ผมรู้จักแบรนด์ ZUS เพราะ Car Charger ซึ่งจุดเด่นของตัวนี้ที่สามารถระบุพิกัดที่จอดรถได้ด้วยเดี๋ยวผมจะมีรีวิวตัวนั้นให้ชมด้วยนะแต่ว่ารอบนี้ขอนำสายชาร์จของ ZUS ที่เป็น Lightning มาให้ชมกันก่อน ซึ่งบอกเลยรีวิวนี้จะเอามายำกันให้สนุกไปเลย เพราะอะไรหนะเหรอ? ก็เพราะ ZUS เคลมไว้ว่า “สายชาร์จนี้แข็งแกร่งมาก” เราจึงต้องมาพิสูจน์กันว่าจะสมกับที่พูดเอาไว้หรือไม่
รู้จักกับสายชาร์จจาก ZUS
สายชาร์จที่นำมารีวิวให้ชมมี 3 แบบคือ
- USB-A to Lightning Cable สำหรับใช้กับ iPhone, iPad
- USB-A to Micro USB Cable สำหรับใช้กับ Android Phone
- USB-A to USB-C Cable ใช้กับสมาร์ทโฟนบางรุ่นและ Macbook 12″
จุดเด่นของสายชาร์จ ZUS
- การออกแบบให้แข็งแรงโดยการนำเส้นใย Aramid Fiber (Kevlar®) มาเป็นส่วนประกอบของสาย ส่งผลให้อายุการใช้งานนั้นยาวนานกว่าเดิม
- หัวเสียบ USB-A และตัวสายทำมุม 90 องศาเพื่อให้ใช้งานได้ที่แคบและลดโอกาสของสายหักได้
- ความยาวของสายอยู่ที่ 1.2 เมตร (4ft)
- ออกแบบที่ประเทศเยอรมันแถมยังรองรับกับ ZUS Car Finder/USB Charger อีกด้วย
- ที่สำคัญสายนี้มาพร้อมการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน
- ได้รับมาตรฐาน MFi จาก Apple
เอาหละได้ทราบจุดเด่นของสายชาร์จ ZUS ไปแล้ว และตอนนี้ทีมงานได้ทดสอบใช้งานกันมาเป็นเวลาพอสมควรล้ว วันนี้จะมารีวิวให้ฟังกันครับว่า สาย ZUS ดีและคุ้มค่ากับการซื้อมาใช้งานหรือไม่ เดี๋ยวรู้กัน!
สัมผัสแรกของ ZUS
รีวิวสายชาร์จมาก็เยอะแต่สายชาร์จ ZUS Lightning นั้น จุดที่โดดเด่นที่สุดคือหัว USB-A ส่วนที่เสียบกับอะแดปเตอร์หรือพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์นั้นออกมาให้ทำมุมฉากกับตัวสายชาร์จ ป้องกันการหักได้ดีขึ้น
มองไม่เห็นภาพใช่ไหม? นี่ครับเปรียบเทียบสาย Apple Lightning และ ZUS Lightning เห็นความแตกต่างชัดเจนเลย
อย่างที่เห็นในภาพด้านบน การที่ ZUS ออกแบบหัว USB-A ให้ทำมุม 90 องศากับตัวสายนั้นก็เพื่อโอกาสในการพับและหักงอของสายได้ ปัญหาสายชาร์ตคอหักคอพับก็จะหมดไป
วัสดุและคุณภาพของสาย
ปกป้อง 5 ชั้นเพื่อความแข็งแรงและสุดๆ ด้วยการนำ Aramid Fiber หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ Kevlar (เคฟล่า) ซึ่งเป็นเส้นใยชนิดพิเศษแบบเดียวที่ใช้ผลิตเสื้อเกราะกันกระสุนมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแรงให้กับสายชาร์จเส้นนี้อีกด้วย
มองภายนอกสาย ZUS Lightning (และอีก 2 รุ่น) นั้นชั้นนอกสุดจะหุ่มด้วยเส้นไนลอนที่นำมาถักทำให้เกิดความเหนียวแข่งแรงแต่ยืดหยุ่นได้ดี ถัดเข้าไปเป็นชั้นของ PVC
