Attapon Thaphaengphan
เราคงจะทราบกันไปแล้วกับ Apple Music ว่าคืออะไรและการใช้งานเป็นอย่างไรหากใครยังไม่ทราบสามารถอ่านเรื่อง Apple Music ได้ที่นี่ ส่วนวันนี้จะขอเล่าประสบการณ์การลองใช้งาน Youtube Music และ Youtube Red ให้ฟังกันครับ
ขอแนะนำให้ฟังก่อนว่าแต่ละตัวนั้นคืออะไรจะได้แยกออกจากกันได้
Youtube Music
เป็นแอปพลิเคชันจาก Youtube ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการฟังเพลงและดู MV ของเพลงโดยเฉพาะ (แตกต่างจากแอป Youtube ปกติที่จะมีทุกคลิปอยู่ในนั้น) ฉะนั้นหากต้องการฟังเพลงโดยเฉพาะให้ใช้แอป Youtube Music แทนจะได้ไม่ต้องเห็นคลิปกวนใจอื่นๆ
Youtube Red
เป็นบริการพิเศษที่ต้องเสียค่าบริการรายเดือนจำนวน $9.99 USD (ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน) หลังจากสมัครแล้วสิ่งที่ผู้ใช้จะได้คือ สามารถโหลดคลิปเพลงไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้ซึ่งบอกเลยกว่าโหลดได้ทุกคลิปและอีกฟีเจอร์หนึ่งคือการฟังเพลงแบบพื้นหลัง (Background Play) แม้จะพับแอป Youtube ลงแล้วเพลงก็ยังคงเล่นต่อเนื่องไม่หยุด และที่สำคัญคือไม่มีโฆษณากวนใจ
การใช้งาน
สิ่งแรกที่ต้องทำคือการสมัครใช้ Youtube Red เสียก่อนซึ่งราคาก็อย่างที่บอกคือ $9.99 USD และตอนนี้ใช้งานได้ในบางประเทศเท่านั้นเช่น สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
การสมัคร Youtube Red จะต้องมีบัญชีอีเมลของ Google เพื่อเปิดใช้งาน Google Wallet, ที่อยู่จะต้องตั้งค่าให้เป็นประเทศสหรัฐอเมริกาและการชำระเงินนั้นสามารถตัดผ่านบัตรเครดิตและ Paypal ก็ได้ (การทดสอบนี้ผมให้ตัดผ่าน Paypal)
ทดสอบใช้งาน Youtube Red หลังสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ได้คือดาวน์โหลด MV ไว้ดูออฟไลน์ได้ เล่นเพลงแบบพื้นหลังได้และไม่ต้องดูโฆษณาอีก
จบจาก Youtube Red แล้วมาดู Youtube Music กันดูบ้างครับ
อย่างที่บอกนะว่า Youtube Music เป็นแอปที่ทาง Youtube แยกออกมาสำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ หน้า UI ของแอปใน App Store จะเป็นเช่นนี้ (ดาวน์โหลดจาก US Store)
ติดตั้งเสร็จก็เข้าระบบด้วยอีเมลของ Google อันเดียวกับที่เราสมัคร Youtube Red ไปที่ข้างบนนะครับ
จุดเด่นของ Youtube Music คือมีเพลงทั้งไทยและสากลซึ่งทั้งนี้จะซิงก์เพลงต่างๆ ที่เราเคยกด Like หรือเซฟไว้ใน Youtube Account ของเรามาด้วย และเพิ่มเติมที่เด่นๆ คือ
สามารถปรับโหมดได้ว่าจะได้เล่นแบบวีดีโอหรือเลือกเฉพาะเล่นไฟล์เสียงเท่านั้น
เพลงนั้นมีหลากหลายทั่วโลกตามที่เหล่าศิลปินและค่ายเพลงได้อัปโหลดลง Youtube ทั้งนี้เรายังสามารถกด Like, Share วีดีโอได้เช่นเดิม
นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเพลงไว้ฟังตอนออฟไลน์ได้ด้วยเช่นกัน
จบลงไปแล้วครับกับรีวิวสั้นๆ ของ Youtube Music และ Youtube Red เล่นครั้งแรกก็ยังงงๆ อยู่เดี๋ยวค่อยลองไปเรื่อยๆ อย่างที่แจ้งนะว่าครับว่าทั้งสองบริการนั้นยังไม่รองรับการใช้งานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (ส่วนที่ผมทดสอบได้นั้นเพราะเชื่อมต่อ VPN ไปประเทศสหรัฐอเมริกา) และค่าบริการผมมองว่าค่อนข้างที่จะแพงเมื่อเทียบกับ Apple Music และ Spotify
แต่เหล่าเจลเบรคก็คงบอกเลยว่าฟีเจอร์เหล่านี้ลงทวีคเดียวอย่าง Youtube++ ก็ใช้งานได้แล้ว 🙂 แต่ก็ใช่ว่าทุกเครื่องหรือว่าทุกคนจะเจลเบรคนะครับ ดังนั้นเลือกใช้ตามความพอใจและสมัครใจของแต่ละคนได้เลยตามสะดวกครับ
หากมีคำถามหรือข้อสงสัยโพสถามไว้ที่คอมเมนต์ด้านล่างและผมก็ยังไม่ทราบเช่นกันว่า YouTube Music และ YouTube Red จะเข้าไทยเมื่อไหร่ แต่ถ้าเข้าแล้วจะแจ้งให้ทราบนะครับ
ดาวน์โหลด YouTube Music ได้ฟรีที่ App Store
