของ iMessage และ Find My ตัวใหม่ เป็นต้น
ใช้ iPad เป็นจอเสริมได้
macOS 10.15 จะมาพร้อมฟีเจอร์ที่สามารถส่งภาพหน้าจอจาก Mac ไปยังจอเสริมอย่างเช่น iPad ได้ โดยข่าวลือบอกว่าชื่อโครงการนี้มีชื่อว่า “SideCar” และรายงานเผยว่าการส่งหน้าจอไปยัง iPad นั้น ผู้ใช้จะสามารถใช้ Apple Pencil บนจอ iPad ได้ ถือว่าน่าสนใจมาก
เลิกสนับสนุนแอป 32-bit
Apple แจ้งเตือนนักพัฒนาตั้งแต่ macOS Mojave แล้วว่าจะไม่สนับสนุนแอป 32-bit และ macOS Mojave จะเป็น macOS รุ่นสุดท้ายที่ไม่รองรับแอป 32-bit
คาดว่า Apple จะยังปล่อยให้แอป 32-bit รองรับบน macOS 10.15 ชั่วคราว และถ้าไม่มีการอัปเดตหลังจากนั้น ตัวแอปก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป แต่จะใช้งานได้บน macOS เวอร์ชันเก่า ๆ ได้นั่นเอง (แต่อัปเดตแอปไม่ได้)
ยืนยันตัวตนผ่าน Apple Watch ได้มากขึ้น
ข่าวลือก่อนหน้านี้เผยว่า Apple จะใส่คุณสมบัติการยืนยันตัวตนบน macOS 10.15 ร่วมกับ Apple Watch มากขึ้น โดยรูปแบบการยืนยันตัวตนนั้นคาดว่าจะสามารถให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่านบน Apple Watch เพื่อปลดล็อคเครื่อง และยืนยันการชำระค่าบริการได้ (ปกติใช้ปลดล็อคเครื่องได้อย่างเดียว)
3. watchOS 6
รายงานบอกว่า watchOS 6 จะมี App Store เป็นของตัวเอง สามารถดาวน์โหลดหรืออัปเดแอปผ่าน Apple Watch ได้เลยโดยไม่ต้องพึ่ง iPhone
คาดว่า watchOS 6 จะใส่ฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่าแอป “Dose” สำหรับแจ้งเตือนการทานยา และแอป “Cycles” สำหรับติดตามรอบประจำเดือนสำหรับผู้หญิงด้วย, เพิ่มแอป Calculator, Voice Memos, และ Audio Books ที่มีอยู่ใน iOS มาใส่บน watchOS
ส่วนอย่างอื่นก็คาดว่าจะใส่ฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น เช่น ติดตามระดับเสียงรบกวนหรือเสียงที่เราได้ยินว่าจะส่งผลต่อระบบการได้ยินของเราหรือไม่
นอกจากฟีเจอร์และแอปใหม่แล้วคาดว่า watchOS 6 ต้องมาพร้อมกับหน้าปัด (Watch Face) แบบใหม่และมี Complication ใหม่ ๆ ที่หน้าปัดให้เลือกใช้งานด้วย
4. tvOS 13
นอกจากเรื่องการปรับปรุงแอป TV ใหม่เพื่อรองรับบริการใหม่แล้วก็แทบไม่มีข้อมูลเลยว่า tvOS 13 จะมีอะไรใหม่เพิ่มเข้ามาบ้าง คาดว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบและประสิทธิภาพทั่วไปเพื่อให้รองรับบริการใหม่ ๆ เป็นหลักมากว่าการที่จะใส่ฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามา
5. Mac Pro
ข่าวลือบอกว่า Apple อาจเปิดตัว Mac Pro ที่เป็นรุ่น High-End ประสิทธิภาพสูงในปี 2019 นี้ และเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นในงาน WWDC 2019 นี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการการันตีชัดเจนว่าเราจะได้เห็น Mac Pro ใหม่ในงาน WWDC หรือปลายปีกันแน่ และเป็นไปได้ว่าหาก Apple เปิดตัว Mac Pro รุ่นใหม่ก็อาจจะเปิดตัวพร้อมกับจอ 6K ที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ด้วย
6. เคส iPhone, iPad สาย Apple Watch และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
ปกติแล้ว Apple มักจะเปิดขายอุปกรณ์เสริมอย่างสาย Apple Watch และเคส iPhone, iPad ในช่วงงานสำคัญ และงาน WWDC 2019 เราก็หวังว่า Apple จะเปิดขายสินค้าเหล่านี้แบบใหม่ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก – macrumors
พบกันวันงาน WWDC 2019 คืนวันจันทร์ที่ 3 มิ.ย. 2018
สำหรับ iPhonemod นั้นเราจะถ่ายทอดสดงาน Keynote WWDC 2019 พร้อมบรรยายภาษาไทยในคืนวันที่ 3 มิ.ย. 2019 เริ่มเวลาประมาณ 23.30 น. เป็นต้นไป
ติดตามการถ่ายทอดสดได้ที่ Facebook LIVE : iPhonemod.net และเว็บไซต์ iPhonemod.net