ชั้นที่ 3 และ 4 เป็นชั้นของ EMI Grouding (EMI – electromagnetic interference หรือ การรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า) เรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือชั้นนี้จะป้องกันการรบการจากคลื่นแม่เหล็กไปฟ้ามีผลกับเรื่องกระแสที่ไหลในสายชาร์จนั่นเองครับ
ชั้นที่ 5 ก่อนที่จะถึงลวดทองแดงที่นำกระแสนั้น ZUS ใช้ Aramid Fiber มาหุ้มเพื่อเสริมความแข็งทำให้ไว้ใจได้ว่าสาย ZUS Lightning นั้นจะแข็งแรงตามราคาคุยอย่างแน่นอน
หลายคนดูภาพจากโฆษณาแล้วอาจจะไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ วันนี้ทีมงาน iPhoneMod จัดให้ครับ ลองฝ่าข้างในให้เห็นกันไปเลยเทียบกับสายชาร์จของ Apple ว่าจะเป็นอย่างไร
ก่อนตรวจสอบภายในสายเรามาชอบภาพภายนอกของสายก่อนแล้วกันครับ ดูด้วยตาของคุณเองเลยนะครับ(คลิกที่รูปเพื่อชมภาพขนาดเต็ม)
ภาพตัดสาย Apple Cable vs. ZUS Lightning Cable
จะเห็นส่วนประกอบภายในของสายชาร์จทั้ง 2 เส้นพร้อมกับส่วนประกอบภายในเมื่อตัดลงไปลึกสุดที่เส้นหุ้มสายทองแดงพบว่าสาย ZUS Lighting Cable นั้นมีเส้นใย Amarid Fiber หุ้มสายทองแดงก่อนที่จะถูกหุ้มด้วยยาง(ที่เป็นสีๆ) อีกชั้น ต่างกับของ Apple จะไม่มีตัวนี้ครับ
เห็นแล้วคงจะสะใจไปตามๆ กันไปเลยใช่ไหมหละ 🙂 ยังไม่หมดแค่นี้ครับ เราจะไปต่อกันอีกที่การทดสอบแบบหนักๆ เอาให้รู้กันไปเลยว่าแข็งแกร่งจริงไหม แต่ก่อนที่จะลงภาคสนามเราไปชมประสิทธิภาพเรื่องการรองรับกระแสในการชาร์จอุปกรณ์กันก่อนดีกว่าครับ
การทดสอบชาร์จอุปกรณ์
ทดสอบชาร์จ iPhone, iPad (ZUS Lightning)
แหล่งจ่ายไฟใช้ Apple iPad Adapter 12W
- ทดสอบชาร์จ iPhone 6s Plus รองรับกระแสสูงสุด 2.1A ผลที่วัดได้ 1.5 – 1.8A
- ทดสอบชาร์จ iPad mini 2 รองรับกระแสสูงสุด 2.1A ผลที่วัดได้ 2.0 – 2.28 A
- ทดสอบชาร์จ iPhone SE รองรับกระแสสูงสุด 1A ผลที่วัดได้ 0.6 – 0.82A
สรุปคือพบว่ากระแสไฟนั้นไหลได้ตามมาตรฐานตามที่ iPhone, iPad รุ่นนั้นๆ สามารถรองรับกระแสและชาร์จ อุปกรณ์ดังกล่าวได้ปกติ ดังนั้น ZUS Lightning Cable ผ่านการทดสอบนี้ครับ
ทดสอบชาร์จ Macbook 12″ (ZUS USB-A to USB-C Cable)
แหล่งจ่ายไฟใช้ Apple iPad Adapter* 12W และแบตเตอรีสำรอง SOLOVE ความจุ 10,000 mAh
แหล่งจ่ายไฟทั้ง 2 นั้นหัวจ่ายเป็น USB-A สามารถใช้งานร่วมกับ ZUS USB-A to USB-C ได้โดยนำหัว USB-A เสียบเข้าแหล่งจ่ายและนำ USB-C เสียบเข้ากับ Macbook 12″ ผลที่ได้คือ สามารถชาร์จ Macbook 12″ ได้ สถานะของแบตเตอรีขึ้น Charging ดังนั้นการทดสอบนี้ ZUS USB-C ใช้ชาร์จ Macbook 12″ ได้จริงครับ**
*หมายเหตุ-ปกติแล้ว Macbook 12″ นั้นจะมาพร้อมตัว Adapter ขนาด 29W ซึ่งหัวจ่ายไฟออกนั้นจะเป็น USB-C ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้งานร่วมกับ ZUS USB-C เส้นนี้ได้
**การชาร์จนั้นกระแสจะขึ้นช้ากว่าการชาร์จผ่าน Adapter ของ Macbook 12″ เพราะว่ากำลังไฟจาก iPad Adapter นั้นมีเพียง 12W ซึ่งน้อยกว่าของ Macbook ที่ขนาด 29W ดังนั้นถ้าจะชาร์จให้เต็มต้องใช้เวลานานกว่าปกติค่อนข้างมาก ทีมงานแนะนำว่าการชาร์จแบบนี้เพื่อแก้ขัดในกรณีที่จำเป็นเช่นหาปลั๊กเสียบไฟไม่ได้แต่เรายังสามารถชาร์จจากแบตสำรองได้นั่นเอง ถือว่าเป็นจุดเด่นของสายเส้นนี้เลยครับ
นอกจากนี้ ZUS USB-A to USB-C Cable เส้นนี้สามารถใช้กับ Android Phone อย่าง Huawei Nexus 6P, LG Nexus 5X และรุ่นอื่นๆ อีกมากมายครับ
ทดสอบชาร์ต Android Phone และแบตสำรอง (ZUS USB-A to Micro USB Cable)
แหล่งจ่ายไฟใช้ Apple iPad Adapter* 12W
- ทดสอบชาร์จ Android Phone Samsung Galaxy J7 กระแสไฟวิ่งประมาณ 1.3-1.5A
- ทดสอบชาร์จแบตสำรอง Solove Swift 100 สเปค Input รองรับได้ 2 ค่าคือ ไฟตรง DC 5V/2.1A และ 9V/1.5A ชาร์จแล้วกระแสไฟวิ่งประมาณ 2.0 – 2.28A
ดังนั้น สรุปได้ว่าสาย ZUS USB-A to Micro USB Cable เส้นนี้สามารถจำกระแสได้สูงเกิน 2A และใช้ได้กับ Android Phone และแบตเตอรีสำรองจริง
ทดสอบความแข็งแรงสาย ZUS USB-A to Lightning Cable
สภาพหลังโดนรถเหยียบ
สภาพหลังสายโดนทุบด้วยฆ้อนสายถักแตกครับ(ทุบแรงมาก) แต่ยังสามารถใช้สายชาร์จได้ปกติครับ
ภาพขยะยืนบนสายชาร์จรับน้ำหนักตัว 60 กก. (น้ำหนักกล้อง DSLR 2.5 กก. ครับ) ผลการทดสอบก็เป็นไปตามในคลิปครับ
สรุป
คงได้เห็นกันไปแล้วกับรีวิวในคลิปพร้อมรายละเอียดด้านบนกับสายชาร์จ ZUS สุดยอดแห่งความแข็งแรงกันไปแล้ว โดยรวมแล้วถือว่าประทับใจครับ ด้วยความแข็งแรงได้รับมาตรฐาน MFi ชาร์จใช้งานได้โดยไม่ฟ้องแจ้งเตือนสายปลอม วัสดุ Amarid Fiber เกรดพรีเมี่ยมเสริมความแข็งแรงที่มาพร้อมกับ
ประกันแบบ Life Time
ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าสายชารจ์ ZUS USB-A to Lighting Cable และรุ่นอื่นๆ จะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
ราคาสถานที่จัดจำหน่าย
สายชาร์จทั้ง 3 รุ่น ราคา 890 บาท
การจัดส่ง
- ภายในกรุงเทพฯ 1-2 วัน
- ต่างจังหวัด 2-3 วัน
- ค่าจัดส่ง 50 บาท
- สั่งสินค้ายอดเกิน 1,000 บาท จัดส่งฟรี
สอบถาม / สั่งซื้อสินค้าได้ตามช่องทางนี้เลยครับ
FB: www.facebook.com/CommandShift
Inbox: m.me/CommandShift
Line: @cmdshift หรือ http://line.me/ti/p/@cmdshift
Lazada: www.lazada.co.th/cmdshift
Tel: 0863674486
ขอบคุณ Cmd+Shift ที่สนับสนุนอุปกรณ์ให้รีวิวครั้งนี้ ส่วนครั้งหน้าเราจะนำ ZUS Smart Car Finder มารีวิวให้ชมกันครับโปรดติดตามกันได้เลย
กดติดตามข้อมูลสินค้าและโปรโมชันของสินค้าแบรนด์ ZUS ได้ที่เพจ Cmd+Shift ได้ที่ Facebook https://www.facebook.com/CommandShift
ขอบคุณสำหรับการติดตามแล้วพบกับการรีวิวในครั้งต่อไปครับ
รีวิวโดยทีมงาน iPhoneMod.net